เจเนอเรชันใหม่โรงแรมไทย ไปไกลกว่ารุ่นบุกเบิก?!
โดย...ปอย
โดย...ปอย
ทายาทกลุ่มผู้บริหารโรงแรมระดับ 56 ดาวที่เป็นเจเนอเรชันใหม่น่าจับตา ได้ดั่งใจคุณพ่อคุณแม่มีลูกทันใช้ ใครเป็นใคร?!! จัดมาให้ทำความรู้จักกันกับ 2 โรงแรมหรู
รุ่นสองดาราเทวี “ทำให้สุดๆ สไตล์คุณพ่อ”
นักท่องเที่ยวฝรั่งตื่นเต้นกับบ้านไม้เรือนกาแลวิลลา ตื่นเต้นที่ได้ลงจากบันไดมาเจอท้องนา มีควายเคี้ยวเอื้อง มีผักสวนครัวออร์แกนิกให้เก็บไปคุกกิ้งด้วยตัวเอง ในสายตานักดีไซน์ผู้ออกแบบแนวคิดโรงแรมในเมืองไทย หลายคนยกนิ้วให้กับ แมนดาริน โอเรียนเต็ล ดาราเทวี เชียงใหม่ วิลลาหรูหรากลางทุ่งนา ต.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ซูฮกยกให้เป็นสไตล์อันลือลั่นของโรงแรมระดับเวิลด์คลาสเพียงแห่งเดียวของสยามประเทศ
รีสอร์ตที่มีการออกแบบไม่ซ้ำใคร ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมชั้นสูง และมรดกที่เป็นศิลปวัฒนธรรมที่สวยงามซึ่งมีความเจริญรุ่งเรืองในยุคล้านนา สมัยกลางศตวรรษที่ 13 จนถึงกลางศตวรรษที่ 16 และมีความงดงามยิ่งขึ้นจากการฟื้นคืนชีพของศิลปะการออกแบบในยุคสมัยเมื่อ 200 ปี
2 ทายาทของผู้ก่อตั้งโรงแรม สุเชษฐ์ชลลดา สุวรรณมงคล “แอม น้ำพราว” “ไปป์ กลางชล” ถือว่ายังละอ่อนนักเมื่อเทียบอายุ 30 ปีต้นๆ กับภาระหน้าที่นักบริหารเลือดใหม่ ที่ต้องบริหารงานโรงแรมใหญ่ที่มีเนื้อที่ขนาด 150 ไร่ เงินลงทุนมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท
“เรียนจบมาก็ทำงานทันทีเลย วันนี้โรงแรม 7 ปีแล้วค่ะ ตอนเริ่มต้นขลุกขลักๆ บ้าง กรณีนักวิชาการล้านนาต่อต้านกรณีจำลองโบราณสถานและสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์เข้าไปไว้ในโรงแรม แต่ตอนนี้ปัญหาคลี่คลายไป ซึ่งเวลานั้นคุณพ่อก็มีความมั่นใจมากนะคะ ก็ทำให้ในวันนี้รุ่นลูกๆ เราตอบได้มั่นใจมากเลย และเราอยากทำอะไรใหม่ๆ เพิ่มขึ้นค่ะ” น้ำพราว นักธุรกิจหญิงหน้าใสกิ๊งเหมือนเด็กเพิ่งเรียนจบ แต่ให้คำตอบในแบบเอ็มดีหญิงพร้อมลุยงานที่มีการแข่งขันสูง
โพรไฟล์เป็นเด็กเรียนเต็มเนื้อเต็มตัว น้ำพราว สุวรรณมงคล จบปริญญาตรี คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดีกรีระดับเกียรตินิยมอันดับ 1 เมื่อกิจการครอบครัวคือการบริหารงานด้านโรงแรม จึงตัดสินใจเรียนต่อในระดับปริญญาโทด้านการบริหารโรงแรมจาก เซซาร์ ริตซ์ คอลเลจ สวิตเซอร์แลนด์ และเข้าฝึกงาน management trainee ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ฮ่องกง และกลับมาเริ่มงานที่โรงแรมแมนดารินโอเรียลเต็ล ดาราเทวี จ.เชียงใหม่
ส่วนลูกชายคนเดียวของบ้านนี้ อายุต้นๆ 30 ปีไล่เลี่ยกันกับพี่สาว ไปป์ กลางชล ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการโรงแรม ดาราเทวี อาจกล่าวได้ว่า เป็นการทำงานแบบกระโดดข้ามวงการเลยทีเดียว จากงานเพนต์ติงที่ร่ำเรียนมาจากคณะศิลปกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากหนุ่มศิลป์กลับต้องมารับงานด้านบริหาร ควบทั้งงานการตลาดที่อีซูซุ ออโต้เซ็นเตอร์ และผู้บริหารหนุ่มไฟแรงโรงแรมเวิลด์คลาส กลางชลบอกว่าไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่หนักใจ กลับรู้สึกสนุก เพราะการเรียนศิลปะ ฝึกให้เขารู้จักคิดนอกกรอบ ดังนั้นเมื่อมาปรับใช้กับการบริหารงาน จึงเกิดเป็นไอเดียทางด้านการตลาดแบบใหม่อยู่เสมอ
“ผมเน้นวิธีทำงานที่ต้องสนุก ครีเอทีฟ และที่สุดต้องรู้จักแบรนด์ของเรา ส่วนคีย์ความสำเร็จจากคุณพ่อท่านไม่ได้ทิ้งอะไรเลยครับ (บอกพลางหัวเราะ) พ่อไม่เครียด ไม่เข้มงวด พ่อบ้านนี้ไม่เคยบังคับจิตใจลูกเลยนะครับ ดูการเรียนของผมกับพี่สาวก็ได้นะครับ ไม่มีใครเรียนทางธุรกิจโดยตรงเลย แต่สิ่งที่ได้มาจากท่านก็น่าจะเป็นวิธีคิดในสไตล์อาร์ตนำธุรกิจ โรงแรมนี้ผมว่าเป็นแห่งเดียวที่มีฝ่ายศิลปวัฒนธรรม” กลางชล กล่าว
“เราซึมซับทำงานกับท่านมาเรื่อยๆ งงๆ สไตล์ออนโกอิงค่ะ (หัวเราะ) อย่างโรงแรมนี้ตอนแรกก็บอกว่ามาซื้อที่ดินเชียงใหม่ปลูกบ้านพักตากอากาศกันเถอะ แต่กลายเป็นว่าซื้อไปซื้อมา 150 ไร่ สร้างโรงแรมดีกว่าลูก ทั้งที่ตอนแรกบอกเราว่าหาอะไรทำกันเล่นๆ ดีกว่า ตอนนี้ถ้าพูดไม่ให้ลูกเครียดก็ดูแลโรงแรม 3,000 ล้านเบาๆ และอาจมีอะไรใหม่มาให้พวกเราทำได้อีกตลอดเวลา แต่ก็ดีค่ะวิธีแบบนี้เราจึงไม่เคยคิดว่างานนี้คือภาระ และหลายๆ การตัดสินใจพ่อปล่อยให้เราตัดสินใจเองเลยค่ะ” น้ำพราว บอกพลางยิ้มเบาๆ สบายๆ ยืนยัน
อาณาจักรดาราเทวีโรงแรมยุคเฟื่องฟูที่สุดในล้านนายุคหนึ่ง มีสนามกว้างใกล้กับโคโลเนียล วิง บ่อยครั้งถูกเนรมิตให้เป็นงานปาร์ตี้ท่ามกลางลมหนาวของเมืองเชียงใหม่ ให้สัมผัสถึงความโก้หรูลงตัวของสถาปัตยกรรมตะวันตกและตะวันออก ในวันที่บริหารโดยรุ่นสองก็ดูจะรุ่งไม่แพ้รุ่นแรก
รุ่นบุกเบิก 3 ดาวใบหยก ถึงรุ่นลูก 5 ดาวหัวช้าง
โรงแรมแบรนด์ไหม่ล่าสุดน้องใหม่ของตระกูลโรงแรมใบหยก “หัวช้าง เฮอริเทจ” เลือกใช้ชื่อไทยๆ เก๋ๆ เพราะอยู่เชิงสะพานหัวช้าง ปทุมวัน พื้นที่ขนาดกะทัดรัด 200 กว่าตร.ม.ความสูงโลว์ไรซ์เพียง 7 ชั้น ห้องพัก 84 ห้องแบบลักชัวรีดีไซน์โฮเต็ล ลงทุนไปไม่มากไม่น้อย 500-600 ล้านบาท!!!
บุ๊คพิมพ์เลิศ ใบหยก ลูกสาวสุดท้องของ ปริยะดาพันธ์เลิศ ประธานกลุ่มโรงแรมใบหยก วันนี้คุณพ่อคุณแม่ยกตำแหน่ง Assistant to Chairman of Baiyoke Group of Hotels ให้ลองชิมลาง
“พ่อพยายามผลักดันให้ลูกทำงานตั้งแต่เด็กๆ ค่ะ ให้ลูกลองทำงานเล็กๆ น้อยๆ ที่โรงแรมใบหยก บุ๊คขอพ่อทำงานด้านพีอาร์ดูแลภาพลักษณ์องค์กร ถ้างานในด้านนี้พ่อต้องการอะไรก็จะยกหูสายตรงมาสั่งงานเราเลยค่ะ เช่น เฟอร์นิเจอร์เดินไปพารากอนดูดีไซน์ หรือชุดพนักงานโรงแรม 80 กว่าคน บุ๊คดูแลทั้งหมด แต่ไม่ได้เป็นคนออกแบบนะคะบอกว่าใช้วิธีรวบรวมเรฟเฟอเรนต์แล้วเลือกสไตล์ที่เหมาะสมที่สุดดีกว่านะคะ
แรนดอมเอาจากอินเทอร์เนตเลยค่ะ ตอนนั้นโรงแรมเป็นแค่สเกตช์ซึ่งคุณพ่อให้โจทย์มาว่า ไทยโมเดิร์น เชิ้ตขาวมีหูกระต่ายคล้ายชาแนล พ่อกับพี่ชาย (ปิยะเลิศ) ก็ตีกลับมาให้แก้ไขบอกว่าหรูหราเกินไป เสื้อจึงเรียบๆ เพราะโจงกระเบนของเราไม่ธรรมดาอยู่แล้วนะคะ”
หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาเธอในภาพของคุณหนูเซเลบริตีตามอีเวนต์เก๋ๆ ชิกๆ แต่วันนี้เมื่อกลายเป็นเวิร์กกิงเกิร์ลเต็มตัววัยเพียง 24 ปี พิมพ์เลิศบอกพลางหัวเราะเบาๆ ว่า “ตื่นเต้นมากค่ะ อยากให้ถึงวันแกรนด์โอเพนนิงโรงแรมอย่างเป็นทางการในเดือน มี.ค. แต่เปิดให้นักท่องเที่ยววอล์กอินเข้ามาจองตั้งแต่ 11 ม.ค.แล้วค่ะ
ในช่วงเทสต์ห้องพักเราเชิญนักธุรกิจญี่ปุ่นมาลองใช้บริการ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยค่ะว่า ห้องสวยมาก แล้วความที่โรงแรมสวย บุ๊คก็อยากมาทำงานทุกวันเลยค่ะ” พิมพ์เลิศ บอกทิ้งท้ายพร้อมรอยยิ้มมั่นใจ ในทิศทางการแข่งขันในตลาดที่โอเวอร์ซัพพลาย
ซับใส่ไบไลน์รูป พิมพ์เลิศ ภาพ: พงษ์ไทย วัฒนาวนิชย์วุฒิ


