posttoday

รักอย่างไข่ในหิน

02 กันยายน 2555

แม้ละคร “บ่วง” จะลาจอไปแล้ว แต่เชื่อว่าหลายคนคงซึ้งใจกับความรักของคุณหญิงอบเชยที่มีต่อคุณชื่นกลิ่นผู้เป็นลูก

โดย...พญ.ปราณี เมืองน้อย

แม้ละคร “บ่วง” จะลาจอไปแล้ว แต่เชื่อว่าหลายคนคงซึ้งใจกับความรักของคุณหญิงอบเชยที่มีต่อคุณชื่นกลิ่นผู้เป็นลูก จนเกิดเป็น “บ่วง” ที่ร้อยรัดทุกชีวิตให้วนเวียนมาพบกัน กลายเป็นละครดังทั่วบ้านทั่วเมือง ทุกบ้านต้องตามติดหน้าจอ การเลี้ยงลูกแบบคุณหญิงอบเชยนั้นเรียกว่า “ริ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม” ปกป้องไม่ต่างกับ “ไข่ในหิน” ซึ่งหมายถึงคนที่ถูกเลี้ยงอย่างทะนุถนอมเป็นอย่างดี แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย เหมือนไข่ที่มีเปลือกบางแตกง่าย ต้องดูแลเป็นพิเศษ หินเป็นสิ่งที่แข็งแกร่ง เปรียบเหมือนการดูแลและปกป้องคุ้มครองจากพ่อแม่ ลูกที่ถูกเลี้ยงแบบนี้จึงค่อนข้างเปราะบาง ไม่อดทน ไม่ปกป้องตนเอง พึ่งพิงคนอื่น เมื่อพบวิกฤตการณ์ในชีวิตจึงมักรู้สึกท้อถอย ซึมเศร้า มองตนเองเป็นผู้แพ้ ไม่เกิดความภาคภูมิใจในตนเอง ไม่ต่างกับคุณชื่นกลิ่นในละครเลย

การเลี้ยงลูกแบบปกป้องมากเกินไป มักพบในพ่อแม่ที่วิตกกังวล ผู้ที่มีลูกน้อยหรือมีลูกตอนอายุมาก หรือเด็กที่เจ็บป่วยบ่อย เด็กที่มีโรคประจำตัว เด็กเลี้ยงยาก จนพ่อแม่ต้องประคบประหงมตลอดเวลา เลี้ยงลูกแบบเด็กเล็กๆ ทำทุกอย่างให้ แม้ว่าลูกจะโตแล้ว มองลูกเป็นเด็กตลอดเวลา ทำให้ลูกขาดโอกาสในการคิดตัดสินใจด้วยตนเอง ไม่รู้จักโต ขาดความเชื่อมั่น เชื่อคนอื่นและหลงผิดได้ง่าย

พ่อแม่ที่รักลูกมากอาจปกป้องลูกมากเกินไปร่วมกับการตามใจอย่างไร้ขอบเขต ไม่ตั้งกฎระเบียบในบ้าน หรือฝึกระเบียบวินัยแต่ไม่สม่ำเสมอ รักที่ให้นั้นอาจเปรียบเหมือนยาพิษที่สกัดกั้นตัวลูกไม่ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง การแก้ไขจึงควรปล่อยให้ลูกฝึกช่วยเหลือตนเองหรือทำงานต่างๆ ด้วยตนเอง ให้ลูกได้ลองผิดลองถูก ยอมให้ลูกเผชิญกับความเจ็บปวดและแก้ไขด้วยตนเอง โดยพ่อแม่อาจช่วยแนะนำบ้าง ควรให้การปลอบโยนเมื่อลูกผิดพลาด ยอมรับในตัวลูกและให้คำชมเมื่อลูกแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยตนเองได้ เพื่อให้ลูกมีแรงจูงใจในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง

ข่าวล่าสุด

ไทยเบฟคว้า 2 รางวัลอาหารจากเวที RED TABLE AWARDS 2025