posttoday

3 คำถามนำทางชีวิต โดย เลโอ ตอลสตอย

18 พฤศจิกายน 2555

เลโอ ตอลสตอย นักเขียนที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเพชรน้ำเอกแห่งวรรณกรรมโลก มีผลงานอันเป็นอมตะ

โดย...ว.วชิรเมธี

เลโอ ตอลสตอย นักเขียนที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเพชรน้ำเอกแห่งวรรณกรรมโลก มีผลงานอันเป็นอมตะ คือ สงครามและสันติภาพ (War & Peace) เคยเขียนคำถามอันสามารถนำมาเป็นปรัชญาในการดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี

3 คำถามนำทางชีวิตของเลโอ ตอลสตอย คือ

1.‘คนสำคัญที่สุดคือใคร’

เมื่อถามคนทั่วไปว่า คนที่สำคัญที่สุดคือใคร คำตอบคงหนีไม่พ้นตัวเอง หรือไม่ก็พ่อแม่ แต่ในความหมายของตอลสตอยเป็นความหมายทางธรรม เพราะตอลสตอย บอกว่า “คนสำคัญที่สุด คือคนที่อยู่ตรงหน้าคุณ”

คนที่กำลังอยู่กับคุณ ณ ปัจจุบันขณะนั่นแหละเป็นคนสำคัญที่สุดในโลก ลองพิจารณาดูว่า ในโลกนี้มีคนตั้ง 6,000 ล้านคน ในเมืองไทยมีคนตั้ง 60 กว่าล้านคน ฉะนั้น ไม่ใช่เรื่องมหัศจรรย์หรอกหรือที่ใครคนหนึ่งใน 6,000 ล้านคน หรือ 60 ล้านคนนั้น กำลังคุยกับเราอยู่ เหตุปัจจัยใดจัดสรรให้เขามายืนอยู่เบื้องหน้าเรา ฉะนั้น เขาต้องสำคัญและมหัศจรรย์มาก

จงอย่าทำให้คนที่อยู่ข้างหน้าเราเจ็บ เพราะเขาคือคนของปัจจุบัน และการพบเจอกันครั้งนี้ อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต หรืออาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในสังสารวัฏที่คนสองคนนี้จะมาพบกัน คนบางคนเห็นกันแวบเดียวแล้วไม่เจอกันอีกเลยทั้งชีวิต ดังนั้น ขอให้เราตรองดูให้ดีว่าจะให้เขาจดจำด้านไหนของเรา จะเลือกให้เขาเจ็บปวด หรือรู้สึกดีไปทั้งชีวิตที่ได้มาเจอเรา

3 คำถามนำทางชีวิต โดย เลโอ ตอลสตอย

 

ทุกครั้งที่ปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ ให้เราถามตัวเองว่า “เราจะเป็นเม่นหรือแม่ไก่” เม่นนั้นไม่ว่าใครเข้าใกล้ มันจะสลัดขนทิ่มหน้าทิ่มตาให้เจ็บปวดไปตามๆ กัน แต่แม่ไก่จะกางปีกปกป้อง ด้วยเหตุนี้จึงขอให้เราเลียนแบบแม่ไก่ ให้ความอบอุ่นกับทุกคนที่ปฏิสัมพันธ์กับเรา ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นพ่อ แม่ สามี ภรรยา ลูก ลูกน้อง เจ้านาย หรือใครก็ตาม หากเขาเป็นคนที่อยู่ตรงหน้าเราแล้ว เขาคือคนสำคัญสำหรับเรา

ทุกที่ทุกแห่งที่อาตมาไป ถ้าเห็นว่ามีโยมไหว้ อาตมาจะรอให้เขาไหว้จนเสร็จเรียบร้อยเสมอ แล้วค่อยเดินต่อไป ไม่ปล่อยให้เขาไหว้ทิ้งไหว้ขว้าง เพราะอาตมาถือว่าคนที่อยู่ตรงหน้าอาตมาคือคนสำคัญ เราต้องให้เกียรติ ให้ความสำคัญแก่เขามากที่สุด เพราะเราอาจจะเจอกันครั้งเดียวในสังสารวัฏนี้ อาตมาจึงเลือกให้เขาได้จดจำโมงยามที่งดงามที่สุดเกี่ยวกับเรา

2.‘เวลาที่สำคัญที่สุดคือเวลาไหน’

คำถามนี้ ถ้าถามพนักงานบริษัทก็อาจจะตอบว่า “เวลาเงินเดือนออก” ถ้าไปถามพระสงฆ์ ก็อาจตอบว่า “เวลาฉันเพล” แต่เลโอ ตอลสตอย บอกว่า จริงๆ แล้ว “เวลาที่สำคัญที่สุดคือปัจจุบันขณะ”

การดำรงชีวิตอยู่ใต้โครงครอบของเวลา เราพึงตระหนักว่าแต่ละปี แต่ละเดือน แต่ละสัปดาห์ แต่ละวัน แต่ละชั่วโมง แต่ละนาที แต่ละครึ่งนาที แต่ละวินาที เวลาแต่ละขณะจิตนั้นล้วนไหลผ่านเราไปโดยไม่ไหลย้อนคืน เวลาเป็นทรัพยากรอย่างเดียวในจักรวาลที่มนุษย์หาวิธีรีไซเคิลไม่ได้ และแน่นอนว่ามีเงินเท่าไรก็ซื้อเวลาที่ผ่านเลยไปคืนมาไม่ได้เช่นกัน

เวลาหนึ่งขณะจะไหลผ่านเราเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ฉะนั้นขณะที่ปัจจุบันขณะนี้ยังเป็นของเรา ก็จงใช้ให้ดีที่สุด ถามตัวเองว่าเราใช้เวลาไปเพื่ออะไร คิดอะไร พูดอะไร ทำอะไร สอบทานตัวเองด้วยว่าเราใช้เวลาคุ้มไหม เพราะเวลาผ่านแล้วผ่านเลยนิรันดร์ สมมติวันนี้คือวันที่ 25 ก.ย. 2553 วันจะผ่านเข้ามาและผ่านเราไปเพียงครั้งเดียวในชีวิตและในสังสารวัฏนี้ คำถามก็คือ เราปล่อยให้วันนี้ผ่านไปอย่างไร เราใช้เวลาคุ้มค่าไหม หรือมัวแต่สะโหลโต๋เต๋ใช้จ่ายคืนวันไปอย่างเปล่าเปลือง

พุทธวัจนะบทหนึ่งกล่าวว่า “คืนวันที่ผ่านไป เธอทำอะไรอยู่”? พระพุทธเจ้าตรัสไว้เป็นบทเตือนใจพระใหม่ อาตมาแนะนำให้เราถามตัวเองด้วยคำถามนี้บ่อยๆ เช่นกัน เขียนติดข้างฝาไว้ที่ไหนสักแห่งก็ได้ หมั่นเตือนใจตัวเองด้วยคำถามนี้ “คืนวันที่ผ่านไป เราทำอะไรอยู่”? แล้วเราจะเลิกพฤติกรรมแย่ๆ เพราะเราเสียดายเวลา เราจะตั้งจิตตั้งใจใช้ชีวิตให้ดีและไม่ประมาท

3.‘งานที่สำคัญที่สุดคืองานใด’

เมื่อมาถึงคำถามที่สาม เราคงพอเดาทางตอลสตอยออกว่า คำตอบของเขาก็คือ “งานที่สำคัญที่สุดคืองานที่ทำอยู่ตอนนี้”? ดังนั้น ไม่ว่าขณะนี้เราจะกำลังทำงานอะไรอยู่ก็ขอให้เติมสติลงไป ใส่ใจลงไป เพื่อให้งานนั้นเป็นงานที่ดีที่สุด

3 คำถามนำทางชีวิต โดย เลโอ ตอลสตอย

 

ยกตัวอย่างเช่น มีเกลันเจโล ประติมากรชื่อก้องโลก ผู้สลักรูปเดวิดอย่างสุดความสามารถ จนกระทั่งทุกวันนี้เวลาถามถึงมนุษย์ที่มีร่างกายสมบูรณ์แบบที่สุดในโลก ทุกคนต้องมุ่งไปยังเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เพื่อไปดูผลงานรูปสลักเดวิดของมีเกลันเจโลคนนี้

เช่นเดียวกับภาพวาดโมนาลิซา ผลงานชิ้นเอกของเลโอนาร์โด ดาวินชี ที่มีค่ามากพอที่รัฐบาลอิตาลีจะเทียวทำหนังสือทวงภาพนี้คืนจากรัฐบาลฝรั่งเศสถึง 6 ครั้ง เพราะดาวินชี บอกว่า งานชิ้นนี้เป็นงานที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา นอกจากลงสีลงแปรงแล้ว ดาวินชียังลงจิตลงใจไปในภาพอย่างสุดชีวิตด้วย เมื่อวาดเสร็จ เจ้าของภาพมารับ ดาวินชีจึงไม่ยอมขาย เพราะรู้แก่ใจว่าภาพนี้สูงค่าเกินกว่าเงินทอง

คำถามก็คือ ในชีวิตเราเคยทำอะไรถึงขั้นนั้นหรือไม่ เราทำงานแต่ละชิ้นอย่างเต็มที่มากพอหรือยัง และมีงานชิ้นใดบ้างที่เราคิดว่าเป็นงานที่ดีที่สุดในชีวิต เหมือนผลงานของีเกลันเจโล และดาวินชี ที่ทุกวันนี้คนทั้งโลกยังต้องตามไปชื่นชมฝีมือ

ฉะนั้น เราถือศิลปินของโลกทั้งคู่เป็นตัวอย่าง ไม่ว่ากำลังทำงานใดอยู่ ให้เราทำงานนั้นดังหนึ่งเป็นงานชิ้นสุดท้าย ลองฝึกตัวเองอย่างนี้ แล้วประสิทธิภาพในงานของเราจะเกิดขึ้นเอง

หากเรายึดเอาคำถามของตอลสตอยมาเป็นหลักปรัชญาในการดำเนินชีวิต รับรองว่า ชีวิตเราจะพลิกเป็นชีวิตที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพได้ในที่สุด

ถ้าเราคิดว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเราคือคนที่สำคัญที่สุด ถือคติว่าให้เกียรติเขา คือ ให้เกียรติตัวเราเอง ไม่ให้เกียรติเขา ก็คือไม่ให้เกียรติตัวเอง เราจะไม่ทำให้ใครเสียใจ เราจะให้เกียรติเพื่อนมนุษย์ ผลคือเราจะเป็นคนอัธยาศัยดีและมีเสน่ห์ คุยกับใครก็ตุยอย่างตั้งอกตั้งใจ ใส่ใจในการปฏิสัมพันธ์ คนตรงหน้าเราจึงรู้สึกพิเศษมาก

ถ้าเราคิดว่าเวลา ณ วินาทีปัจจุบันสำคัญที่สุด เราจะบริหารเวลาเป็น ไม่ใช้เวลาทิ้งๆ ขว้างๆ เราจะตั้งใจใช้เวลาให้คุ้มค่าและมีเวลาสำหรับทุกเรื่อง ส่งผลให้เรามีพฤติกรรมเชิงคุณภาพแทนพฤติกรรมที่ไร้ความหมาย

ถ้าเราคิดว่ากิจการงานที่เรากำลังทำอยู่คืองานที่ดีที่สุด รับรองว่าเราจะรังสรรค์แต่งานคุณภาพ งานสุกๆ ดิบๆ จะไม่มีออกมาจากมือเรา เมื่อเราทำงานให้ประณีต งานก็จะทำให้เราเป็นคนประณีตไปด้วย

คำถามสามข้อนี้ คือหลักปรัชญาที่เลโอ ตอลสตอย ถามได้ถึงแก่นพระธรรมมาก สาระของคำถามคือการอยู่กับปัจจุบันขณะ ซึ่งก็คือการเจริญสตินั่นเอง อาตมาคาดว่า นักเขียนชื่อก้องคนนี้น่าจะได้เคยอ่านพระไตรปิฎก เพราะสิ่งที่เขาถ่ายทอดออกมานั่น คือ แก่นธรรมดีๆ นี่เอง

&<2288;

&<2288;

&<2288;

 

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ คริสตัล พาเลซ คาราบาวคัพ วันนี้