posttoday

สุเทพ ประยูรพิทักษ์ ไม่เจ๊อะกันนาน คิดถึงจังเลย

31 ธันวาคม 2555

ห่างหายไปนานเหลือจะนาน จนเมื่อใกล้ๆ ปีใหม่ สุเทพ ประยูรพิทักษ์ ได้มีโอกาสกลับมาพบเจอกับแฟนเพลงที่คิดถึง

ห่างหายไปนานเหลือจะนาน จนเมื่อใกล้ๆ ปีใหม่ สุเทพ ประยูรพิทักษ์ ได้มีโอกาสกลับมาพบเจอกับแฟนเพลงที่คิดถึง

โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

เป็นคอนเสิร์ตน่ารักๆ ที่จัดขึ้นอย่างครื้นเครงและเป็นกันเองที่เขาใหญ่รีสอร์ต จ.นครราชสีมา แฟนเพลงให้การต้อนรับอบอุ่น เสียงหัวเราะและเสียงเพลงแห่งความหลัง เช่น หิ่งห้อย และป่าลั่น กระหึ่มดังสนั่นลั่นป่า ถือโอกาสคว้าตัวมาคุยกันให้หายคิดถึง ก่อนจะจากกันไปกับลมหนาวปี 2555

พี่สุเทพ หรือพี่อี๊ด เล่าว่า ชีวิตช่วงหลังไปคลุกคลีอยู่ในวงการแสดงเสียเป็นส่วนมาก แต่แม้จะใช้เวลากับการแสดงดนตรีน้อยลง (เยอะ) ก็ใช่ว่าจะห่างหายจากการฝึกซ้อมไปเสียทีเดียว “พี่น้องกันทั้งนั้น” พี่อี๊ดหมายถึงสมาชิกส่วนใหญ่ของวงสุเทพแอนด์เดอะแซค ซึ่งเป็นพี่น้องคลานตามกันมาจริงๆ เรียกซ้อมกันได้ทุกเมื่อเชื่อวันแบบสบายๆ เรียกว่าจะซ้อมดนตรีวันไหนก็ได้เลย

“อาจเพราะเป็นพี่เป็นน้องกันนี่แหละ ถึงยังรวมวงกันอยู่ได้”

เอกลักษณ์เฉพาะตัวของพี่อี๊ดคือความไว ไหวพริบ ความสนุกสนาน และการร้องเพลงที่มีสไตล์ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน พี่อี๊ดเล่าว่า ประสบการณ์ในวัยเด็กทำให้รู้จักเพลงมากมาย โดยเฉพาะเพลงสากลที่นิยมในสมัยนั้น เพลงคือส่วนหนึ่งของชีวิต ได้ยินได้ฟังเพลงอะไรก็ตาม พี่อี๊ดจะมีความรู้สึกสุขสดชื่น เต็มอิ่ม หรือบางเพลงก็ให้ชีพจร ให้ความหมายของชีวิต ได้ยินแล้วมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที

“เพลงคือความลงตัวของธรรมชาติ โดยส่วนตัวฟังได้ทุกแนว แต่ที่ชอบจริงๆ คือเพลงคลาสสิก ที่เปิดโอกาสให้ได้ใช้จินตนาการและมีความสวยงามที่ซาบซึ้ง” พี่อี๊ดเล่า

พี่อี๊ดเล่าย้อนไปถึงชีวิตวัยเด็กว่า เป็นเด็กคลองบางหลวง บ้านอยู่ติดท่าน้ำที่บ้านสมเด็จเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี ชีวิตผูกพันอยู่กับสายลมสายน้ำ พี่น้องหลายคนอบอุ่นดี สมัยหนุ่มก็เล่นดนตรีบ้าง เตะฟุตบอลบ้าง สมัยนั้นก็เที่ยวไปทั่ว พี่อี๊ดเตะบอลถ้วยมาแล้ว ครั้งหนึ่งถึงกับติดทีมธนาคารกรุงเทพ อย่างไรก็ตาม ชีวิตมุ่งไปด้านดนตรีเป็นหลัก หัดเล่นหัดเรียนแบบครูพักลักจำกับหลายไนต์คลับในสมัยนั้น

“ตอนเด็กๆ ประมาณ 89 ขวบ พ่อพาลูกๆ ไปดูดนตรี อย่างกุง กาดิน นคร มงคลายน หรือ คำรณ สัมปุณณานนท์ พวกนี้จะเล่นกันที่ สทร.หรือ สโมสรทหารเรือ จำได้ว่ามีความสุขมาก เรียกว่าตั้งตารอ เพราะพ่อพาไปเกือบทุกอาทิตย์”

พ่อของพี่อี๊ดเป็นคนเฮฮา พูดคุยสนุกสนาน ภาพเหล่านี้อาจฝังอยู่ในใจของพี่อี๊ด ทำให้เป็นหนุ่มเมื่อโตขึ้นบุคลิกจึงคล้ายไปทางพ่อ เส้นทางของพี่อี๊ดเริ่มต้นจากการไปสมัครร้องเพลงกับห้องอาหารตามโรงแรม เริ่มจากโรงแรมชวลิตในสมัยนั้น (โรงแรมแอมบาสซาเดอร์) ตระเวนเล่นตระเวนร้องกับวงต่างประเทศที่มีชื่อเสียงหลายวง ไม่ว่าจะเป็นวงอิเมลด้า วงช็อกโกแลต หรือวงแชมเปญ สมัยนั้นวงแชมป์จากฟิลิปปินส์มาร้องมาเล่นอยู่กรุงเทพฯ เยอะ บ้านเราไม่มีโรงเรียน ก็เรียนเอาจากรุ่นพี่ๆ เหล่านี้

สิ่งที่ได้คือประสบการณ์ เฝ้านั่งแกะโน้ตจากแผ่นเสียง ซึ่งจำได้ว่าเพลงหนึ่งๆ บางทีก็กินเวลาไปเป็นวัน ถ้าไม่รักชอบจริงคงเลิกไปนานแล้ว นั่งนึกย้อนดูว่าประสบการณ์และความยากลำบากให้อะไรเราบ้าง อะไรอยากได้ไม่ได้มาง่าย ทำให้อดทน อย่างแกะแผ่นเสียงนี้ ถ้าไม่อดทนจริงๆ ก็ไม่สำเร็จ รวมทั้งยังช่วยให้มีความละเอียดรอบคอบ สมาธิกำกับอยู่ที่ขอบหู พี่อี๊ดบอกว่า จำไม่ลืม ย้อนกลับไปเรื่องการใช้ชีวิตหน้าเวที ก็เป็นอีกเรื่องที่ลืมไม่ได้ การได้สัมผัสกับมืออาชีพจากต่างประเทศ ช่วยได้มากกับการเป็น สุเทพ ประยูรพิทักษ์ ในเวลาต่อมา

“การเอนเตอร์เทนคนดู เงื่อนแรกคือ จังหวะ จังหวะต้องดี คนดูจึงจะหัวเราะ เงื่อนต่อมา คือการคอนโทรลหรือควบคุมตัวเองให้อยู่ เวลาอยู่หน้าเวที เวลาอยู่หน้าฝูงชน หลุดได้ง่ายๆ ถ้าคุมตัวเองไม่ได้” พี่อี๊ดเล่า

เคล็ดลับคือการฝึกตัวเองกับของจริงบนเวที ใช้ความผิดพลาดเป็นครู พลาดแล้วจำ เรื่องของจังหวะต้องแม่น ต้องสุภาพ ให้เกียรติคนดู และที่สำคัญคือต้องมีความสามารถ ถ้าเล่นดนตรีก็ต้องเล่นให้ดี ถ้าเป็นนักร้องก็ต้องร้องให้ดี เพื่อดึงคนดูเข้ามาอยู่กับตัวเราก่อน เมื่อดึงคนดูได้แล้ว เขามีความเชื่อถือในตัวเราแล้ว คราวนี้จะเล่นจะร้องอะไรเขาก็เชื่อ บทตลกก็เหมือนกัน ลงว่าถ้าเชื่อเราแล้ว ก็จะเห็นคล้อยตามไปได้โดยง่าย

เห็นทางก็ไม่ยากแล้ว สุเทพโด่งดังด้วยบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ พูดถึงสุเทพแฟนเพลงจำได้ และแทบทุกรายจะแอบมีรอยยิ้มเจือมาด้วยเสมอ สุเทพเป็นที่รู้จักในฐานะนักร้อง ก่อนจะควบบทบาทการแสดงในฐานะนักแสดงบทตลก (เป็นส่วนใหญ่) โดยเฉพาะสาทรดอนเจดีย์ หรือเสี่ยฮีโน่ ที่แฟนฮาก๊ากตั้งแต่เห็นหน้า ปัจจุบันพี่อี๊ดยังรับแสดงหนังอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากเหมือนเก่า ยังคงติดตามผลงานการแสดงของดาราที่ชื่นชอบ ดาราผู้ชายพี่อี๊ดชอบ ก้อง สหรัถ นักแสดงที่ดีและเป็นธรรมชาติมากที่สุดตอนนี้

“ทำอะไรก็ตาม อย่าให้เหนือไปจากธรรมชาติ อย่าฝืนธรรมชาติ โดยส่วนตัวไม่ชอบโอเวอร์แอ็กติงหรือการแสดงเกินจริง ไม่ดี ไม่น่ามอง ไม่เป็นประโยชน์กับใคร รวมทั้งการแสดงในชีวิตจริงก็อย่าโอเวอร์แอ็กติง”

พี่อี๊ดบอกว่า ชีวิตช่วงนี้มีความสุขดี ได้ใช้ชีวิตที่เรียบง่าย หรือถ้ามีเวลาก็ใช้ไปกับโครงการกู้วัดเก่า ซึ่งทำมานานร่วมกับเพื่อนหลากหลายวงการ ได้แก่การเข้าบูรณะซ่อมแซมวัดเก่าๆ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ปัดกวาดเช็ดถู ซ่อมแซมโบสถ์ศาลา ลงรักปิดทองให้สวยงามดังเดิม ถือเป็นการช่วยดูแลพระพุทธศาสนา อย่าให้เสียชื่อว่าสถานประมาณของพระพุทธองค์ แต่ทิ้งร้างทิ้งขว้างให้เศร้าหมอง ที่ผ่านมากู้คืนกลับมาแล้วกว่า 100 วัด ถ้าใครเห็นประโยชน์ก็มาช่วยกันนะ

ศิลปะศิลปินไร้ขีดจำกัด

1.เอลวิส เพรสลีย์

ไม่หล่อ แต่ดูดี (ฮา) ต้นแบบของพี่อี๊ดที่ประทับอยู่ในใจ ทั้งเสียงร้องทรงพลัง ที่ร้องได้หลายแนว ทั้งเสียงต่ำเสียงสูง เพลงเร็ว เพลงช้า เดอะคิงทำได้แบบไร้ตำหนิ ฟังเมื่อใดก็เพราะเมื่อนั้น

2.คลิฟฟ์ ริชาร์ด

นักร้องจากเกาะอังกฤษที่สร้างเสียงเพลงและความมหัศจรรย์ ผู้ที่ยังอยู่ในใจของมิตรรักแฟนเพลงตลอดมา ที่สำคัญยังรักษาพลังเสียงไว้ได้อย่างน่าทึ่ง

3.เดอะ บีทเทิล

อีกหนึ่งตำนานจากเกาะอังกฤษ ที่ไม่ว่าเพลงไหน พี่อี๊ดก็หลงใหลและฟังได้ทุกเพลงเลยจริงๆ

4.เกล็น แคมพ์เบล

นักร้องผู้มากด้วยความสามารถและยากจะลืมเลือน เขาเริ่มต้นโด่งดังจากทีวีและเอาอเมริกาอยู่หมัดด้วยเสียงทุ้มนุ่มลึกที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ Gentle On My Mind

5.เดอะ แพลทเตอร์ส

ดังมากในสมัยของเขา สุดยอดของวงดนตรีที่รวมพลังกันได้อย่างเข้มข้น หลายเพลงยังเป็นอมตะอยู่จนทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น Only You และเพลงที่ชอบมากนั่นก็คือ Smoke Gets In Your Eyes

ขอบคุณสถานที่ เรทโทร ไลฟ์ คาเฟ่

&<2288;

 

ข่าวล่าสุด

พรรคประชากรไทย ชู 4 เสาหลักพลิกฟื้นประเทศ ส่งชิงเก้าอี้ สส.261 คน สู้ศึกเลือกตั้ง‘69