posttoday

อโศกกับกามนิตและวาสิฏฐี

18 มกราคม 2556

โดย...ม.ล.จารุพันธ์ ทองแถม

โดย...ม.ล.จารุพันธ์ ทองแถม

คำว่า อโศก หมายถึง ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของชาวฮินดู คนไทยรู้จักไม้สกุลนี้เพราะพบบางชนิดในป่าที่เป็นผลจากการกระจายพันธุ์ของมันลงมาจากยูนนานและเทือกหิมาลัยผ่านอินเดีย พม่า ศรีลังกา ไทย และมาเลเซีย

กล่าวกันว่า คำว่า อโศก (Asoka) นั้น ทำให้คนสยามย่อลงจนเหลือแค่คำว่า “โสก” (Sok) ส่วนชาวเกาะเรียกว่าโซโก (Soko)

ต้นอโศกนี้นับเป็นต้นไม้ที่มีความสำคัญในด้านพุทธศาสนา และเป็นที่นับถือของชาวฮินดูในอินเดีย เพราะพระศิวะทรงโปรดเป็นที่สุด พระนางภารวตี ผู้เป็นชายาของพระองค์ได้ทำพิธีบูชาต้นอโศก อันนำมาซึ่งเกียรติยศและความเคารพยำเกรง ยกย่องอย่างที่สุด

สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกได้เป็นครั้งแรกเมื่อได้เห็นต้นไม้ชนิดนี้ คือความเขียวสดชื่นร่มเย็นอยู่ตลอดฤดูกาล และมันเป็นสิ่งที่มีคุณค่ายิ่งในประเทศเขตร้อนชื้นสลับแห้งแล้ง ชาวฮินดูเชื่อกันว่าแม้แต่อายุขัยก็มิอาจจะทำให้มันเหี่ยวแห้งลงได้ ตั้งแต่อดีตกาลมาแล้ว ความเชื่อมั่นนั้นแน่นเฟ้น จนถึงขั้นมือของผู้มีกุศลได้สัมผัสกับต้นอโศกก็พลันผลิดอกบานพรั่งพรู เป็นที่เบิกบานใจแก่ผู้อยู่ใกล้ชิด

สำหรับพระศิวะและพระกฤษณะ นามของต้นอโศกย่อมได้รับการเคารพนบนอบจากชาวฮินดูแต่โบราณ ดังนั้น การลงมือปลูกต้นอโศกจึงนับว่าทำให้ได้บุญอักโข ดังเราเห็นสตรีชาวฮินดูให้ความเคารพบูชาจนถึงกับนำน้ำสะอาดในคนโทไปชำระล้างโคนต้นไม้ชนิดนี้อยู่เสมอเท่าที่มีโอกาส ทั้งๆ ที่น้ำสะอาดสำหรับบริโภคโดยปลอดภัยนั้นเป็นสิ่งหาได้ไม่ง่ายนักในประเทศนี้

ในเนื้อเรื่องรามเกียรติ์ (Rammayana) กล่าวว่า “ราวานา” กษัตริย์แห่งกรุงลังกาได้ครอบครองป่าใหญ่อโศกวัน (ป่าแห่งต้นอโศก) ซึ่งพระองค์ขังนางสีดา (Sita) ชายาของพระรามเอาไว้หลังจากลักพาตัวพระนางสีดามาด้วย

อโศกกับกามนิตและวาสิฏฐี

 

โคนต้นอโศกในอินเดียมักจะถูกกวาดเตียนและทำความสะอาดจนน่าดูอยู่เสมอ เนื่องจากมีพิธีกรรมต่างๆ เกิดขึ้นเสมอ ที่นี่ดวงตะเกียงทำจากถ้วยดินเผาถูกจุดลุกโพลงอยู่เสมอมิได้ขาด และที่นี่เองพวงมาลัยดอกไม้นานาชนิด โดยเฉพาะดอกกุหลาบและดาวเรืองนั้นมากมายก่ายกอง ชาวบ้านนำเอาข้าวย้อมขมิ้นเหลืองนำมาบูชา (Puja) แก่พระเจ้าของพวกเขา ต้นไม้ที่ปรากฏในสวนศักดิ์สิทธิ์อีกชนิดคือต้นศรีมหาโพธิ์ ซึ่งต้องปลูกทางตะวันออกเสมอ ต้นมะตูม (Bel) ปลูกเฉพาะทางเหนือ มะขามป้อมปลูกเฉพาะทางใต้ และอโศกปลูกมุมตะวันออกเฉียงใต้ ต้นไทรย้อย (Vata) ปลูกทิศตะวันตก

ในทางพฤกษศาสตร์ ต้นอโศกมีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Saracaindica L. อยู่ในวงศ์ Caesaepinioideae เป็นต้นไม้วงศ์ถั่วให้ความสมบูรณ์แก่พื้นดิน แม้จะเป็นต้นไม้ขนาดเล็กสูง 56 ม. แต่มีเปลือกหุ้มต้นที่หนา ผิวหยาบ สีขาวอมแดง ผิวด้านในเรียบ ใบประกอบ มีก้าน ใบย่อย รูปร่างคล้ายหอก ใบหนาค่อนข้างเหนียว ดอกเกิดแน่น Sessile และสีส้มสุกปนแดงงดงามและมีกลิ่นหอม ผลยาวแบนภายในมีเมล็ดมาก

อโศกชนิดหนึ่งที่เป็นต้นไม้ป่าของไทยคือ อโศกหรือโสกน้ำ (Saracabijuga) พบทางภาคใต้ โดยเป็นต้นไม้ขนาดเล็ก พบลงไปถึงภาคกลางของมาเลเซีย และมีรายงานว่า เคอนิก นักพฤกษศาสตร์ในปี ค.ศ. 1778 ชาวสยามกินใบอ่อนและดอกของโสกน้ำ อย่างไรก็ตาม ตำราบางเล่มถือเป็นชื่อพ้องของ S.inolica โสกใหญ่หรือโสกภูเขา (S.declinata) นั้น กระจายพันธุ์อยู่ทางภาคใต้เมืองไทยไปจนถึงอินโดนีเซีย ส่วน โสกเหลือง (S.thai pingensis) นั้น นับเป็นต้นไม้ที่สวยงามมากที่สุดในสกุลนี้ โดยมีดอกใหญ่โดดเด่นสีเหลืองและมีกลีบเลี้ยงสีเหลืองเช่นกัน พบในเมืองไทยไปจนถึงมาเลเซีย ผลของมันใช้เข้ายาสมุนไพร แต่ไม่ปรากฏรายละเอียด บางครั้งเรียกกันว่าอโศกเหลืองหรืออโศกใหญ่

โสกใหญ่ (S.tniandna) เป็นต้นไม้ขนาดเล็ก พบในไทย สุมาตรา มาเลเซีย บอร์เนียว และเกาะชวา ของอินโดนีเซีย เป็นชื่อพ้องของ S.declinata

หนังสือเรื่อง กามนิต (ภาคพื้นดิน) แปลจาก Der Pilger Kamasnita ของ Kerl Adolph Gjellerup ชาวเดนมาร์ก โดยเสฐียรโกเศศ–นาคะประทีป นับเป็นงานแปลชิ้นอมตะในปี พ.ศ. 2524 ข้อความตอนหนึ่งกล่าวถึงต้นอโศกไว้อย่างน่าประทับใจดังนี้

“เฮอ! ถึงเดี๋ยวนี้ ข้าพเจ้ายังระลึกและจำต้นอโศกเหล่านั้นได้แม่นยำ ว่ามีอยู่เรียงกันเป็นแถวตลอดไปตามยาวของลานนั้น และใต้ต้นอโศกเหล่านี้เราทั้งสองเคยประคองพากันเดินเล่น จนเราให้สมญาลานนั้นว่า ‘ลานอโศก’ เพราะต้นไม้ชนิดนี้กวีให้ชื่อว่า ‘อโศก’หรือบางทีก็เรียกว่า ‘สุขหฤทัย’ ข้าพเจ้ายังไม่เคยเห็นอโศกในที่ไหนใหญ่โตงามเหมือนกับที่มีอยู่บนลานนั้น ใบซึ่งคอยสั่นไหวอยู่เสมอเห็นเป็นเลื่อมพรายเงิน เมื่อต้องแสงจันทร์ เมื่อลมโชยมาก็มีเสียงปานว่าหนุ่มสาวกระซิบกัน เวลานั้นแม้จะย่างเข้าวสันตฤดูยังแตกดอกออกช่อเป็นสีแดงบ้าง เหลืองบ้าง แก่อ่อนสลับกันไป ดูก่อนท่านภราดาจะด้วยอะไรเล้า ต้นอโศกเหล่านั้นจะไม่งดงามแตกดอกออกช่อชูไสว ทั้งนี้ก็เพราะควงต้นรับกระแสรอยบาทของนางงาม เหยียบย่างไปมาอยู่เนืองนิตย์”

“อ้าดูอโศกนี้ ศรีไสววิไลตา

อยู่หว่างกลางพนา เป็นสง่าแห่งแนวไพร ฯ

ชุ่มชื่นรื่นอารมณ์ ลมเพยพัดระบัดใบ

ดูสุขสนุกใจ เหมือนแลดูจอมภูผา ฯ

อโศกดูแสนสุข ช่วยดับทุกข์ด้วยสักครา

โศกเศร้าเผาอุรา อ้อโศกโรคข้าร้าย ฯ

อโศกโยกกิ่งไกว จงตอบไปดั่งใจหมาย

ได้เห็นพระฤาสาย ผ่านมาบ้างฤาอย่างไร ฯ

พระนั้นชื่อพระนล ผู้เรืองรณอริกษัย

เป็นผัวนางทรามวัย นามนิยม ทมยันตี ฯ”

พระราชนิพนธ์พระนลคำหลวง สรรคที่ 12

ข่าวล่าสุด

3 ชาติผนึกกำลังทลาย 'KK Park - ชเวก๊กโก' รังใหญ่ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"