โลกของเนยบินได้
ตอนเด็กๆ เคยเล่นวาดรูปทายภาพ มีเพื่อนคนหนึ่งวาดรูปเนยทรงสามเหลี่ยมมีรูพรุน ติดปีกเหมือนนกสองข้าง แล้วให้ฉันทายว่ามันคืออะไร
โดย...กาญจน์ อายุ
ตอนเด็กๆ เคยเล่นวาดรูปทายภาพ มีเพื่อนคนหนึ่งวาดรูปเนยทรงสามเหลี่ยมมีรูพรุน ติดปีกเหมือนนกสองข้าง แล้วให้ฉันทายว่ามันคืออะไร
“Butterfly”
ทุกครั้งที่เห็นผีเสื้อความทรงจำในวัยเด็กก็ย้อนกลับมา ล่าสุดฉันไปเห็นเนยบินได้ที่ Phuket Butterfly Garden & Insect World สวนผีเสื้อและโลกแมลงที่มีบทบาทชัดเจนในการเพาะพันธุ์ผีเสื้อ และเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิตให้คนทั่วไปเข้าชม
ภายในสวนผีเสื้อฯ แบ่งเป็น 5 ส่วน เริ่มที่ “ห้องแมลง” แสดงวงจรชีวิตแมลงและแมงทั้งแบบบอร์ดความรู้และให้ดูตัวจริง การแยกแยะระหว่างแมงกับแมลงสังเกตได้จากอวัยวะ แมงมี 8 หรือ 10 ขา ส่วนแมลงมี 6 ขา และแมงไม่มีหนวดและปีก แต่แมลงมีหนวดและส่วนใหญ่มีปีก แมงตัวจริงมีให้ดูทั้งแมงป่องและแมงมุม มันใช้ชีวิตอยู่ในโดมพลาสติกใสที่ผู้เข้าชมสามารถส่องดูได้อย่างใกล้ชิด และยังมีแมงและแมลงสตาฟอีกมากให้ละเมียดรายละเอียด
ถัดจากห้องแมลงคือดินแดนของผีเสื้อ ภายใน “สวนผีเสื้อ” ร่มรื่นด้วยต้นไม้และเต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้และปีกผีเสื้อ ดินแดนนี้ผีเสื้อจะบินอย่างอิสระ กินน้ำหวานได้ไม่อั้น และเลือกคู่ได้ตามใจชอบ ผู้เข้าชมจะใกล้ชิดผีเสื้อมากขึ้นเมื่อทากล้วยสุกเละๆ บนผิว ยื่นไปในอากาศ และรอผีเสื้อมาเกาะ เมื่อผีเสื้อเกาะแล้วคุณจะจั๊กจี้เล็กน้อย เพราะหลอดดูดน้ำหวานของผีเสื้อจะทำงานดูดอาหารบนผิวหนังคุณ
ภายในสวนผีเสื้อจะมี “ห้องดักแด้” ให้ดูวิวัฒนาการ บ้านฟักตัวของผีเสื้อหลายพันธุ์ห้อยโตงเตงในกล่องมุ้งลวดรอวันสยายปีก ดักแด้จะมีหลายลักษณะทั้งใหญ่เล็ก สีเขียวสีทอง แต่น่าเสียดายที่ทางสวนไม่ได้บอกว่าดักแด้ที่เห็นคือพันธุ์อะไรบ้าง
ออกจากสวนผีเสื้อมาเล็กน้อยจะพบกับ “ห้องเพาะพันธุ์” เป็นห้องที่มีความโรแมนติกคละคลุ้งไปทั่ว เพราะผีเสื้อจะถูกกักบริเวณเพื่อจับคู่กัน ผู้เข้าชมจึงต้องงดใช้เสียงและเอี้ยวหูฟังเสียงผีเสื้อสื่อรัก ทางสวนผีเสื้อได้บอกสิ่งที่ไม่ควรทำข้อหนึ่งว่า “ไม่รบกวนผีเสื้อขณะที่มันกำลังผสมพันธุ์” ลักษณะท่าทางผสมพันธุ์มันจะหันหน้าออกจากกันแล้วใช้ปีกปิดก้นที่กำลังเชื่อมสัมพันธ์ไว้ ถ้าเห็นผีเสื้อคู่ไหนทำท่านี้โปรดงดใช้เสียงและให้เวลาส่วนตัวแก่มันด้วย
เมื่อเพลิดเพลินกับเนยบินได้จนอิ่มก็ถึงคิวห้องสุดท้าย “ห้องไหม” ไม่ใช่คำถาม แต่คือห้องแสดงไหมที่บอกเล่าขั้นตอนตั้งแต่เป็นรังจนถักทอเป็นผ้าไหม เสียดายอีกครั้งที่ไม่มีชาวบ้านมาทอไหมให้เห็นจริงๆ หรือไม่มีการแสดงตัวไหมจริงๆ ทำให้ห้องนี้ดูไร้ชีวิตไปบ้าง
ผีเสื้อที่ทางสวนได้เพาะพันธุ์จะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติเพื่อให้มันทำหน้าที่ผสมเกสรพันธุ์ไม้ต่างๆ ซึ่งทางสวนได้จัดตั้งโครงการแต้มสีสันป่าด้วยปีกผีเสื้อเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2550 โดยจะปล่อยผีเสื้อที่เพาะพันธุ์เองจำนวน 1,000 ตัว สู่โลกที่เต็มไปด้วยแสงสีแต่ขาดสีสันใบนี้


