‘ฮองเฮา’ ของ ‘นัด มาบุชี่’ นักเขียนที่รักหมาที่สุดในสามโลก

วันนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับสาวนักเขียนที่เป็นนักวาดภาพประกอบเองด้วย นัดณัฐวีร์ ลิมปนิลชาติ

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร + ณัฐกานต์ โดยชื่นงาม

วันนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับสาวนักเขียนที่เป็นนักวาดภาพประกอบเองด้วย นัด-ณัฐวีร์ ลิมปนิลชาติ หรือที่หลายๆ คนอาจจะคุ้นเคยกับนามปากกา “มาบุชี่” ซึ่งผลงานโดดเด่นที่ผ่านมาของเธอ คือหนังสือชื่อว่า ผู้หญิงร้องไห้ ผู้ชายไม่ได้ยิน และ รักมากไปหรือเปล่า? เป็นบทความแนวจิตวิทยาประยุกต์สำหรับผู้หญิงวัยรุ่นที่มีปัญหาเรื่องความรัก และกำลังจะมีอีกเล่มให้ติดตามในปลายเดือนนี้ ชื่อว่า ผู้ชายดีๆ ไม่ได้มีแค่ในนิยาย (ว้าว...ชักอยากอ่านซะแล้วสิ)

แต่ นัด มาบุชี่ ไม่ได้มาตัวเปล่า เธอพกน้องหมาตัวโปรดมาร่วมพูดคุยกับเราด้วย น้องหมาตัวนี้เป็นน้องหมาพันธุ์ทาง เพศเมีย อายุเพียง 7 เดือนเท่านั้นเอง เธอเรียกน้องหมาตัวนี้ซะน่ารักเชียวว่า “ฮองเฮา” เอเราถามถึงที่มาที่ไปของเจ้าฮองเฮา เธอเล่าอย่างอารมณ์ดีว่า ได้มาแบบไม่ได้เหมือนเจ้าหมาตัวอื่นๆ ที่ซื้อมาจากฟาร์ม หรือมีคนเอามาให้ แต่เธอพบเจ้าฮองเฮาผ่านทางเฟซบุ๊ก ที่มีคนใจดีเอาสุนัขจรจัดมาหาบ้าน หาเจ้าของ หาคนเลี้ยงดูเจ้าหมาผู้น่าสงสารเหล่านี้

“ตอนนั้นนัดเจอสมาชิกคนหนึ่งในเฟซบุ๊ก เขากำลังประกาศหาบ้านให้เจ้าหมาตัวหนึ่ง ซึ่งพอเราเห็นรูปลูกหมาตัวนี้ ที่มีสีน้ำตาลเข้มๆ หน้าเหี่ยวๆ แล้วถูกชะตามาก รู้สึกอยากเลี้ยงขึ้นมาทันที ก็เลยติดต่อเขาไป อีกอย่าง ก่อนหน้านี้ที่บ้านของนัดมีเจ้าหมาที่เลี้ยงดูอยู่แล้ว 3 ตัว มีพุดเดิล และอีก 2 ตัวเป็นหมาแก่พันธุ์ร็อตไวเลอร์ และโกลเดน จนต่อมาร็อตไวเลอร์ตายไป เหลือโกลเดนกับพุดเดิล แต่พุดเดิลจะเลี้ยงไว้ในบ้าน แต่สองตัวนั้นเราเลี้ยงนอกบ้าน พอร็อตไวเลอร์ตายไปก็กลัวอีกตัวจะเหงา ก็เลยหาหมามาอยู่เป็นเพื่อนกับโกลเดน ซึ่งก็ได้ฮองเฮามา”

หลายคนคงนึกสงสัยว่าทำไมนัด มาบุชี่ ถึงไม่ซื้อจากฟาร์มที่ขายหมาโดยตรง เธอให้เหตุผลว่า หากเรารับเลี้ยงสุนัขจรจัด เราจะช่วยลดปริมาณสุนัขที่มีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน บางคนมองว่าเอาหมาจรจัดมาเลี้ยง รูปร่างหน้าตาก็ไม่น่ารัก ไม่น่าเล่นด้วย แต่สำหรับเธอคนนี้ไม่ได้มองเจ้าฮองเฮาอย่างนั้นเลย

“ปกติเวลาจะเลี้ยงหมา เราก็จะมีความมุ่งมั่นในใจว่าอยากเลี้ยงพันธุ์นี้พันธุ์นั้น แต่พอเหมือนผ่านช่วงน้ำท่วมมา จากเรื่องโลกแตก นัดรู้สึกว่าทุกอย่างมันไม่แน่ไม่นอนหมดเลย อีกอย่างคือหมาจรจัดพวกนี้ในเมืองไทยยังมีปัญหาอยู่มาก หรือแม้กระทั่งหมาที่โดนจับไปชายแดน หมาจำนวนมากจะไปอยู่ในสถานกักกัน เราก็เลยคิดว่าถ้าเราเป็นคนหนึ่งที่ลดปริมาณหมาไปได้อีกตัวหนึ่ง โดยรับเอาเขามาเลี้ยง เขาจะได้ไม่ต้องไปเป็นหมาจรจัด อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องไปเสี่ยงกับการถูกรถชน ถ้าเขาเป็นโรคพิษสุนัขบ้า ก็ไม่ต้องไปกัดคนอื่น ไม่ต้องไปเสี่ยงกับเรื่องพวกนี้”

ต้องบอกว่า นัด มาบุชี่ คือด็อกเลิฟเวอร์ตัวจริงเสียงจริง เพราะหมาที่เธอเลี้ยงดูแต่ละตัว เธอเลี้ยงมาตั้งแต่อายุเพียงไม่กี่เดือน จนกระทั่งตายไปตามอายุขัยของมัน ช่วงเวลาที่เลี้ยงดู จึงเต็มไปด้วยความรักและความผูกพัน ซึ่งมีมากมายเหลือเกิน

“เจ้าหมาที่นัดเลี้ยงดู ไม่ว่าจะตัวที่ตายไป หรือตัวที่ยังมีชีวิตอยู่ นัดรักและผูกพันหมดทุกตัว อย่างเจ้าฮองเฮา นัดก็รักและผูกพัน เพราะฮองเฮาเป็นสุนัขที่เรียบร้อยมาก นิ่งๆ ไม่ดื้อ ไม่ซนค่ะ มันชอบยกตัวขึ้นเพื่อเอาขาหน้ามาเกาะแขนเรา เพื่อบอกให้เรารู้ว่าเขากำลังอ้อนเราอยู่นะ (หัวเราะ) อย่างนี้จะไม่ให้รักได้ไง”

สำหรับวิธีการเลี้ยงดู นัด มาบุชี่ บอกเคล็ดลับกับเราว่า ช่วงแรกๆ ที่เราเลี้ยงดูเขา ถ้าเราเลี้ยงเขาแบบไม่ตี ให้ความรักความเอาใจใส่ และความเข้าใจ พอเขาโตขึ้นเขาจะฉลาด ไม่ดุ

“สำหรับฮองเฮา ช่วงแรกๆ นัดจะเอามันมานอนด้วย ด้วยความที่เราเชื่อว่าอยากให้เขาซึมซับความอบอุ่นและความรู้สึกดีๆ ที่เรามีให้ เพราะเรารู้ว่าเขาสามารถรับรู้ความรู้สึกนี้ได้ แต่นัดไม่ได้ให้เขาอยู่กับนัดตลอดเวลานะคะ พอเขาโตขึ้น แน่นอนว่าเขาจะได้วิ่งเล่นอย่างอิสระนอกบ้านอย่างแน่นอน”

สำหรับคนที่อยากเลี้ยงหมา นัด มาบุชี่ บอกกับเราว่าอย่าตัดสินใจเพียงเพราะเห็นแก่ความน่ารัก ให้คิดก่อนว่าเขาจะอยู่กับเราอย่างน้อย 10 ปี “ที่สำคัญคือเราต้องพูดคุยกับคนรอบข้างของเราด้วย ไม่ว่าจะเป็นแฟน หรือพ่อแม่ ว่าการที่จะเอาสุนัขหรือสัตว์ประเภทใดก็ตามมาเลี้ยง มันต้องไม่เป็นภาระของเขา หากเราให้เขาช่วยเลี้ยงดู ต้องมาจากความเต็มใจ ไม่ใช่จำยอม”

ก่อนจาก นัด มาบุชี่ ฝากบอกว่า ลองหันมองหมาจรจัดซึ่งเขาก็มีชีวิตจิตใจไม่ต่างจากหมาทั่วไป และเขาเหล่านี้ยังต้องการโอกาสจากพวกเราทุกคน

“สำหรับคนที่อยากจะเลี้ยงหมา พูดจากใจเลยว่าอย่ายึดติดกับภาพลักษณ์ ความสวยงาม ความน่ารัก บางคนเลี้ยงหมาเหมือนเป็นเฟอร์นิเจอร์ เลี้ยงหมาตัวนี้แล้วทำให้เราดูดีขึ้น แต่ถ้าเราตัดเรื่องนี้ไป แล้วเลี้ยงหมาด้วยเหตุผลที่อยากให้ความรักความเอาใจใส่เขา นั่นเท่ากับเราได้ช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกของเราแล้วค่ะ”

&<2288;

&<2288;

&<2288;