posttoday

ไม่กี่คืนในลาว

18 สิงหาคม 2555

พรรคพวกมักถามผมเสมอว่า ไม่เบื่อกับการเดินทางบ้างหรือไง ผมบอกกับทุกคนว่า การเดินทางคือการเรียนรู้ การเดินทางคือส่วนหนึ่งของชีวิต

โดย...จำลอง บุญสอง

พรรคพวกมักถามผมเสมอว่า ไม่เบื่อกับการเดินทางบ้างหรือไง ผมบอกกับทุกคนว่า การเดินทางคือการเรียนรู้ การเดินทางคือส่วนหนึ่งของชีวิต เพราะมันทำให้ได้เห็น ได้เข้าใจเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมืองและสังคมทั้งระบบ การไปเยือนประเทศรอบๆ ประเทศเราก็จะได้ภาพชีวิตและการเมืองที่แตกต่าง

สปป.ลาว เป็นประเทศหนึ่งที่ชอบไป เพราะความเป็นลาวปัจจุบันคือความเป็นไทยในอดีต ที่ใจดี ยิ้มง่าย ตามวิถีการผลิตด้วยมือ และที่สำคัญคือการปกครองที่“ไม่เอื้อ”ต่อการ“ผูกขาด”ของทุนผูกขาดแบบเมืองไทย

อีซูซุ ชวนผมเข้าร่วม“อีซูซุ ซูเปอร์ คอมมอนเรล คาราวานสัญจร”2555เส้นทางที่4:ไทย (หนองคาย)–ลาวเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยคุณเอ.สุกียาม่า ผู้จัดการอาวุโส คุณวิวัฒน์ เมธีวรรณกิจ รอง ผวจ.หนองคาย และคุณธัญภา นิโครธานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานหนองคาย มาร่วมเปิดงาน

ไม่กี่คืนในลาว

คาราวานรถเกือบ30คัน ผ่านด่านหนองคาย ผ่านรอบนอกของกำแพงนครหลวงเวียงจันทน์ มุ่งหน้าไปยังหลวงพระบาง ด้วยเส้นทางอันขรุขระ และเส้นทางที่ต้องไต่ภูเขาสูงหลายร้อยกิโลเมตรในช่วงฤดูฝน แม้จะต้องเจอกับปัญหาดินสไลด์ข้างทางเป็นระยะๆ แต่ต้องชมการตัดสินใจของคุณพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการคาราวานฯ ที่ตัดสินใจให้ชาวคณะกินข้าวเย็นรองท้องกันก่อนที่จะไปเจอรถติดบนภูเขาสูงเป็นชั่วโมงๆแต่ก็ดีกว่ารถโดยสารลาวที่ติดกันทั้งคืน สงสารลูกเด็กเล็กแดงที่ต้องอดข้าวอดน้ำ

ทุ่งไหหินกับความโหดเหี้ยมของอเมริกา

ความจริงคณะคาราวานจะต้องไปรับประทานอาหารเย็นและพักค้างคืนกันที่เมืองโพนสะหวันแขวงเชียงขวางแต่พอเจอปัญหาดินถล่มกว่าจะถึงโรงแรมที่พักได้ก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน หลายคนจึงสละสิทธิ์ข้าวเย็น

ผมและพวกหลายคนสมัครใจไปเดินตลาดโพนสะหวัน ตลาดซึ่งเป็นกระจกสะท้อนความเป็นเมืองได้ดีที่สุด สัตว์ป่าที่ยังนอนหายใจรวยรินอยู่อย่างกระรอก ทำให้คนกรุงบางคนอดสงสารไม่ได้ หมูป่า เก้ง กระรอก ตุ่น อ้น น้ำผึ้ง และตัวอ่อนต่อหลุมมีขายอยู่มากมาย เพราะลาวมีความเป็นป่ามาก มากจนสัตว์ป่าเหลือเกินกิน

สมัยก่อนบ้านเราก็ขายสัตว์ป่ากินกันตามยุคสมัยของสังคม แต่พอกระแสเรื่องการอนุรักษ์พัดพามาจากตะวันตก ประกอบกับคนกรุงเทพฯ ไม่เคยเห็นการฆ่าสัตว์ (ได้แต่กินสัตว์ที่เขาฆ่ามาแล้ว) จึงทำให้หลายคนอดสงสารสัตว์ป่าเหล่านั้นไม่ได้ แต่สำหรับผมแล้วถือเป็นขั้นตอนหนึ่งของการพัฒนาการทางสังคม ไม่ปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้สนับสนุน และก็ว่ากันโดยสัจจริงแล้ว หมู ไก่ ไข่ รวมทั้งพืชผักที่ขายกันในท้องตลาดและตามห้างบางแห่งในบ้านเรามีอันตรายกว่าอาหารทั้งดิบและสุกในลาวอย่างเทียบกันไม่ได้เลย สารเร่งเนื้อแดงเอย สารเร่งการเจริญเติบโตเอย ยาฆ่าแมลงเอย บ้านเรามีเพียบ ดังนั้น โรคไตวายก็ดี หัวใจวายก็ดี มะเร็งก็ดี เบาหวานก็ดี ความดันก็ดี เมืองไทยติดอันดับโลกครับ!

ไม่กี่คืนในลาว

สุดถนอม จอมใจ หรือ“ปูเป้”ไกด์สาวลาวร่างใหญ่ใจดี เป็นคนพาชมตลาด พร้อมอธิบายให้ฟังอย่างละเอียด โดยเฉพาะเรื่องเห็ดหวาย เห็ดที่ว่ากันว่ามีสรรพคุณเยี่ยมยอด ขนาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นต้องบินมากิน

วันที่ผมไปนั้นไม่มีเห็ดสดให้ดู มีแต่เห็ดแบบแห้งใส่ถุงขาย พรรคพวกบางคนอยากซื้อ แต่อย่างที่บอกผมซื้อมาไม่กี่ขีดก็ปาเข้าไป 500 บาทแล้ว

ไม่ไกลจากตลาดเป็นย่านชุมชน มีร้านอาหารและร้านบริการธุรกิจท่องเที่ยวจำนวนมาก หลายร้านนำลูกระเบิดมาเป็นเครื่องประดับตกแต่งร้าน บางร้านนำมาเขียนเป็นป้ายชื่อร้าน ทำที่ย่างบาร์บีคิว ขณะที่บางบ้านก็นำลูกระเบิดขนาดใหญ่มาใช้ทำเป็นรั้วบ้าน ทำเอานักท่องเที่ยวจากเมืองไทยเห็นเป็นของแปลก ถ่ายรูปกับยมทูตแห่งความตายกันยกใหญ่

หลังสงครามการรุกรานสงบลง ดูผิวเผินแล้วเชียงขวางก็เหมือนแขวง อาจจะดูสงบ แต่ความจริงแล้วคนลาวที่นั่นยังหวาดหวั่นลูกระเบิดที่ยังหลงเหลืออยู่ตามป่าตามเขา หรือแม้แต่พื้นที่ทำเกษตรที่ทิ้งลงมาจากB-52ของอเมริกาผู้รุกรานเพราะผลพวงจากฝนเหลือง ทำให้ภูเขาแถบนั้นยังโล้นอยู่นับจำนวนไม่ถ้วน

การมาดูทุ่งไหหิน(Plain of jars)เป็นไฮไลต์ของที่นี่ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะมุ่งไปดูไหหินกลุ่มที่ 1 อยู่ห่างจากตัวเมืองโพนสะหวัน 7.5 กิโลเมตร ไหหินทำด้วยหินทราย กระจัดกระจายอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ ประมาณ 200 ใบ และมีขนาดใหญ่กว่าในกลุ่มอื่นๆโดยไหที่มีน้ำหนักมากที่สุดถึง 15 ตัน ส่วนใบที่เล็กที่สุดหนักประมาณ 40-50 กิโลกรัม

ไม่กี่คืนในลาว

จากการศึกษาค้นคว้าวิจัยร่วมกันระหว่าง สปป.ลาว กับญี่ปุ่น ก็ยังฟันธงไม่ได้ว่าไหหินที่มีอายุ2,500-3,000 ปีเหล่านี้สร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์อะไรกันแน่ แม้จะมีการค้นพบว่าบางไหมีโครงกระดูกมนุษย์ หรือพบลูกปัดจากจีน เครื่องประดับของชนเผ่าไท และรูปสำริดของเวียดนาม นักโบราณคดีบางคนเชื่อว่าเพื่อการทำพิธีศพ แต่บ้างก็เชื่อว่าเป็นที่บรรจุใส่เหล้าของนักรบโบราณในสมัยขุนเจือง แต่ผมเชื่อ สุจิตต์ วงษ์เทศ ที่ว่ามันคือกระบวนการทางศาสนาของพวกที่นับถือผี ก็ยุคทวารวดี ยุคขอมยังมีได้ ยุคผีจะมีไม่ได้หรืออย่างไร?

จำได้ว่าเมื่อสองสามปีก่อน เคยใช้เส้นทางเวียงจันทน์-หลวงพระบาง เดินทาง ริมภูเขาจะมีบ้านมุงแฝกของพวกม้งและชนเผ่าอื่นๆ อยู่ วันนี้บ้านหลังคามุงแฝกกลายเป็นบ้านปูน ผู้คนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่สะดวกสบาย ตกเย็นจะเห็นทั้งเด็กและผู้ใหญ่ไป“อาบน้ำสามัคคี”กันที่แท็งก์น้ำที่ราชการสูบเอาไว้ให้

คนไทยแน่นหลวงพระบางเหมียนเดิม

ตกเย็นยังมีเวลาพอไปเดินเล่นที่ถนนคนเดินหลวงพระบาง แม้ฝนตกแต่ก็พอเดินได้ ชนเผ่าต่างๆ นำสินค้ามาวางขาย โดยเฉพาะพวกงานฝีมือ เย็บปักถักร้อย ช่วงที่เดินอยู่จะสังเกตได้ว่ามีแต่นักท่องเที่ยวไทย!

ข้าวของที่นี่ไม่แพงเมื่อเทียบกับเมืองไทย แต่การซื้อขายอาจจะต้อง“ออกกำลังปาก”ต่อรองกันบ้าง ส่วนใหญ่ต่อแล้วแม่ค้าก็จะให้เพราะอยาก“ขายของหนีฝน”

ไม่กี่คืนในลาว

กลับจากถนนคนเดินไปยังโรงแรมที่พัก ซึ่งอยู่ไม่ไกล จะเห็นร้านอาหารที่เงียบเหงาในตอนกลางวัน กลับมามีชีวิตชีวาในตอนกลางคืนด้วยฝรั่งหัวแดง (คนไทยหัวแดงเพราะทำไฮไลต์ ไม่ชอบไปนั่งกินเพราะราคาอาหารแพง) พวกตะวันตกเหล่านั้นดินเนอร์จิบเบียร์กันสบายๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่อวลไปด้วยความเป็นท้องถิ่น ขณะที่ตามฟุตปาทมีรถเข็นขายเครปบริการลูกค้าต่างชาติที่กระเป๋าเบา อาหารในร้านหรูล้วนราคาสูงชนิดที่ข้าราชการของ สปป.ลาว และชาวลาวทั่วไปกินแล้วเจ็บคอ!

โปรแกรมที่อดีตราชธานีของอาณาจักรล้านช้างเริ่มกันที่ตักบาตรข้าวเหนียวตอนเช้าตรู่เสมอไป หลังจากนั้นก็เดินเที่ยวตลาดเช้า นอกจากผักสด ปลาสด แล้วก็มีสารพัดเห็ด ทั้งขาว ดำ แดง และเหลืองขาย หลังจากนั้นก็ไปจิบกาแฟโบราณที่ร้านประชานิยม แกล้มข้าวเหนียวปลา หมู เนื้อปิ้งที่อยู่ใกล้ๆ

หลังจากนั้นก็ต้อง“วัดเชียงทอง”อันเป็นวัดหลวงคู่เมืองหลวงพระบาง ที่พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช โปรดให้สร้างขึ้น ไปชมพระราชวังหลวงซึ่งเป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ นมัสการพระบางพระคู่บ้านคู่เมืองเพื่อเป็นสิริมงคล และชมอนุสาวรีย์เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์

ไนต์ไลฟ์ในวังเวียง

เดินทางกลับเพื่อมาพักค้างคืนที่วังเวียง หรือกุ้ยหลินเมืองลาวแหล่งท่องเที่ยวสำคัญรองจากหลวงพระบาง ที่พักติดริมแม่น้ำซอง วิวสวยไม่น้อย สะพานที่เอกชนสร้างทำให้คนเดินข้ามต้องจ่ายเงินคนละ 20 บาท ส่วนคนลาว 10 บาท

หลังอาหารเย็นเสร็จ บรรดาสมาชิกคาราวานต่างพร้อมใจกันท่องราตรี เพื่อให้เห็นกับตาว่าวังเวียงทั้งในยามกลางวันและยามกลางคืนมีอะไรน่าสนใจมากกว่ากัน

ไม่กี่คืนในลาว

บาร์เบียร์เต็มไปทั้งเส้น ฝรั่งหัวแดงทั้งแบ็กแพ็กและไม่แบ็กแพ็กเต็มไปหมด เมากัญชา เมาเหล้า ทะเลาะกันเสียงดังเอะอะ จนคนที่เห็นเหตุการณ์กลัวว่าหากไม่มีการห้ามปรามอาจจะมีการตายเกิดขึ้น

หนุ่มนักข่าวไทยเดินเข้าไปในร้านประเภทนี้ คนขายถามต้องการบุหรี่ยัดกัญชาหรือเปล่า แสดงว่าเป็นของหาได้ไม่ยากจริงๆ

นอกจากร้านบาร์เบียร์ที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่แสดงให้เห็นว่าวังเวียงเปลี่ยนไปจากเดิมมากถึงมากที่สุด คือแหล่งบันเทิงเริงรมย์และตู้เอทีเอ็ม ร้านนวดนับสิบแห่ง จากแต่ก่อนที่ไม่มี รถเข็นขายเครปและขายขนมปังฝรั่งเศสใส่ไส้มากกว่าสิบเจ้า ชีวิตกลางคืนที่นี่ไม่เงียบเหงาแน่สำหรับคนที่ชอบแสง สี เสียง

ส่วนฝรั่งวัยรุ่นหรือวัยทำงานที่มาเที่ยวนั้น น่าจะเป็นนักท่องเที่ยวประเภท กัญชาชน!

‘ปูเป้’สุดถนอม จอมใจไกด์ลาว

1.เชียงขวาง

เชียงขวางถือเป็นแขวงสำคัญ เคยเป็นที่ตั้งฐานทัพของนักปฏิวัติลาว เมื่ออเมริการู้ว่าตรงนี้เป็นจุดที่สำคัญของฝ่ายปฏิวัติ เขาก็เลยเอาระเบิดมาทิ้งใส่เชียงขวางเยอะที่สุดในประเทศ โดน“ฝนเหลือง”(สารเคมีที่ทำลายสภาพป่า) เยอะที่สุดในประเทศลาว ลาวโดนอเมริกาทิ้งระเบิดตั้งแต่ปี พ.ศ.1964 จนถึง 1973 เป็นเวลา 9 ปี ตลอด 24 ชั่วโมง วันละประมาณ 5 แสนเที่ยว ถึง 3 ล้านกว่าตัน ประชากรลาวแค่ 3 ล้านกว่าคน เท่ากับรับไปคนละ 1 ตัน

ทำไมฝ่ายประเทศลาวจึงมาตั้งฐานทัพอยู่ที่นี่ เพราะตรงนี้อยู่ใกล้กับชายแดนเวียดนาม ลาวนั้นได้รับความช่วยเหลือจากประเทศเพื่อนบ้านก็คือประเทศเวียดนาม เขาจะลำเลียงอาวุธสงคราม กำลังทหาร มาช่วยเรา ถนนที่ลำเลียงอาวุธมาสายนี้เขาจะเรียกว่าถนนโฮจิมินห์ ซึ่งห่างจากโพนสวรรค์ไปถึงตรงนั้นประมาณ 130 กิโลเมตร

ไม่กี่คืนในลาว

นักท่องเที่ยวที่เข้ามาที่เชียงขวางมาจากหลายที่ จากประเทศไทยอันดับหนึ่ง รองลงมาก็เป็นพวกฝรั่ง มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมตลอดปี แม้แต่หน้าฝนก็ยังมีไม่ขาด เป็นจุดที่สำคัญของที่นี่ ช่วงนี้จะมีพวกคนญี่ปุ่นเขาจะชอบมากินเห็ดหวาย เห็ดหวายจะขับสารพิษออกจากร่างกาย เป็นเห็ดอายุวัฒนะเขาก็เลยมากินที่นี่ เห็ดแห้งกิโลกรัมละประมาณ 1 ล้านกีบ หรือ 4,000 กว่าบาท แต่ถ้าสดๆ กิโลกรัมละ 500 กว่าบาท กินสดจะอร่อยมาก คล้ายๆ เห็ดหอม จะเอาไปผัด ต้มยำ แกงจืด ก็ได้ มันจะอยู่ในป่า แต่ตรงไหนที่โดนฝนเหลืองมันจะเบื่อ (เมา) เขาจะไม่เอามากิน กินแล้วตายกันทั้งครอบครัวก็มี

ประชาชนที่อยู่ที่นี่จะดำรงชีวิตอย่างหวาดหวั่น เพราะต้องระวังเรื่องลูกระเบิดตลอด ไม่ว่าจะทำนา ทำสวน ทำไร่ เข้าป่าล่าสัตว์ ต้องระวังตลอด เพราะว่าหลายจุดที่ยังไม่ทำการขุดค้น โดยเฉพาะโซนนอกๆ แต่รัฐบาลลาวก็ไม่ได้ยอมแพ้ ตอนนี้ก็ทำการขุดค้นอยู่ ได้รับการช่วยเหลือจากโครงการแมก (Mag) ของอังกฤษ และUXOซึ่งเป็นองค์การเก็บกู้กับระเบิดของลาว

คนเมืองนี้ก็เป็นคนเก่ง อายุ 10 กว่าปี (ม้ง85%และลาวพวน15%) ก็สามารถรับใช้ชาติได้แล้ว เด็กผู้หญิงก็เด็ดเดี่ยว เขาจึงแต่งเพลงสาวเชียงขวางทั้งงามทั้งเก่งให้

อาหารที่ขึ้นชื่อของเมืองเชียงขวางเรียกว่านกแอ่นตุ้ง นกแอ่นตุ้งจะหมักใส่เกลือเค็มๆ เวลากินกินกับข้าวเหนียวเยอะๆ ถือว่าเป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่เลย นกแอ่นตุ้งคือ“ปลาร้านกเขา”หมักใส่เกลือ ขายไม่แพงประมาณ 5 ตัว 10 พันกีบ หรือ 1 หมื่นกีบ ไม่แพง ประมาณ 40 บาท คนเชียงขวางไม่ค่อยกล้าปลูกพืช ต้องนำเข้า เพราะอายุสารพิษที่ทำฝนเหลืองยาวนานถึง 10-20 ปี

โรงแรมที่เชียงขวางไม่มีแอร์คอนดิชัน เพราะอากาศหนาวเย็น มีภูที่สูงที่สุดในประเทศลาว เราเรียกว่า“ภูเบี้ย”สูง 3,850 เมตร สูงที่สุดในประเทศลาว (อินทนนท์ของไทยแค่2,500เมตรเอง) เป็นแหล่งทอง เหล็ก และถ่านหิน

ไม่กี่คืนในลาว

2.หลวงพระบาง

หลวงพระบางเปลี่ยนไปเยอะ เพราะว่าหลวงพระบางเมื่อก่อนเป็นที่พักอาศัย ร้านอาหารมีน้อย ปัจจุบันนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ คนรุ่นใหม่เลียนแบบวัฒนธรรมตะวันตก รัฐบาลลาวก็ต้องดูแลคุ้มครองให้ก้าวไปแบบช้าๆ แต่มั่นคง

มีนักธุรกิจไทยทำธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร นวดแผนโบราณ นักท่องเที่ยวไทยจะเข้าหลวงพระบางถือเป็นอันดับหนึ่งของประเทศลาว ทำรายรับอันดับหนึ่งให้หลวงพระบาง เราขายสถานที่โบราณในสภาพเดิมๆ เราอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีเก่า แม้ว่าประเทศอื่นเขามองว่าเราเป็นประเทศด้อยพัฒนา แต่เราเอาความด้อยพัฒนามาเป็นจุดขาย (ความจริงหลายคนเข้าใจผิดในConceptของคำว่าพัฒนา เพราะมันหมายถึงการพัฒนาทางการเมืองเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับความเจริญ ประเทศลาวเป็นประเทศพัฒนาทางการเมือง (Developing Country) แล้วเหมือนจีน เหมือนมาเลย์ เวียดนาม ซึ่งต่างกับไทยที่ยังเป็นประเทศด้อยพัฒนาทางการเมือง (Under Developed Country) เพราะยังไม่มีการปฏิวัติทางการเมืองใดๆ ต่างจากคำว่าความเจริญ ความเจริญของประเทศไทยย่อมมากกว่าลาว อเมริกามากกว่าไทย:ผู้เขียน)

รากไม้ฝอยๆ ที่ขายอยู่ในตลาดเรียกว่ารังนกแอ่น เป็นยากำลัง ส่วนใหญ่ผู้ชายจะเอาไปดองเหล้าขาวกินให้มีแรงมีกำลัง เวลาทำงานจะไม่เหนื่อย“กินแล้วแข็งแรงไม่หมด”

จากเวียงจันทน์ถึงหลวงพระบางประมาณ 390 กิโลเมตร และก็มี 3,870 กว่าโค้ง โค้งสั้นๆ คนลาวเรียกว่าง้อเป็นตาย่าน ดังนั้น เวลาขับรถบนถนนวัดใจสาย 13 จึงต้องระมัดระวัง ถนนเส้นนี้มีรถวิ่งตลอด 24 ชั่วโมง

ไม่กี่คืนในลาว

นักธุรกิจจีนเข้ามาในลาวเยอะ เข้ามาทำการค้า จีนกับเวียดนามทำธุรกิจแตกต่างกันไป คนลาวกับเวียดนามเหมือนกับเป็นพี่น้องกัน เรียกว่าอ้ายน้องเวียด เป็นเพื่อนบ้านที่สำคัญที่สุดของลาว เมื่อรบสมัยสงครามอินโดจีน เราอยู่โดดเดี่ยวไม่ได้

ที่ตลาดมืดหรือถนนคนเดิน มีทั้งม้งและลาวมาขายของ คนม้งจะขายผ้าปักมือที่เป็นวิถีชีวิตของชนเผ่า เป็นผ้าคลุมที่นอน ปลอกหมอน กระเป๋า แต่ผ้าของเผ่าลาวลุ่มส่วนใหญ่เป็นผ้าซิ่น แพร สไบ ผ้าตกแต่งบ้าน แต่ม้งจะทำผ้าปักมือ การค้าจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งในการดึงม้งลงมาจากภูเขาให้มาประกอบอาชีพในเมือง ลดการตัดไม้ทำลายป่า ตลาดมืดตั้งอยู่บนถนนบ้านเจ๊ก ชื่อจริงๆ ถนนศรีสว่างวงศ์ มีร้านอาหาร เบเกอรี อินเทอร์เน็ต มีบาร์เหล้าต่างๆ นักท่องเที่ยวจะมารวมตัวกันตอนช่วงเย็น ตอนเช้าจะอยู่ที่ร้านกาแฟประชานิยม บ้านเรือนจะอนุรักษ์ไว้หมด บางที่จะเห็นเป็นอิฐแดง เป็นตึกที่สร้างตอนสมัยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส บางที่ก็สร้างยุคอเมริกาปกครอง รัฐบาลห้ามรื้อ ห้ามสร้างโดยพลการ จะตัดต้นไม้ก็ตัดไม่ได้เพราะเขาจดเป็นทะเบียนมรดกหมด

คนที่นี่จะนิยมกินเห็ดป่า เห็ดแสกจะแพงที่สุด ชาวบ้านจะไปหาตามป่าลึกมาก ไปหาเอาเลย บางคนก็เอามาขาย บางคนก็เอามากิน

เห็ดดอกเล็กๆ สีขาว เรียกว่า“เห็ดไก่น้อย”เอาไปแกงส้ม ไปผัดใส่น้ำมันหอย แล้วแต่ บางคนก็ไปห่อหมกใส่ใบตอง เขาก็ไปหาในป่าลึกเหมือนกัน นอกจากเห็ดไก่น้อย ก็มีเห็ดไข่ดอกสีเหลือง หาในป่าโคกป่าใหญ่ จะทำแกงส้มอร่อยสุดยอดเลย และก็มีเห็ดสีขาว ดอกใหญ่ๆ เรียกว่าเห็ดระโงกสีเหลืองดอกเล็ก เรียกว่าเห็ดแฝก สุดยอดแพง เขาคิดกิโลกรัมละ 200 กว่าบาท เห็ดสีม่วงอมแดงเรียก“เห็ดหน้าอิดหน้าออน”เป็นเห็ดป่าเหมือนกัน เห็ดถ่านจะเป็นสีดำดอกใหญ่ จะออกในช่วงนี้แหละ

ไม่กี่คืนในลาว

วิธีทดสอบเห็ดเป็นพิษก่อนที่เขาจะกินเขาก็จะเอาไม้ซางจิ่งมาทดสอบ เวลาที่ทำแกงส้มเห็ดเขาก็จะเอาไม้ซางจิ่งใส่ลงไปในหม้อ ถ้าเอาขึ้นมาแล้วเป็นสีดำหรือม่วงถือว่าเห็ดเป็นพิษ บางคนก็เอาข้าวเหนียวใส่ เวลาที่ต้มเห็ดสุกแล้วเอาข้าวเหนียวขึ้นมาดู ถ้าเป็นสีม่วงก็เป็นพิษ เขาจะไม่กินกัน บางคนที่เอากระเทียมใส่ข้าวฆ่าพิษ เวลาต้มเห็ดป่าเขาต้อง“เปิดฝาหม้อ”ทุกครั้งให้ไอพิษมันออก ไม้ซางจิ่งเป็นไม้แก้พิษ เวลาใส่แกงจะตัดชิ้นเล็กๆ ลงไปด้วย มันจะช่วยฆ่าพิษเลย เขาจะนิยมทำแบบนี้

คนม้งเขาปลูกข้าวไร่ ระหว่างกลางก็จะปลูกแตง ถั่ว อะไรหลายๆ อย่าง ถึงเวลาก็ไปเก็บมาขาย หน่อหวายเขาเอาไปทำน้ำพริก ชนเผ่าม้งและขมุอยู่ผสมผสานกัน ชนเผ่าขมุจะทำยุ้งข้าวไว้ไกลบ้านหน่อย เวลาไฟไหม้จะได้เหลือข้าวไว้กิน เป็นความเชื่อของเขามาแต่โบราณ แต่ม้งจะชอบทำไว้ติดกับบ้าน แต่บ้านม้งไม่มีใต้ถุน ขมุมีใต้ถุนนิดๆ ถ้าเราอยากรู้ว่าบ้านไหนม้งหรือขมุให้ดูที่ใต้ถุน มีใต้ถุนขมุ ไม่มีใต้ถุนม้ง

ม้งจะหาคู่กลางเดือน ธ.ค. ผู้ชายกับผู้หญิงจะมารวมตัวกันจาก 3-4 หมู่บ้าน แล้วจีบกันเล่น ปีใหม่ม้ง จีบกันไปจีบกันมา พบหน้ากันแค่ 10 กว่าวัน ผู้ชายชอบคนไหนก็ฉุดเอาผู้หญิงไป ผู้หญิงที่โดนฉุดก็ร้องช่วยด้วยๆ แต่เท้าก็วิ่งตามผู้ชายไป ที่ทำแบบนี้เพื่อร้องเอาสินสอดให้สูงขึ้น ผู้หญิงที่โดนฉุดไปแล้วเวลาขอจะได้สินสอดน้อย เขาร้องเพราะต้องการสินสอด ม้งจะไม่ค่อยทำหน้าต่างบ้านเยอะ ทำแค่กล่อง (บาน) เดียว ผู้บ่าวคนไหนที่มาจีบสาวในช่วงที่ไม่ใช่ปีใหม่ม้งมาจีบ ห้ามเอาตัวเข้าไปทั้งตัว เอาแต่หัวเข้าไป เท้าเอาไว้ข้างนอก ไว้เตรียมวิ่งหนี ถ้าผู้ชายเข้าไปทั้งตัวเขาจะถือว่าชอบแล้วทั้งตัวและใจ เขาจะจับเอาไว้เป็นผัวเลย ประเพณีนี้มีหลายแบบ ถ้าไม่ชอบก็วิ่งหนีเลย

การปลูกบ้านของม้ง จะปลูกบ้านติดดิน ไม่มีใต้ถุน ชั้นเดียว ข้างในบ้านจะเป็นดินหมดเลย เขาจะขายพวกผัก ผลไม้ ของป่าตามฤดูกาล ขมุเผ่าดั้งเดิมของประเทศลาวก็มี แต่สีผิวจะต่างกับม้ง ขมุดำ ม้งขาว ขมุจะปลูกบ้านแบบมีใต้ถุนนิดๆ แต่ไม่สูง เอาไว้เก็บไม้ฟืนเวลาหน้าฝน ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของชนเผ่า ทั้งสองเผ่าจะไม่แต่งงานข้ามเผ่ากัน

ไม่กี่คืนในลาว

ม้งไม่ชอบเรียนหนังสือ ทางรัฐบาลต้องมารณรงค์ ลบล้างไม่ให้มีคนไม่รู้หนังสือในประเทศลาว ด้วยการให้ม้งลงไปเรียนหนังสืออยู่ที่ราบ เขาจะชอบทำไร่เป็นหลัก

ถนนสาย13เวียงจันทน์-หลวงพระบาง จะเป็นบ้านของม้งและขมุ บ้านไม้มุงด้วยหญ้าแฝกที่ลาวเรียกหญ้าคาอยู่ริมเหว หน้าบ้านเป็นถนน หลังบ้านเป็นเหว อากาศสบายๆ ไม่ต้องใช้แอร์ ไม่ต้องมีพัดลม แต่คนลาวไม่นิยม คนลาวจะชอบอยู่ที่ราบ เมืองที่เจริญ

คนแถวนี้มีบัตรประชาชนทุกคน แต่แยกเป็นเผ่า ชนเผ่าม้งเยอะ รองมาก็ขมุ แลนแตน แลนแตนจะโกนคิ้ว ผู้หญิงจะโกนคิ้วหมดเลย อยู่ที่จังหวัดหลวงน้ำทา ติดกับชายแดนจีน เป็นเผ่าสุดท้ายที่อพยพมาจากจีน ภาษาเขายังเหมือนภาษาจีน อยู่ทางภาคเหนือของลาวทางหลวงน้ำทา ผ้าเขาจะแต่งสวย สีม่วง ชมพู เสื้อสีม่วง ชมพู ผ้าฮำแขน ขาสีขาว เขาจะแต่งเครื่องเงินมาห้อยประดับตามเสื้อผ้า เผ่านี้เขาจะมีบ้านจีบสาว เขาจะมีบ้านใหญ่ และไปสร้างบ้านเล็กๆ ผู้บ่าวผู้สาวจะจีบกันต้องไปอยู่ลานตรงนั้น เป็นลานเล็กๆ ชอบและเอาอยู่ตรงนั้น แต่ว่าเผ่านี้ไม่ดีอย่างหนึ่ง เวลาเกิดลูกแฝดเขาจะเอาไปฆ่าทิ้งคนหนึ่ง เขาบอกว่าเกิดลูกแฝดเป็นคนกาลีบ้านกาลีเมือง ไม่ดี เขาจะเอาขี้เถ้าอัดปากให้ตาย แม่จะโดนขับไล่ออกจากบ้าน เพราะฉะนั้น บ้านไหนที่คลอดลูกแฝดสามีก็จะเอาทั้งลูกทั้งเมียหนีทั้งกลางคืนเลย หนีไปอยู่ที่อื่น ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ ทั้งๆ ที่รัฐบาลลาวก็ลงไปลบล้างไม่ให้ทำแบบนี้ เพราะเป็นการฆ่าเด็ก

วังเวียงเปลี่ยนไปจาก10ปีก่อนเยอะ เพราะมีนักท่องเที่ยวมาจากหลายชาติ มาล่องเรือ ล่องแก่ง ขึ้นเขา เข้าถ้ำ มีบอลลูนให้ขึ้นด้วย 1 ชั่วโมง 70 เหรียญสหรัฐ นั่งได้ 7-10 คน เป็นธุรกิจคนจีนมาหุ้นส่วนกับคนลาว

กฎหมายลาวห้ามล่าและขายสัตว์ป่า (สัตว์ใหญ่) สัตว์เล็กมีบ้าง ถ้าจับได้ก็โดนปรับตามระเบียบ คนลาวบางส่วนก็กินหมา ส่วนมากจะเป็นลาวเวียด คนลาวกินน้อย เรียกเล่นๆ ว่า“กวางทองบ้าน”จะกินแกล้มเหล้าอะไรแบบนี้

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ