สุข สนุก ลอยฟ้า อโบฟ อีเลฟเว่น
อีกไม่ช้าฤดูหนาวก็จะมาเยือนกันแล้ว แต่ตอนนี้เป็นทีของฤดูฝนที่กระหน่ำตกทุกวี่ทุกวัน คนอื่นๆ อาจปวดหัวกับสายฝนกระหน่ำ
โดย...ลีโอ เคน/ภาพ ประกฤษณ์ จันทะวงษ์
อีกไม่ช้าฤดูหนาวก็จะมาเยือนกันแล้ว แต่ตอนนี้เป็นทีของฤดูฝนที่กระหน่ำตกทุกวี่ทุกวัน คนอื่นๆ อาจปวดหัวกับสายฝนกระหน่ำ แต่สำหรับนักท่องราตรีไม่มีข้อแม้กันหรอกนะจะบอกให้ อิอิ
เพราะยามที่ฝนหยุดโปรยสาย เราจะนัดหมายไปยังที่สราญใจ ต่อให้เป็นบาร์ลอยฟ้าก็เถอะไม่มีข้อแม้ใดๆ ว่าม่ะ เฉกเช่นค่ำคืนนี้อากาศแจ่มใสกำลังดีเรามีที่หมายใหม่ที่จะทำให้คุณทั้งสุข และแสนสนุกบนดาดฟ้าที่สูงที่สุดในซอยสุขุมวิท 11 (นานา)
ดินแดนในฝันของนักท่องราตรียามนี้ก็คือ อโบฟ อีเลฟเว่น (Above Eleven) บาร์ลอยฟ้าที่ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมเฟรเซอร์ สวีท สถานที่จะทำให้คุณๆ ได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศของกรุงเทพฯ อย่างเต็มตาในมุมมอง 360 องศาเชียวนะครับ
ทันทีที่พ้นลิฟต์ส่วนตัวขึ้นมาชั้นที่ 33 ของโรงแรม สัมผัสแรกเราจะเจอ อโบฟ อีเลฟเว่น ในมุมที่แตกต่าง ภายใต้แนวคิดสวนส่วนตัวที่เจ้าของได้รับแรงบันดาลใจมาจากเซ็นทรัล พาร์ค สวนใหญ่ใจกลางเมืองนิวยอร์ก การตกแต่งจึงเน้นความเป็นโมเดิร์นของศิลปะแบบแอบสแทรกต์ประดับด้วยประติมากรรมต้นไม้เหล็กและครอบคลุมผนังด้วยหญ้า เสมือนเหมือนอยู่กลางป่าเขาให้อารมณ์คล้ายๆ กับกำลังนั่งดินเนอร์อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่กลางเมืองว่างั้นเถอะ
และแน่ละเราจะสัมผัสได้ถึงความตื่นตาตื่นใจกับกรุงเทพฯ ยามราตรี ในมุมมองที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เก้าอี้ไม้นั่งยาว โซฟารูปสวยตัวเขื่อง และเสียงเพลงประสานเสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เรียกพลังจากอาการหนักหน่วงมาตลอดสัปดาห์ให้หายกระเจิดกระเจิงกันทีเดียว
นอกจากไวน์ เบียร์ และบรั่นดี คัดสรรมาเอาใจแบบไม่อิดออด ยังพร้อมสัมผัสกับรสชาติอาหารลูกผสมระหว่างญี่ปุ่นกับเปรู ในสไตล์ “นิเคอิ” ศิลปะการปรุงอาหารที่ผสมผสานระหว่างอาหารญี่ปุ่นและเปรูอย่างลงตัว ถือเป็นศิลปะการปรุงอาหารฟิวชันที่นับว่าเก่าแก่ที่สุดในโลก งานนี้เชฟโอมาร์ แฟรงค์ มารุย เชฟลูกครึ่งเปรูญี่ปุ่น ที่มีประสบการณ์การปรุงอาหารมากกว่า 20 ปี ลงมือสรรค์สร้างเมนูมาเอาใจเพียบเลย
เอาเป็นว่าสั่งเครื่องดื่มย้อมใจมาทำความคุ้นเคยกันเหมือนเคย แล้วก็อย่าลืมเรียกหานิเคอิมาสมทบความอร่อยกันนะ เริ่มต้นกับเมนูยอดนิยม เชบิเช อโบฟ อีเลฟเว่น ปลากะพงดิบเนื้อหวานผสานกับปลาหมึก กุ้ง ราดด้วยน้ำยำสูตรพิเศษ นำมาคลุกเคล้าจนเข้ากัน รับประทานคู่กับสวีตโปเตโตหมักกับน้ำส้มสายชูและน้ำตาล โรยหน้าด้วยปลาหมึกทอดกรอบ อร่อยเพลินเชียวล่ะฮะ
เมนูต่อมา “คานิ เกาซา” หน้าตาสะสวย รสชาติก็ไม่เป็นรอง คานิในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “ปู” เมนูนี้จึงใช้มันบดปรุงรสยัดไส้ด้วยอโวคาโด ออกเปรี้ยวอมเค็ม หอมกลิ่นพริกเหลืองของเปรูเบาๆ แล้วข้างบนจะท็อปปิงด้วยเนื้อปูบด อร่อยสุดๆ จริงๆ นะ
อีกเมนู อาร์รอซ กอน มาริสกอส ข้าวอบสไตล์เปรู หน้าตาคล้ายกับข้าวอบของสเปน อุดมไปด้วยของฝากจากทะเล ทั้งกุ้ง หอยพาร์ม มีกลิ่นหอมของเครื่องเทศ อร่อยดี
ก่อนจะตบท้ายด้วยเมนูชื่อน่าใจหาย “หัวใจวัวเสียบไม้ย่าง” เนื้อหัวใจวัวที่เลาะเอากล้ามเนื้อออกเหลือแต่ใจกลางที่ทั้งนุ่มและแน่นที่สุดมาฝานเป็นชิ้นขนาดพอคำ แล้วนำไปหมักกับน้ำส้มสายชูและเครื่องเทศนานา ก่อนนำมาย่างจนหอมฉุย กินกับซอสตำรับเปรู 3 ชนิด ยิ่งแซบเวอร์
อ่อ...ไม่ชอบเหล้าเบียร์ที่นี่ก็มีค็อกเทลสีสวยๆ มากำนัลตรึม มาถึงที่นี่ทั้งทีก็อย่าลืมสั่งเครื่องดื่มประจำชาติเปรูอย่าง พิสโก ซาวด์ บรั่นดีชั้นดีของเปรูที่ทำจากองุ่นใส่ไข่ขาว ผสมกับมะนาวหรือเสาวรส สดชื่นๆ
เอาเป็นว่าวันไหนฝนฟ้าปลอดโปร่ง เชิญสัมผัสความสำราญ สลายความเหงาหงอยได้ที่นี่ อโบฟ อีเลฟเว่น ชั้น 33 โรงแรมเฟรเซอร์ สวีท สุขุมวิท 11 เปิดบริการตั้งแต่เวลา 18.00-02.00 น. โทร. 02-207-9300
ไปเมื่อไหร่ก็อย่าลืมโทร.มาชวนกันด้วยนะฮะ อิอิ!!!


