สามโลกเห็นกัน

พุทธประเพณีอย่างหนึ่งของพระพุทธเจ้าหลังจากที่ทรงแสดง “ยมกปาฏิหาริย์” หรือ “ปาฏิหาริย์คู่” (สายน้ำ กับ ท่อไฟ ไหลออกและพวยพลุ่งจากพระวรกายตามส่วนต่างๆ) แล้วก็จะเสด็จเข้าจำพรรษาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์

เมื่อทรงอยู่ที่ดาวดึงส์ก็จะทรงแสดงพระอภิธรรม 7 คัมภีร์ โปรดพระพุทธมารดาที่อยู่ชั้นดุสิต เป็นเวลา 3 เดือน จากนั้นก็จะเสด็จลงมายังโลกมนุษย์

วันที่เสด็จลงมาก็คือวันถัดจากวันออกพรรษานั่นเอง เราเรียกวันที่พระพุทธองค์เสด็จลงมาจากเมืองสวรรค์นี้ว่า เทโวโรหณทิวโส

ทั้งนี้ก่อนลงในวันออกพรรษา ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 พระพุทธองค์ก็ทรงบอกกล่าวเหล่าเทวดา พรหม ให้ทราบว่าจะลงไปยังโลกมนุษย์ในวันรุ่งขึ้น

ฝ่ายเทวดาและหมู่พรหม เมื่อทราบแล้วก็เตรียมการส่งเสด็จพระบรมครูแห่งโลกอย่างสมพระเกียรติ เพราะพวกเขาไม่ลืมว่า การที่พระบรมครูเสด็จขึ้นมาจำพรรษาที่ดาวดึงส์นั้นถือเป็นโอกาสของเหล่าเทวดาและพรหมได้สร้างกุศลยิ่งใหญ่ตลอด 3 เดือน

เจ้าภาพหลักในการเตรียมการส่งเสด็จครั้งยิ่งใหญ่นี้ จึงตกเป็นของประมุขสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ คือ ท้าวโกสีย์อมรินทราธิราช หรือท้าวสักกะ นั่นเอง

สิ่งที่พระอินทร์ หรือ ท้าวสักกะ ทำก็คือ เนรมิตบันไดทิพย์ จำนวน 3 บันได ได้แก่ บันไดทอง บันไดเงิน บันไดแก้ว โดยเชิงบันทั้งสามตั้งอยู่ที่เมืองสังกัสสนครตามพุทธประสงค์

ในการเสด็จลง พระบรมศาสดาเสด็จลงทางบันไดแก้ว ส่วนบันไดทองเป็นขบวนส่งเสด็จของเหล่าเทวดา ส่วนหมู่พรหมตามส่งเสด็จทางบันไดเงิน

ด้านเทพบุตรนักฟ้อนชื่อปัญจสิขะ ได้ทรงพิณและขับร้องเบื้องหน้าขบวน ฝ่ายท้าวสันดุสิต ประมุขสวรรค์ชั้นดุสิต กับท้าวสุยามเทวราชประมุขชั้นยามา ได้ทรงทิพย์จามรีถวายทั้งสองข้าง

ส่วนท้าวมหาพรหม ก็ทรงกั้นเศวตฉัตรทิพย์ถวาย ฝ่ายท้าวโกสีย์อมรินทราธิราชก็ช่วยประคองบาตรนำเสด็จพระบรมศาสาดา นับเป็นขบวนที่ยิ่งใหญ่อลังการมาก

นอกจากขบวนที่สวยงามและสมพระเกียรติแล้ว ที่อัศจรรย์กว่านั้นก็คือ ขบวนเสด็จลงจากเทวโลกของพระพุทธองค์นั้นมนุษย์สามารถมองเห็นด้วยตาของตน

ว่ากันว่า เทวดามองเห็นมนุษย์ ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเทวดามีอำนาจกว่ามนุษย์ก็สามารถใช้อำนาจของตนบันดาลได้ แต่การที่มนุษย์มองเห็นเทวดานั้นต้องบอกว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์

ในวันนั้น ทั้งมนุษย์ ทั้งเทวดา นอกจากจะได้เห็นกันและกันแล้ว ก็ยังได้เห็นพวกที่เกิดในนรกด้วย ขณะเดียวกันพวกที่เกิดในนรกก็ได้เห็นพวกมนุษย์และเทวดาเช่นกัน

ปรากฏการณ์ 3 โลก ทั้งเทวดา มนุษย์ และผู้เกิดในนรก สามารถมองเห็นกัน ไม่ใช่ปรากฏการณ์ธรรมดาสามัญแน่นอน แต่เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจของพระพุทธเจ้าที่ทรงต้องการให้ทั้งสามโลกเห็นกันและกัน

ที่ทรงเห็นกันอย่าไปคิดว่าเป็นโบนัสพิเศษจากพระพุทธเจ้า แต่ทรงต้องการสื่อให้มนุษย์ได้เห็นว่า ถ้าใครที่ทำชั่วก็ต้องไปเกิดในทุคติแล้วได้รับความเดือดร้อนอเนกประการ แต่ถ้าทำดีก็จะไปเกิดในสุคติได้รับความสะดวกสบาย

เลือกเอาละกัน จะเลือกมนุษย์ สวรรค์ หรือนรก แต่ที่แน่ๆ วันที่ 31 ต.ค.นี้ อย่าลืมไปทำบุญตักบาตรเทโว รับเสด็จพระพุทธเจ้ากันนะครับ