posttoday

ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น...

17 กุมภาพันธ์ 2556

วันนี้ขอหยิบยกเอาพ่อลูกนักกีฬา ภายใต้คอนเซปต์ที่ว่า “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” มาให้แฟนๆ กีฬาได้รู้จัก

วันนี้ขอหยิบยกเอาพ่อลูกนักกีฬา ภายใต้คอนเซปต์ที่ว่า “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” มาให้แฟนๆ กีฬาได้รู้จัก

โดย...ราชันเบอร์23

วันนี้ขอหยิบยกเอาพ่อลูกนักกีฬา ภายใต้คอนเซปต์ที่ว่า “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” มาให้แฟนๆ กีฬาได้รู้จัก เพื่อจะได้คอยติดตามดูว่า ผลิตผลของซุป’ตาร์กีฬาเหล่านี้ จะเดินตามรอยผู้เป็นพ่อได้มากน้อยแค่ไหน???

ซีเนอดีน-เอนโซ ซีดาน

แฟนบอลคงจำเหตุการณ์นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 2006 ที่ฝรั่งเศส พบกับ อิตาลี ได้ดี เมื่อ ซีเนอดีน ซีดาน เพลย์เมกเกอร์ “ตราไก่” ฝรั่งเศส บรรจงโขกเฮดบัตต์ใส่ มาร์โก มาเตรัซซี และโดนใบแดงไล่ออก ส่งผลให้ อิตาลี ชนะดวลจุดโทษคว้าแชมป์โลกในปีนั้นไปครอง

ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น...

 

ซีดาน เป็นนักเตะระดับเวิลด์คลาส และเขามีลูกชายชื่อเอนโซ ซึ่งเล่นอยู่กับทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี ของ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ทีมยักษ์ใหญ่ใน ลา ลีกา สเปน แต่สไตล์การเล่นต่างจากพ่อราวฟ้ากับเหว เพราะ ซีดาน เล่นบอลคลาสสิก ส่วนผู้เป็นลูกเข้าบอลหนัก และชอบเล่นรุนแรงเกินเหตุ แถมยังโดนใบแดงอยู่เนืองๆ

หลายครั้ง ซีดาน ต้องออกมาเตือนลูกชาย หากจะเป็นซุป’ตาร์อย่างพ่อ “เบาๆ หน่อยลูก”

คงต้องจับตาดูว่า เอนโซ จะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับโลกอย่างผู้เป็นพ่อได้หรือไม่

เดวิด-บรูคลิน เบคแฮม

เดวิด เบคแฮม มิดฟิลด์เท้าชั่งทองอดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ ที่เพิ่งย้ายมาค้าแข้งอยู่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมมหาเศรษฐีในลีกเอิง เบคส์มีลูกชาย 3 คน คือ บรูคลิน โรมิโอ และครูซ ซึ่งแต่ละคนก็ยังไม่มีหน่วยก้านที่จะก้าวขึ้นไปเทียบกับคุณพ่อได้เลย แม้สมัยอยู่ที่สหรัฐ (ช่วงที่เบคส์เล่นให้ แอลเอ กาแล็กซี) จะมีสวมสตั๊ดลงเตะฟุตบอลให้เห็นอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเพียงแค่หนึ่งกิจกรรมเท่านั้น เพราะทั้ง 3 คนยังหลงใหลบาสเกตบอลเอ็นบีเอ หรือกีฬาเอ็กซ์ตรีม ไม่แน่อาจจะผันตัวเองเข้าวงการบันเทิงก็ได้

แต่ดูเหมือนว่า บรูคลิน ลูกชายคนโต ดูจะเดินตามรอยของพ่อได้มากที่สุด เนื่องจากมีข่าวว่าได้เข้าทดสอบฝีเท้ากับ เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อเดือนที่แล้ว

แต่หนทางยังอีกไกล เพราะ บรูคลิน เพิ่งอายุ 13 ปีเท่านั้น หากเขาหลงใหลในเกมฟุตบอล ก็เชื่อว่าน่าจะทำได้ดี เพราะมียอดติวเตอร์อย่างคุณพ่อเดวิด ที่น่าจะปั้นลูกให้โด่งดังได้ ไม่ให้เสียชื่อยี่ห้อ “เบคแฮม”

ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น...

 

พอล-ทอม อินซ์

ถือเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ตามรอยตำนานรุ่นพ่ออย่างแท้จริง สำหรับ โทมัส (ทอม) อินซ์ จูเนียร์ ที่มีพ่อชื่อ พอล อินซ์ อดีตมิดฟิลด์ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล โดย ทอม นั้นถือเป็นแข้งจากอะคาเดมีของ “หงส์แดง” แต่ไม่สามารถแจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่ได้ เลยถูกขายไปให้ แบล็กพูล ด้วยสนนราคาแค่ 5 แสนปอนด์ (ราว 125 ล้านบาท) และการเล่นใน เดอะ แชมเปียนชิพ เขาได้รับโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ แข้งขาโจ๋วัย 20 ปี เค้นพรสวรรค์อันโดดเด่นที่ซ่อนเร้นออกมาใช้ได้คุ้มค่า จนกระทั่ง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือตาหวานต้องหันมามอง และติดต่อขอซื้อกลับคืนสู่รังแอนฟิลด์ แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้

ว่ากันว่า ทอม เล่นบอลคลาสสิก ต่างกับบิดาที่มักโชว์บทโหดในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ ซึ่งน่าจะเป็นเพราะ ทอม ถนัดเล่นปีกมากกว่าตำแหน่งที่พ่อของเขาเคยเล่น


ฮูลิโอ ซีซาร์ ชาเวซ-ฮูลิโอ ซีซาร์ ชาเวซ จูเนียร์

ฮูลิโอ ซีซาร์ ชาเวซ ตำนานแชมป์โลก 4 สมัย ของสภามวยโลก (WBC) ซึ่งโด่งดังสุดๆ ในยุค 80 โดยมีสไตล์การชกที่ดุดันเร้าใจ และล่าสุดก็ได้รับการบรรจุชื่อเข้าสู่ทำเนียบหอเกียรติยศมวยสากลนานาชาติ (ไอบีเอชโอเอฟ) เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งยอดกำปั้นแดนจังโก้มีลูกชายชื่อ ฮูลิโอ ซีซาร์ ชาเวซ จูเนียร์

ชาเวซ นั้นไม่อยากให้ลูกชายดำเนินรอยค้ากำปั้นตามเขา แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถฝืนฟ้าลิขิตได้ เมื่อ ชาเวซ จูเนียร์ ก้าวเข้าสู่สังเวียนด้วยการชกมวยสากลสมัครเล่น ก่อนจะเทิร์นโปรชกอาชีพในวัย 17 ปี และขึ้นต่อยครั้งแรกเมื่อเดือน ต.ค. ปี 2003 จากนั้นก็ต่อยไต่เต้าเก็บประสบการณ์มาเรื่อย จนได้มาอยู่ในค่ายท็อปแรงก์ ของยอดโปรโมเตอร์อย่าง บ็อบ อารัม

ชาเวซ จูเนียร์ ทำผลงานได้อย่างสุดยอด โดยไม่เคยรู้จักคำว่าแพ้ ก่อนจะมาคว้าแชมป์โลกรุ่นมิดเดิลเวต สภามวยโลก ด้วยการเอาชนะ เซบาสเตียน ซบิก ของเยอรมนี ในเดือน มิ.ย. ปี 2011

อย่างไรก็ตาม เขาก็ป้องกันแชมป์ไว้ได้แค่ 3 ครั้ง ก่อนที่จะมาแพ้คะแนนเอกฉันท์พร้อมกับเสียเข็มขัดแชมป์โลกให้กับ เซร์คิโอ มาร์ติเนซ จากอาร์เจนตินา แถมในไฟต์นี้ ชาเวซ จูเนียร์ ยังสร้างเรื่องฉาวโฉ่ตามมาอีกด้วย โดยตรวจพบว่าเขาได้เสพกัญชาก่อนขึ้นชก ทำให้สภามวยโลกสั่งแบนไม่มีกำหนด

อนาคตบนผืนสังเวียนของ ฮูลิโอ ซีซาร์ ชาเวซ จูเนียร์ จะเป็นอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไป

ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น...

 

ไพโรจน์-ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์

ไพโรจน์ พ่วงจันทร์ คือตำนานนักเตะทีมชาติไทย และเป็นหนึ่งในขุนพลยุคเกรียงไกรของสโมสรทหารอากาศในยุคปี 25202530 ยุคนั้นทหารอากาศแข่งรายการไหนสนามแตกทุกที่ เราอาจจะเห็นภาพของฟุตบอลไทยลีกสมัยนี้ที่คนดูแน่นสนาม แต่แท้จริงแล้วหลายสิบปีที่แล้ว ทหารอากาศเคยสร้างปรากฏการณ์นี้มาแล้ว

นักเตะสมัยนั้นที่แฟนบอลอยากเข้าไปยลฝีเท้าในสนามนอกจาก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน และแนวรุกคนอื่นๆ อย่าง ประทีปปานขาว แล้ว อีกเสน่ห์หนึ่งของทหารอากาศยุคนั้นก็คือ คู่เซ็นเตอร์จอมแกร่ง สมศักดิ์ คำมณี กับ “น้าเด๋อ” ไพโรจน์ พ่วงจันทร์

ซึ่งลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นในวันนี้ คือ “เจ้านิว” ฐิติพันธ์พ่วงจันทร์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ ไพโรจน์ ซึ่งเดินตามรอยพ่อ กลายเป็นนักเตะดาวรุ่งที่น่าจับตามองของสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด โดยเซ็นสัญญามาร่วมทีมตั้งแต่ฤดูกาล 2010 ซึ่งสไตล์การเล่นของ “เจ้านิว” ถอดแบบมาจากพ่อเป๊ะ โดยเฉพาะสไตล์การเข้าบอลหนักและดุดัน เพื่อนร่วมทีมไว้ใจได้...

เชื่อว่าอนาคตอันใกล้นี้ ฐิติพันธ์ น่าจะก้าวขึ้นมายืนบัญชาเกมรับของทีมชาติไทยชุดใหญ่ได้แน่นอน

ฟ้าลั่น-ฟ้าลั่นจูเนียร์ ศักดิ์กรีรินทร์

วงการมวยสากลของไทยก็มีลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเช่นกัน หากย้อนไปเมื่อปี 2533 แฟนหมัดมวยคงจำ ฟ้าลั่น (ลูกมิ่งขวัญ)ศักดิ์กรีรินทร์ ที่ขึ้นชกครั้งแรกกับ ชนะ ป.เปาอินทร์ แล้วเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่เวลาต่อมาก็สามารถแย่งแชมป์โลกรุ่นมินิฟลายเวต ของสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) จาก อีริก ซาเวช (ฟิลิปปินส์) มาได้ แต่ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า ฟ้าลั่น เป็นแชมป์จอมโหม่ง เพราะใช้หัวชนคู่ต่อสู้

อย่างไรก็ตาม ฟ้าลั่น สามารถป้องกันแชมป์มาได้ 7 ครั้ง แล้วก็มาแพ้คะแนนเสียแชมป์ให้ แมนนี เมลชอร์ นักมวยฟิลิปปินส์ ช่วงกลางปี 2535 หลังจากนั้น ฟ้าลั่น ก็ร้างเวทีไปพักหนึ่ง และกลับมาชกมวยอีกครั้งโดยใช้ชื่อ ฟ้าลั่น ศักดิ์กรีรินทร์ โดยขยับขึ้นไปชกในรุ่นฟลายเวต จนได้แชมป์ของสหพันธ์มวยโลก (WBF) แต่กลับมาชกอีกครั้ง ฟ้าลั่น ไม่ประสบความสำเร็จ จนตัดสินใจแขวนนวมไปในที่สุด

ฟ้าลั่น มีลูกชายซึ่งเป็นนักมวยเช่นกัน โดยมีชื่อว่า ฟ้าลั่นจูเนียร์ ศักดิ์กรีรินทร์ ภายใต้สังกัด “เกียรติกรีรินทร์” มีโปรโมเตอร์คือ “จิมมี่” เอกรัตน์ ไชยโชติช่วง ซึ่งกำลังหมายมั่นปั้นมือให้ ฟ้าลั่นจูเนียร์ ก้าวตามรอยผู้เป็นพ่อขึ้นครองบัลลังก์โลกในอนาคตอันใกล้นี้

ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น...

 

คริสมาส-รัฐภาคย์ วิไลโรจน์

วงการมอเตอร์สปอร์ตบ้านเรา ไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก “ฟีม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ยอดนักบิดรุ่นโมโตทู ของทีมเกรซินี เรซซิง ในศึกเวิลด์จีพี โดยเจ้าของฉายา “เจ้าลิงน้อย” เป็นลูกชายคนโตของ “จั๊บ” คริสมาส วิไลโรจน์ นักแข่งรถมอเตอร์ไซค์ทางเรียบระดับตำนานเมืองไทย

แม้ว่าช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา หนุ่มวัยเบญจเพสจะโชว์ผลงานในเวทีระดับโลกไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะหลังย้ายจากรุ่น 250 ซีซี ขึ้นมาบิดรุ่นโมโตทู (600 ซีซี) ในปี 2010 แถม ฟีม ต้องประสบกับจังหวะชีวิตอันเลวร้ายอย่างที่สุด โดยต้องเสียคุณพ่อคริสมาสไปด้วยโรคมะเร็ง แล้วตัวเองยังประสบอุบัติเหตุทั้งในและนอกสนาม จนถึงขั้นต้องผ่าตัดแขน หัวเข่าพัง และสมองบวม จนเกือบจะไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติได้ แต่แล้ว ฟีม ก็สู้สุดๆ จนผ่านช่วงที่เลวร้ายมาได้

“ผลงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หากจะมีคนพูดถึงผมในแง่ลบ ก็ไม่น่าแปลก ซึ่งตรงนี้ผมไม่ได้เอามาคิดมาก แต่เปลี่ยนให้เป็นแรงขับในการแก้ไขและพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะถ้าผลงานในสนามออกมาดี เชื่อว่าหลายสิ่งหลายอย่างมันก็จะดีขึ้นตามไปด้วยอย่างแน่นอน ที่สำคัญที่สุดคือ ปีนี้ผมมองว่าช่วงร้ายๆ ได้ผ่านไปแล้ว และคิดว่าน่าจะสามารถกลับมาได้อย่างแน่นอน” ยอดนักบิดวัย 25 กล่าว

สรุปแล้ว “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” นั้นมีให้เห็นมาหลายยุคหลายสมัย แถมมีในทุกวงการ ไม่ใช่เฉพาะวงการกีฬา และจะยังคงมีต่อไปไม่มีวันสิ้นสุด เพราะพ่อแม่ถือเป็นครูคนแรกของลูก ทำให้พฤติกรรมเลียนแบบจึงเกิดขึ้นไปโดยธรรมชาติ

หากผู้ให้กำเนิดทำดีเป็นตัวอย่าง โอกาสที่ลูกจะดีก็มีสูง แต่หากประพฤติชั่วนอกลู่นอกทาง ลูกก็คงจะเอาดียาก และที่สำคัญมันกระทบไปถึงสังคมในวงกว้างด้วย ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นมากมายในสังคมบ้านเรา

 

ข่าวล่าสุด

ชี้จุด วิ่งฟรี มอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน - นครราชสีมา ต้องไปจุดไหน?