posttoday

ครอบครัวคือเบื้องหลังความสำเร็จ

25 พฤศจิกายน 2555

นี่เป็นถ้อยคำเปิดบทสนทนาของคุณเอก-ทีปกร โลจนะโกสินทร์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท โอมาซ (ประเทศไทย)

โดย...กันย์

นี่เป็นถ้อยคำเปิดบทสนทนาของคุณเอก-ทีปกร โลจนะโกสินทร์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท โอมาซ (ประเทศไทย) บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายที่นอนระดับไฮเอนด์แบรนด์ “โอมาซ” (Omazz) เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ เขาถือเป็นทายาทรุ่นที่ 2 ของเครื่องนอนโลตัสเมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมา ถือเป็นเครื่องนอนคู่บ้านคนไทยมานานแสนนานด้วยคุณสมบัติของดีราคาโดนใจ เขาเล่าว่า เขาเป็นลูกชายคนโตเติบโตมาในอุตสาหกรรมของครอบครัว เห็นคุณแม่เย็บที่นอนมาจนชินตาตั้งแต่ตอนเด็กๆ พอทางบ้านพอลืมตาอ้าปากมีกำลังขึ้นมาก็ส่งเขาไปเรียนต่อต่างประเทศ เขาบอกว่าวีรกรรมวัยเด็กของเขานั้นจัดได้ว่าซ่าสุดๆ บวกความเก่งกล้าสามารถแบบสุดโต่ง ใครจะเชื่อว่าชีวิตคนๆ หนึ่งจะเจอมรสุมไม่สิ้นสุด ทั้งล้มลุกคลุกคลาน จนมาถึงช่วงเกือบรุ่งเรือง แล้วก็เจอพายุถาโถมอีกรอบ ถ้าไม่เป็นคนจริง ใจไม่สู้ ป่านนี้คงถอดใจยอมยกธงขาวไปแล้ว แต่เขากลับฝ่าฟันมรสุมทุกลูกมาได้

เขาเล่าว่า “ตอนเด็กๆ ช่วงเรียนหนังสือที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ผมจัดเป็นประเภทเด็กหลังห้อง ไม่ตั้งใจเรียน เกเร จนพอขึ้น ม.3 ป่าป๊า (กำธร) –หม่าม้า (ลีนา) ด้วยความที่ไม่มีความรู้ และไม่ได้ภาษาอังกฤษ แต่อยากให้ลูกๆ เก่งภาษา เลยต้องกัดฟันส่งผมและน้อง (อรนลิน) ไปเรียนต่อต่างประเทศที่สิงคโปร์ ในช่วงนั้นกิจการค้าขายเครื่องนอนของที่บ้านก็พอไปได้อยู่ แต่ท่านก็ต้องเหนื่อยมากเพราะลงมือทำเองทุกอย่าง หม่าม้าดูเรื่องการออกแบบ การผลิต ส่วนป่าป๊ารับผิดชอบเรื่องบัญชีและการขาย จนสามารถส่งลูกๆ ทุกคนเรียนเมืองนอกได้หมด พอผมขึ้นชั้น ม.4 ก็ข้ามทวีปย้ายไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา จนในที่สุดก็สามารถคว้าปริญญาตรีเกียรตินิยมด้านการตลาด จาก University of Illinois at Chicago (UIC) มาได้”

ครอบครัวคือเบื้องหลังความสำเร็จ

 

เขายังเล่าย้อนกลับไปก่อนที่เขาจะเรียนจบ เป็นช่วงใกล้สอบเทอมสุดท้ายแล้ว ที่บ้านก็เผชิญมรสุมครั้งใหญ่ ไฟไหม้โรงงานที่นอน เรียกได้ว่ายิ่งกว่าหมดตัว เขาเลยต้องขออาจารย์สอบก่อน แล้วรีบบินกลับมาช่วยดูแลกิจการที่บ้านต่อทันที เท่ากับว่าเขาต้องเริ่มต้นธุรกิจด้วยตัวเลขติดลบกว่าพันล้านบาท ซึ่งเขาก็ไม่ท้อเพราะเป็นลูกชายคนโตยังไงก็ต้องช่วยสานต่อธุรกิจของครอบครัว ตั้งสติแล้วค่อยๆ ดูว่าจุดอ่อนของธุรกิจคืออะไร แล้วค่อยๆ แก้ไขไปทีละจุด เพราะเขาเชื่อว่าถ้าสินค้าในมือดีจริงยังไงก็ต้องขายได้

“ตอนนั้นสงสารป่าป๊าหม่าม้ามาก ท่านปิดข่าวไม่บอกให้ผมรู้กลัวจะมีปัญหาเรื่องเรียน แต่ผมไปเห็นข่าวทางเว็บ ก็รีบโทรมาหา ท่านก็อ้ำอึ้ง ขณะที่ท่านทุกข์ใจแสนสาหัส แต่ท่านก็ยังห่วงกังวลถึงลูก รักของพ่อแม่นั้นยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยความเสียสละจริงๆ พอผมรู้ข่าวก็รีบกลับทันที บอกกับตัวเองว่าถึงเวลาต้องมาแบ่งเบาภาระท่านให้มากที่สุด ท่านจะได้พักบ้าง” เขากล่าวอย่างตื้นตัน

เขากล่าวต่อไปว่า “สาเหตุที่ผมหันมาตั้งใจทำงาน ทั้งๆ ที่ตอนเรียนหนังสือเคยเกเร เป็นเพราะได้อินสไปเรชันมาจากความลำบากของพ่อแม่ ครอบครัวเราเคยลำบากมาก มาจากคนไม่มีอะไรเลย ผมเห็นทั้งสองท่านบุกเบิกทำงานหนักมากมาตั้งแต่เราเด็กๆ บ่อยครั้งที่เห็นหม่าม้าทำงานจนหลับคาจักรเย็บผ้า เลยเกิดแรงผลักดัน อยากให้ท่านสบายและประสบความสำเร็จให้ท่านเห็น หม่าม้าสอนลูกๆ อยู่เสมอว่า ให้รักกัน มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน ถ้าพี่น้องร่วมมือกันแล้วเราจะใหญ่ได้ อย่าให้เหมือนคนรุ่นก่อนๆ เลยเป็นที่มาของบริษัทอีกกว่า 10 แห่ง ที่ผมกับน้องๆ ช่วยกันก่อตั้งและดูแลภายในระยะเวลาเพียง 56 ปีที่ผ่านมา

ครอบครัวคือเบื้องหลังความสำเร็จ

 

ทีปกร กล่าวว่า ครอบครัวเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับเขา เป็นแรงผลักดัน เป็นแรงขับเคลื่อน และยังเป็นที่พักพิงยามเหนื่อยล้า ไม่มีอะไรที่จะมีคุณค่าเท่ากับครอบครัวอีกแล้ว เมื่อมีครอบครัวเองเขาจึงบ่มเพาะความรักและความอบอุ่นให้อย่างเต็มที่ เพราะครอบครัวเป็นพลังพื้นฐานที่แข็งแรงของสังคม ถ้าพื้นฐานครอบครัวดี เด็กที่โตมาก็จะดีมีคุณภาพ เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า “อย่าลืมดูแลครอบครัวกันให้ดีๆ นะครับ”

พร้อมทั้งกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า เขาเชื่อในการเพ้อฝัน คนเรามีแรงดึงดูดของจักรวาล ถ้าคิดอะไรย้ำๆ เดี๋ยวมันก็จะมาเอง แต่คิดแล้วต้องทำนะ ไม่ใช่เอาแต่คิดแล้วไม่เริ่ม” เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม

ครอบครัวคือเบื้องหลังความสำเร็จ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

&<2288;

 

ข่าวล่าสุด

ผลบอล โยเคเรสซัดโทษ! อาร์เซน่อล1-0 เอฟเวอร์ตัน,ลิเวอร์พูล 2-1