ยุทธนา เบื้องกลาง ไม่มีอะไรหนักถ้าต้องทำเพื่อครอบครัว
ถ้าเอ่ยชื่อ “ยุทธนา เบื้องกลาง” ฟังดูอาจไม่คุ้นหูนัก แต่ถ้าบอก “ตูมตาม เดอะสตาร์ 7”
โดย... วรธาร ทัดแก้ว ภาพ ฐิติพร ชุณหชา
ถ้าเอ่ยชื่อ “ยุทธนา เบื้องกลาง” ฟังดูอาจไม่คุ้นหูนัก แต่ถ้าบอก “ตูมตาม เดอะสตาร์ 7” ใครๆ ก็ต้องร้องอ๋อ น้อยคนที่จะไม่รู้จักหนุ่มกตัญญูคนนี้ที่ตอนนี้ทั้งเรียน ทั้งทำงาน และดูแลครอบครัวไปพร้อมๆ กัน ถือเป็นแบบอย่างที่ดีของเยาวชนไทยในยุคนี้
จากเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง
ใครจะคิดว่าเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่รักในการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก แล้ววันหนึ่งชะตาชีวิตได้ชักนำให้เข้ามาประกวดร้องเพลงในรายการ เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปีที่ 7 และแล้วชื่อของเขาก็เป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศเมื่อคว้าดาวดวงที่ 7 แห่งเดอะสตาร์ ปี 2554 มาครอง
จากวันนั้นถึงวันนี้ เขายังเป็นตูมตามคนเดิม ที่มีนิสัยนบนอบ ถ่อมตน มีสัมมาคารวะและสำนึกบุญคุณผู้ใหญ่ตลอดจนผู้มีพระคุณที่ทำให้เขาก้าวมาถึงจุดนี้ได้ โดยเฉพาะพ่อแม่ถือเป็นบุรพบุคคลที่สนับสนุนส่งเสริมและให้กำลังใจเคียงใกล้เขาด้วยดีมาตลอด จึงไม่แปลกที่วันนี้เขามีเป้าหมายชีวิตที่จะทำเพื่อครอบครัวอันเป็นที่รัก
ปัจจุบันตูมตามพาพ่อแม่มาอยู่ด้วยกันที่คอนโดมิเนียมเพื่อต้องการโอกาสที่จะได้อุปถัมภ์บำรุงดูแลใกล้ชิดโดยเฉพาะคุณแม่ที่ป่วยมีโรคประจำตัว และที่สำคัญเป็นความต้องการที่อยากให้พ่อแม่มาอยู่ใกล้ๆ เพื่อเวลาเหนื่อยๆ กลับมาพอได้เห็นหน้าพ่อแม่ ความเหนื่อยได้หายเป็นปลิดทิ้ง
“ตอนนี้ผมพาคุณพ่อคุณแม่และพี่ชายมาอยู่ด้วยกันที่คอนโดเพื่อที่เราจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกเหมือนที่เราเคยอยู่ด้วยกันที่บ้านเกิดต่างจังหวัด อันนี้เป็นสิ่งที่ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะพาท่านมาอยู่ด้วย เพราะผมอยากดูแล อยากให้ท่านอยู่สบายและมีความสุขเท่าที่จะทำให้ได้ และในทุกวันนี้ในส่วนของรายได้ของผมก็มอบให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลทุกอย่างหมด รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ในบ้าน อยากจะบอกว่าทั้งสองคือยากำลังขนานพิเศษของผม ทุกวันเมื่อผมกลับจากทำงานเห็นหน้าก็หายเหนื่อยแล้วครับ” เดอะสตาร์ 7 เผยทั้งสีหน้าสดใส
เพื่อครอบครัวไม่มีอะไรหนัก
ตูมตาม เล่าต่อว่า การที่มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทำให้รู้สึกมีกำลังใจมากยิ่งขึ้นในการทำงาน ชีวิตเริ่มลงตัวทั้งในเรื่องงาน เรื่องเรียน และครอบครัว ทุกวันนี้เวลาทำงานไม่มีความรู้สึกว่าตัวเองทำงานหนัก หรือลืมคิดว่าตัวเองทำงานหนักไปเลย
“ตอนที่ผมอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว พ่อแม่อยู่ต่างจังหวัดชีวิตค่อนข้างลำบาก บางครั้งเราไปทำงานตั้งแต่เช้ากลับมาก็ดึก ก็อาจบกพร่องในการดูแลตัวเองในชีวิตประจำวัน แต่พอคุณพ่อคุณแม่มาอยู่ด้วย ท่านช่วยดูแลในส่วนของงานบ้านและรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ผมเต็มที่กับงานนอกบ้านอย่างไม่รู้จักคำว่าหนักว่าเหนื่อย พอกลับบ้านทุกเย็นเจอหน้าพ่อแม่ พี่ชาย กินข้าวด้วยกัน มีความสุขที่สุดครับ”
เดอะสตาร์ คนที่ 7 ของเมืองไทย กล่าวต่อว่า แม้ตอนนี้จะเรียนหนังสือและทำงานไปด้วยก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องหนักหนาและเหน็ดเหนื่อยอะไร เพราะมีการจัดสรรเวลาเรียนและทำงานอย่างเหมาะสมและความยืดหยุ่น โดยเอางานเป็นที่ตั้งเนื่องจากต้องดูแลครอบครัว พร้อมกันนี้ในเรื่องเรียนก็ได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเป็นอย่างดีทำให้ได้ทั้งงานและการเรียนโดยไม่ต้องหยุดอย่างใดอย่างหนึ่ง
“ผมจะแบ่งเวลาเรียนและทำงานโดยเอางานเป็นเมนหลัก เช่น อาทิตย์หนึ่งอาจถ่ายละคร 4 วัน อีก 3 วันที่เหลือไปเรียน เป็นต้น หรือถ้าวันไหนไม่มีถ่ายละคร ไปเรียนได้ก็จะไป แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องขอบคุณอาจารย์สอนที่ให้ความช่วยเหลือหลายๆ อย่าง เช่น อาจไม่จำเป็นต้องไปเรียนทุกวัน ให้ไปติวนอกรอบ หรือทำงานส่งภายหลังได้” ตูมตาม พูดถึงการแบ่งเวลา
เป้าหมายในอนาคต
เดอะสตาร์ 7 กล่าวว่า การที่ทำให้เขามีโอกาสได้เข้ามาทำงานตรงนี้นั้นมีสองปัจจัยหลักก็คือ ความรักในดนตรีและการร้องเพลง และเมื่อมีโอกาสได้ทำในสิ่งที่รัก ผลที่ตามมาคือช่วยทำให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
“ดังนั้นสิ่งที่อยากทำต่อไปจากนี้ก็คือ สร้างความมั่นคงในชีวิต โดยจะทำให้ทุกคนที่รักคือพ่อแม่อยู่สุขสบายตราบนานเท่านาน แม้ว่าในวันข้างหน้าจะไม่ได้อยู่ในวงการนี้แล้วก็ตาม”
นี่คือแบบอย่างที่ดีของคนรุ่นใหม่ที่หัวใจเต็มไปด้วยความกตัญญูรู้คุณ ซึ่งตูมตามยอมรับว่าเขาได้มาจากการปลูกฝังพร่ำสอนจากพ่อแม่มาตั้งแต่เด็กๆ
“ชีวิตผมไม่ได้สบายตั้งแต่เด็ก ไม่ได้ใช้ชีวิตสนุกกับความเป็นวัยเด็กเลย เพราะตอนนั้นทางบ้านก็ทำงาน ผมก็ช่วยเขามาตลอด อยู่บ้านขายของ ตื่นเที่ยงคืนไปช่วยแม่เชือดหมูเพราะที่บ้านมีเขียงหมู เช้าไปส่งของ พอกลับมาบ้านก็อาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน กลับจากโรงเรียนก็มาช่วยเก็บของ ทำอย่างนี้ตลอดจนกลายเป็นว่าเราสนุกกับการทำงานตั้งแต่เด็กแล้ว”
เกร็ดชีวิต ‘ตูมตาม’
ชื่อเล่น : ตูมตาม (เมื่อก่อนป้าตั้งชื่อ “อุ๊บอิ๊บ” แต่แม่เปลี่ยนใหม่เพราะชื่อเหมือนผู้หญิง)
ส่วนสูง : 177 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 66 กิโลกรัม
พี่น้อง : 2 คน เป็นคนสุดท้อง
การศึกษา : กำลังศึกษานิเทศศาสตร์ สาขาการประชาสัมพันธ์ ปีที่ 3 มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ทุนพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สาขาวัฒนธรรมไทย ประเภทนักร้องลูกทุ่ง
นิสัย : อ่อนน้อม ถ่อมตน
สังกัดค่าย : จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
ผลงานที่ประทับใจ:
งานเพลง : มีอัลบั้มของตัวเอง ชื่ออัลบั้ม “ตูมตาม” และมีเพลงในอัลบั้มพิเศษมากมาย
ละครเวที : สี่แผ่นดิน เดอะ มิวสิคัล เล่นมากถึง 100 รอบ
ละครเรื่องแรก : แผนร้ายแผนรัก รับบทเป็น อิศร พระเอกของเรื่อง คู่กับ เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน เตจะสา เวศซ์ ออนแอร์ทางช่อง 5 วันที่ 13 ก.พ. 2556 นี้.
นักแสดงที่ชอบ : เคน ธีรเดช
นักร้องที่ชอบ : หลายคน หลายวง
อาหารจานโปรด : ส้มตำกับแคบหมู
ประทับใจที่สุด : เกิดมาในครอบครอบครัวที่มีคุณพ่อคุณแม่ที่ดี และประกวด เดอะสตาร์แล้วเห็นพ่อแม่มีความสุข ภูมิใจมาก : มีเรื่อยๆ แต่ทุกครั้งที่ทำงานและแบกรับภาระหนักๆ ของครอบครัวจะภูมิใจมาก
คติประจำใจ : ทะเลาะกันไว้ก่อน ดีกว่าทะเลาะกันทีหลัง (คือมีอะไรพูดกันตรงๆ)
ความสามารถอื่นๆ : เล่นกีตาร์ เป่าขลุ่ย อูคูเลเล
ความฝันในวัยเด็ก : อยากเป็นทหาร แต่ปัจจุบันแค่อยากจะมีชีวิตที่ดีในครอบครัวเท่านั้น
ผู้หญิงที่อยากแต่งงาน : เหมือนแม่ที่รักงานบ้านงานเรือน และมิใช่รักแค่ตัวเรา แต่ต้องรักทุกคนในครอบครัวด้วย
กิจกรรมครอบครัววันว่าง : ชวนคุณพ่อคุณแม่ไปทำบุญ หรือเที่ยวทะเล พักผ่อนกินข้าวด้วยกัน
มีค่ามากที่สุด : ทุกคำสอนของพ่อแม่