สะพานอูเบง (U-BEN)

สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก ทอดข้ามทะเลสาบตองตะมานซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองอมรปุระ

โดย...นพพล ชูกลิ่น

สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก ทอดข้ามทะเลสาบตองตะมานซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองอมรปุระ มุ่งตรงไปสู่เจดีย์เจ๊าต่อจีซึ่งอยู่อีกฝากหนึ่งของทะเลสาบรวมระยะทางยาว 2กิโลเมตร เมืองอมรปุระแปลตามความหมายได้ว่าเมืองแห่งผู้ที่เป็นอมตะเคยเป็นราชธานีเพียง 76 ปีก่อนจะย้ายราชธานีไปเป็นเมืองมัณฑะเลย์ในปี พ.ศ. 2400

สะพานแห่งนี้ถูกสร้างในสมัยพระเจ้าปุดงทรงโปรดเกล้าให้ขุนนางที่มีนามว่า “อูเบียน” เป็นผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างจึงได้ใช้ชื่อของขุนนางผู้นี้เป็นชื่อของสะพานมาตราบจนถึงทุกวันนี้รวมระยะเวลาที่สร้างไว้มากกว่า 200 ปีโครงสร้างของสะพานทำจากไม้สักที่รื้อมาจากพระราชวังเก่าแห่งกรุงอังวะมีจำนวนไม้มากถึง 1,208 ต้น มาดำเนินการก่อสร้างทุกครั้งที่ผมมาเยี่ยมเยือนสะพานแห่งนี้

สิ่งที่ผมประทับใจนอกจากความมหัศจรรย์ของตัวสะพานแล้ว ผมยังชอบวิถีชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่รอบๆ ทะเลสาบ โดยอยากให้ท่านผู้อ่านลองสังเกตการทำนาทำไร่ของผู้คนที่ยังคงใช้การทำนาแบบดั้งเดิมอยู่มาก สะพานอูเบงเป็นสะพานที่เดินด้านล่างและด้านบนมีความงดงามทั้งสองแบบแต่เดินด้านบนผมแนะนำว่าลองเดินเพียงแค่ขึ้นไปชมวิวเท่านั้นครับ แล้วลองเดินมาชมความงามที่ใต้สะพานดูไม้สักที่เป็นเสาไม้อายุ 200 ปี มีลายไม้แตกเป็นร่องแสดงถึงอายุของเสาไม้ที่ผ่านประสบการณ์อันยาวนานทนทานต่อสภาวะที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพ ผมยังกลัวอย่างเดียวว่าเมื่อความเจริญมาถึงสะพานประวัติศาสตร์แห่งนี้จะถูกทำลายหรือเปลี่ยนแปลงเป็นสะพานคอนกรีตสำเร็จคงหน้าเสียดายไม่ใช่น้อย

ผมโชคดีมากที่ทุกครั้งที่ผมไปเยือนสะพานแห่งนี้ จะเป็นช่วงเวลาที่น้ำจะมีปริมาณน้อย ผมเลยได้มีโอกาสเดินลอดใต้สะพานไปจนได้ภาพของชาวพม่ากำลังใช้วัวไถ่นา มีฉากหลังเป็นเจดีย์สีขาวยอดปิดทองตัดกับท้องฟ้าที่เป็นสีฟ้าได้อย่างสวยงาม มันเลยชวนให้ผมจินตนาการว่า ถ้าผมได้มีโอกาสมาที่แห่งนี้อีกสักครั้งในช่วงเวลาที่นาข้าวกำลังออกรวงข้าว จะทำให้ท้องทุ่งแห่งนี้เป็นสีเขียวเต็มท้องทุ่งไปหมดคงทำให้เกิดสีสันที่สวยงามอย่างมากระหว่างสีเขียวของท้องทุ่งและเจดีย์สีขาวยอดสีทองตัดกับฟ้าที่สดใส ถ้าโชคดีได้มีโอกาสเห็นชาวนากำลังเก็บเกี่ยวข้าวไปด้วยคงจะได้เก็บภาพแห่งความประทับใจได้อีกมุมหนึ่ง

กิจกรรมอีกหนึ่งอย่างที่มาถึงสะพานอูเบงแล้วต้องทำคือการนั่งเรือชมความงามรอบๆ อ่างเก็บน้ำ จะมีทัศนียภาพที่สัมผัสถึงการใช้ชีวิตของผู้คนในการดำรงชีวิตแบบดั้งเดิมแต่สิ่งที่ผมชอบที่สุดของชาวเรือที่นี้คือการระบายสีเรือที่มีลวดลายสวยงาม เวลาที่วิ่งอยู่ในน้ำสีของเรือจะตัดกับสีของท้องน้ำได้ความงามอีกแบบ และเท่าที่ผมมีโอกาสท่องเที่ยวไปในพม่าหลายครั้ง ผมก็ยังไม่เคยเห็นการวาดลวดลายสีสันแบบนี้ที่ไหนเลย ผมคิดว่าน่าจะเป็นรูปแบบเฉพาะของที่นี่เท่านั้น หากมาที่แห่งนี้ลองให้เวลากับสถานที่แห่งนี้ให้มากหน่อยนะครับ ท่านจะได้พบมุมมองที่จะไม่ค่อยได้พบเห็นทั่วไปนัก ผมคงไม่ต้องบอกเทคนิคการถ่ายภาพนะครับ เพราะเป็นการถ่ายภาพกลางแจ้ง ถ้าจะมีเทคนิคที่เพิ่มมิติของภาพคงเป็นการถ่ายภาพแบบย้อนแสงให้เกิดเป็นเงามืดของสะพานกับผู้คนที่เดินไปมาบนสะพานจับจังหวะของภาพดีๆ แล้วจะได้ภาพสวยๆ กลับมาเป็นความทรงจำครับ

&<2288;