ของสะสมแห่งศรัทธา สมบัติ คงสวัสดิ์ศักดิ์
เดินผ่านหน้าร้านขายน้ำมันเครื่องแห่งหนึ่งย่านวรจักร หากไม่ได้ (รับเชิญ) เข้ามาภายในร้าน ก็อาจจะนึกว่า
เดินผ่านหน้าร้านขายน้ำมันเครื่องแห่งหนึ่งย่านวรจักร หากไม่ได้ (รับเชิญ) เข้ามาภายในร้าน ก็อาจจะนึกว่า
โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์
เดินผ่านหน้าร้านขายน้ำมันเครื่องแห่งหนึ่งย่านวรจักร หากไม่ได้ (รับเชิญ) เข้ามาภายในร้าน ก็อาจจะนึกว่า เป็นเพียงร้านขายน้ำมันเครื่องแห่งหนึ่ง ก็คงจะเป็นเช่นนั้น ถ้าไม่แต่ว่าเจ้าของร้านคือ สมบัติ คงสวัสดิ์ศักดิ์ เจ้าของธุรกิจน้ำมันเครื่องรายใหญ่ นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ และเจ้าของคอลเลกชันพระเครื่องพระบูชา รวมทั้งของเก่าวัตถุโบราณหายากอีกนับชิ้นไม่ถ้วน
เดินขึ้นไปที่ชั้น 2 ซึ่งถูกประยุกต์แน่นหนาเป็นห้องเก็บคอลเลกชันของสะสมอันมีค่า ได้แก่ พระเครื่องพระบูชาหายาก และของสะสมอื่น เช่น แสตมป์ในหลวง เหรียญทองคำในหลวง โคมไฟสมัยรัชกาลที่ 5 เครื่องไม้ไทย โต๊ะหมู่บูชา ตู้พระธรรม ตู้ประดิษฐานพระพุทธรูป ล้วนเป็นของเก่าเก็บสะสมที่ยากประเมินมูลค่า
สมบัติ ในวัย 57 ปี พร้อมด้วยภรรยา สมศรี คงสวัสดิ์ศักดิ์ เล่าให้ฟังว่า ย้อนหลังไปเป็นปี 2530 ขณะนั้นสมบัติอายุ 27 ปี ได้รับแบ่งการค้าและมรดกจากบิดา ภาษาจีนเรียกว่า “ปุงแก” หมายถึง การที่บิดาแบ่งธุรกิจและเงินทองแก่ลูกแต่ละคน เพื่อแยกย้ายกันไปทำธุรกิจส่วนตัว สมบัติซึ่งเป็นลูกคนสุดท้อง ก็ได้ปุงแกนี้เช่นกัน
เมื่อแยกธุรกิจจากกงสี จึงนำเงินบางส่วนไปลงทุนส่วนตัว ได้ซื้อสะสมของมีค่าหายาก เริ่มจากพระเครื่องพระบูชาซึ่งมีความสนใจอยู่เดิม และเพราะบ้านอยู่ย่านวรจักร ใกล้กับวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดสุทัศน์ เสาชิงช้า นั่นเป็นที่มาว่า เพราะเหตุใดจึงเริ่มจากพระกริ่งสายวัดสุทัศน์
จากผู้นิยมก็ค่อยๆ กลายมาเป็นผู้สนใจใฝ่รู้ ซึ่งก็ด้วยเหตุนี้ทำให้มีโอกาสพบเจอกัลยาณมิตร อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิในวงการ โดยเฉพาะอาจารย์กิจจา วาจาสัตย์ และอาจารย์บุญเหลือ ออประเสิรฐ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือในวงการพระเครื่อง โดยเฉพาะพระกริ่งสายวัดสุทัศน์ สายของสมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร)
“ผมถือว่าผมมีอาจารย์ ปรึกษาหาความรู้จากท่านทั้งสองเสมอ”
เรื่องการมีครูนี้ ถือเป็นเคล็ดสำคัญหนึ่ง สมบัติเล่าว่า ไม่อย่างนั้นก็ไม่กล้าลงทุน หลักในการลงทุนของเขา อันดับแรกต้องแท้ อันดับสองต้องสวย ซึ่งก็แน่นอนว่า พระแท้และสวยงาม มูลค่าปัจจุบันเป็นหลักล้านบาท หรือบางองค์ก็เป็นหลักหลายล้านบาท ถ้าไม่มี “ตา” ของอาจารย์ช่วยดูให้อีกชั้นหนึ่ง สมบัติบอกตามตรงว่า ก็ไม่กล้าเหมือนกัน
การลงทุนสะสมพระพุทธรูปและของมีค่าอื่นๆ สมบัติกล่าวว่า ก็เหมือนการลงทุนในหุ้น ที่ต้องมีความรู้ ถ้าไม่รู้ไม่ลงทุน โดย 27 ปีที่ผ่านมา กล้าพูดว่าได้ทยอยสะสมความรู้แตกฉานไปในหลายสายหลายกอ ต่อยอดไปเรื่อยๆ ด้วยหลัก 4 ถึง คือ เงินถึง ตาถึง ใจถึง และบุญถึง
นักลงทุนรายใหญ่เล่าว่า เงินต้องถึง ถ้าของมา เงินต้องมี ถ้าไม่มีในกระเป๋า ก็ต้องดิ้นรนหาให้มี (เคยต้องหา 74 ล้านภายใน 24 ชั่วโมงมาแล้ว) ตาถึง อันนี้อาศัยฝึกฝน และอาศัยตาของอาจารย์ที่จะดูอีกชั้นดังกล่าว มองของแม้จะยังไม่ขาดดี แต่มองคนขาด คนดีไม่ดี ไม่หลอกเราหรือไม่ ส่วนใจถึงคือกล้าลงทุน กล้าซื้อ กล้าเก็บ และสุดท้ายคือ บุญที่ต้องถึง ถ้าบุญไม่ถึง ของมาถึงมือ แต่ก็หลุดมือ
จากนั้นก็สะสมมาเรื่อย จนถึงวันนี้ ไม่ได้มีแต่พระเครื่องพระบูชา แต่แตกแขนงไปยังของเก่าวัตถุโบราณทรงคุณค่าอื่นๆ ที่พอจะนำมาอวดกันได้ มีตั้งแต่จุยเจีย แก้วหุง เงินเก่า เหรียญเงินตราพระจุลมงกุฎ และเงินเฟื้องสมัยรัชกาลที่ 5 โคมไฟวิกตอเรียนและชุดแก้วเจียระไนจากสมัยเดียวกัน รัชกาลที่ 5 สั่งทำจากอิตาลีจำนวน 2,500 ชุด โดยมีลูกศิษย์ของสมเด็จพระสังฆราช (แพ) เป็นผู้เขียนแบบ ปัจจุบันอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี
นอกจากนี้ ก็มีแสตมป์ในหลวงรัชกาลที่ 9 เหรียญทองคำในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งเก็บเป็นคอลเลกชันใหญ่ ของสะสมเหล่านี้ ไม่ได้ใช้แต่เงินที่ลงทุน หากใช้ระยะเวลาที่ยาวนานในการสะสม ใช้สายสัมพันธ์ ใช้ความรู้ความสามารถ สิ่งตอบแทนไม่ใช่มูลค่าที่เพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่คือความสุขใจและของแถมคือพุทธคุณ ที่ผ่านมาครอบครัวร่มเย็นเป็นสุข เงินทองไม่ขาดมือ ลงทุนหุ้นธุรกิจไม่เสียหาย พระแท้พระศักดิ์สิทธิ์ท่านอยู่กับเรา ก็เป็นทุนหนุนแขนเรา หรือหากเราไม่อยู่แล้ว ก็เป็นทุนหนุนแขนลูกหลานเราต่อไป
“สุขใจที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ตัวเองถนัด นั่นคือการสะสมของเก่าพระแท้พระโบราณ ของแถมคือพุทธคุณที่ท่านให้ พระแท้ท่านให้พุทธคุณ ตอนท่านอยู่กับเรา ท่านก็ให้คุณเรา หรือตอนท่านไปจากเรา ท่านก็ให้เงินเรา”
&<2288;
&<2288;
&<2288;


