posttoday

ริซอตโตร้อนๆ สักจานมั้ยคะ

02 พฤศจิกายน 2555

ใครว่าฝรั่งไม่กินข้าว?... เท่าที่เห็นมีทั้งสเปน และอิตาลี ที่กินข้าวกันแบบเป็นล่ำเป็นสัน โดยเฉพาะที่อิตาลีนั้น เมนูข้าวที่ชื่อว่า ริซอตโต (Risotto)

โดย...ปณิฏา สุวรรณปาล

ใครว่าฝรั่งไม่กินข้าว?... เท่าที่เห็นมีทั้งสเปน และอิตาลี ที่กินข้าวกันแบบเป็นล่ำเป็นสัน โดยเฉพาะที่อิตาลีนั้น เมนูข้าวที่ชื่อว่า ริซอตโต (Risotto) นั้น เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่หยั่งรากฝังลึกมากๆ

ในอดีตอิตาลีมีหนังดัง Riso Amore หรือ Bitter Rice (1949) เล่าเรื่องของ 2 นางโจรที่ไปซ่อนตัวปะปนอยู่ในกลุ่มสาวชาวนา เพื่อที่จะหาทางหลบหนีกลุ่มมาเฟียออกนอกเมือง ฉากหนังที่ส่วนใหญ่ไปถ่ายในนาข้าว ช่วยโปรโมตความนิยมในสินค้าข้าวของอิตาลีได้มากโข โดยเฉพาะเมื่อหนังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ สาขาบทยอดเยี่ยม (สมัยก่อนเรียกว่า Academy Award for Best Story)

นอกจากหนังดังแล้ว เรื่องข้าวๆ ของอิตาลียังไปปรากฏในบทเพลงดัง O Marinaio Che Cosa Rimiri? (O Sailor, When Are You Coming Back?) ซึ่งทั้งหนังและเพลงที่ว่า แม้จะวาดภาพให้เห็นการทำงานหนัก หลังขดหลังแข็งของชาวนา ท่ามกลางบรรยากาศของกาลก่อน ที่อิตาลียังปกครองในแบบเผด็จการ แต่กระนั้นก็เป็นการประกาศถึงวัฒนธรรมการกินและการครัว ซึ่งผูกพันกับ “ข้าว” มาอย่างยาวนาน

Rixo หรือ Riso ที่แปลว่าข้าวในอิตาลี เป็นชื่อที่น่ารัก เพราะไปพ้องกับคำว่า “เสียงหัวเราะ” คล้ายว่า ถ้าได้กินข้าวแล้วจะต้องหัวเราะอย่างมีความสุข

ย้อนไปสมัยที่โรมันยังมีอิทธิพลในดินแดนนี้ ข้าว อันเป็นหนึ่งในธัญพืช มักจะใช้เป็นยารักษาโรค โดยการผสมกับน้ำผึ้งหรือไวน์ ในศตวรรษที่ 10 มีหลักฐานว่าข้าวเดินทางผ่านซิซิลีไปยังสเปน โดยพ่อค้าชาวอาหรับที่ได้รับคำแนะนำจากชาวอินเดียว่าข้าวนั้นเป็นของดี

ริซอตโตร้อนๆ สักจานมั้ยคะ

 

ว่าแล้ว ชาวซิซิลีก็เป็นกลุ่มแรกที่ปลูกข้าวในอิตาลี ก่อนที่จะเริ่มขยายอาณาเขตความนิยมขึ้นไปทางเหนือของประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งราวศตวรรษที่ 13–14 ที่โป วัลลีย์ ทางตอนเหนือของอิตาลี (ในแคว้นเวเนเชีย) เริ่มมีการเก็บภาษีข้าวกันเป็นครั้งแรกแล้ว

ปลายศตวรรษที่ 14 สูตรอาหารที่มีส่วนผสมหลักเป็นข้าวสูตรแรก Rixo in bona manera ปรากฏในหนังสือคุกบุ๊ก กลายเป็นเมนูของหวานคู่ครัวอิตาเลียนมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นข้าวที่หุงในน้ำนมอัลมอนด์ และแต่งหน้าด้วยน้ำตาล

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ปัจจุบันอิตาลีจะปลูกข้าวมากเป็นอันดับ 1 ของยุโรป โดยพวกเขาเริ่มปลูกแบบเป็นอุตสาหกรรมมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2

ข้าวอิตาเลียนเป็นชนิดเมล็ดสั้น มี 4 ขนาดด้วยกัน (จากใหญ่ไปสู่เล็กสุด) คือ กอมมูเน เซมิฟิโน ฟิโน และซูเปร์ฟิโน โดยขนาดเล็กสุดนี้เองที่นิยมนำมาทำเป็นเมนูริซอตโต แม้ว่าเมื่อปรุงออกมาแล้วจะได้ความเหนียว ความกรุบ ความฉ่ำซุปเกือบไม่แตกต่างกันก็ตาม แต่ว่ากันว่าเมล็ดเล็กอร่อยที่สุด ว่างั้นเหอะ

ขณะที่สายพันธุ์ข้าวที่นิยมก็ได้แก่ อะโบโร (Aborio) และการ์นาโรลิ (Carnaroli) ส่วนพันธุ์วาโลเน นาโน (Vialone Nano) ถือเป็นสุดยอดแห่งข้าว ถึงขั้นกระทรวงพาณิชย์อิตาลีต้องรีบขอตรารับรองมาตรฐานจากสหภาพยุโรป (Indicazione Geografica Protetta–IGP) มาการันตีว่าของเขาดีจริงๆ กันเลยทีเดียว

ริซอตโตร้อนๆ สักจานมั้ยคะ

 

ข้าวพันธุ์วาโลเน นาโน ที่ดีที่สุดของอิตาลี ปลูกอยู่แถวๆ เมืองเล็กๆ ชื่อ อิโซลา เดลลา สกาลลา ทางตอนใต้ของเมืองเวโรนา พัฒนาพันธุ์ขึ้นมาเพื่อยกระดับจากพันธุ์ท้องถิ่นธรรมดาให้อร่อยขึ้น โดยสองพี่น้องตระกูลเฟร์รอน ซึ่ง กาบริเอเล เฟร์รอน เป็นเชฟชื่อดัง ส่วน เมาริซิโอ เฟร์รอน ทำอาชีพด้านการขนส่งสินค้า ขณะที่ต้นตระกูลเฟร์รอนเป็นชาวนามากว่า 5–6 รุ่น พวกเขาทดลองเทคนิคการปลูกข้าวแบบใหม่ ทำให้ข้าวที่ออกมาสีสวยโดยไม่ต้องผ่านการขัดสี ทำให้สารอาหารต่างๆ อยู่ครบถ้วน

โดยปกติริซอตโตจะเสิร์ฟเป็นคอร์สแรก ก่อนที่จะถึงเมนูอาหารหลัก ส่วนผสมหลักของริซอตโต โดยทั่วไปมักประกอบด้วยชีสพาร์มิจาโน (Parmigiano) รวมทั้งเนยและหัวหอม ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีหุงข้าวอันนิยมที่สุดในอาหารอิตาเลียน

หลายๆ เมนูริซอตโตชื่อดังของอิตาลี มีชื่อเรียกแบบไม่ต้องอธิบาย อย่างเช่น Risotto alla milanese คือเมนูข้าวริซอตโตที่ปรุงมาจากน้ำสต๊อกที่ได้จากน้ำต้มกระดูกวัว ใช้ไขมันวัวแทนเนย เติมชีส และปรุงรสและแต่งสีด้วยหญ้าฝรั่น ส่วน Piedmont’s risotto al Barolo ข้าวริซอตโตหุงกับไวน์แดงบาโรโล โดยอาจจะใส่ไส้กรอกกับถั่วลงไปเพิ่มก็ได้ แล้วแต่ชอบ

Risotto al nero di seppia ริซอตโตหมึกดำ สูตรเด็ดจากแคว้นเวเนโต Risi e Bisi เมนูนี้เห็นบ่อยๆ เป็นริซอตโตประจำฤดูใบไม้ผลิ ปรุงกับถั่วลันเตา ซึ่งจะต่างจากเมนูอื่นๆ คือเสิร์ฟมาพร้อมช้อน ไม่ใช่ส้อม

ริซอตโตร้อนๆ สักจานมั้ยคะ

 

ใครอยากลองชิมริซอตโตจากข้าวพันธุ์วาโลเน นาโน วันนี้จะชวนไปชิมที่ห้องอาหารโจโจ โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ (โทร. 02-207-7777) เชฟคาร์โล วาเลนซิโน คัดสรรวัตถุดิบที่สดใหม่คุณภาพพรีเมียมจากอิตาลีมาปรุงอย่างพิถีพิถัน ด้วยกระบวนการปรุงแบบ Slow Cook ซึ่งจะทำให้ได้ข้าวที่มีลักษณะข้นไปด้วยครีม จากการดูดซับไวน์และน้ำซุปจากเนื้อวัว ปลา อาหารทะเล หรือผัก

เมนูสุดโปรดฝีมือเชฟคาร์โล อย่างเช่น ข้าวริซอตโต เสิร์ฟพร้อมหน่อไม้ฝรั่งทอดอบชีส ในน้ำซุปไก่ สปาเกตตีมะเขือเผา และมะเขือเทศเชอร์รี ข้าวริซอตโต กุ้งล็อบสเตอร์ เมลลอน และสับปะรด ข้าวริซอตโตชีสบรูราตา กุ้งแม่น้ำ ส่วนฤดูใบไม้ร่วงอย่างนี้ก็ต้องชิม ริซอตโตเห็ดพอร์ชินี

ข่าวล่าสุด

ยกเครื่องเพื่อไทย เดิมพันคนรุ่นใหม่ ปักหมุดเศรษฐกิจดิจิทัล