ใกล้ชิดอบอุ่นแบบครอบครัวเลาหพงศ์ชนะ

โดย...กันย์

จริงแท้ที่ว่าครอบครัวคือพื้นฐานที่สำคัญของชีวิตมนุษย์ทุกคน ยิ่งมีพื้นฐานครอบครัวที่ดี ก็สร้างความเชื่อมั่นและความมั่นคงทางจิตใจของเด็กๆ ให้โตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตใจหนักแน่นมั่นคงทางอารมณ์ เพราะมีครอบครัวเป็นแบ็กอัพที่ดีอยู่เสมอมา ใกล้กับเทศกาลวันแม่แล้วมีภาพของครอบครัวอบอุ่นใจดีของพิธีกรรุ่นใหม่ไฮโซมาฝากกัน

ใช่แล้ว มิใช่ใครที่ไหน ก็เขาคนนี้นั่นเอง ป๊อป-วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์และการสื่อสาร บริษัท คริสเตียนดิออร์ (ไทยแลนด์) ที่หลายคนอาจจะคิดว่าชีวิตของเขามีแต่เรื่องง่ายๆ อะไรๆ ก็โรยไปด้วยกลีบกุหลาบไปเสียทั้งหมด เขาส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยใจว่า ทุกอย่างที่เขาทำนั้นล้วนแต่ต้องแลกมาด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและไม่เคยมีอะไรได้มาง่ายๆ ราวกับของหล่นมาจากฟ้า ทุกอย่างต้องลงทุนลงแรงมาทั้งสิ้น ชีวิตนี้ไม่เคยมีคำว่าฟลุก

เมื่อได้มาแล้ว ก็ต้องทุ่มเทอย่างหนักหน่วงเพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียโอกาสกับสิ่งที่ได้มา

“ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ และเมื่อได้มาแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุดสมกับความไว้วางใจที่ผู้ใหญ่ให้มา กว่าจะได้อะไรมาแต่ละอย่างนี่หลายครั้งเลือดตาแทบกระเด็น ผมทำงานหนักทุ่มเทสุดหัวใจไปเลย ทุกวันนี้ทำงานมากกว่า 12 ชั่วโมง หาข้อมูลเตรียมทำรายการเองทั้งหมด เสื้อผ้าหาเอง”

เขาบอกว่า สำหรับเขาแล้วครอบครัวถือว่ามาเป็นอันดับหนึ่งในชีวิต ว่าเราเป็นใครมาจากไหน รากเหง้าของเราเป็นอะไร ไม่ลืมตัวลืมตน เรามีวันนี้ได้เพราะคุณพ่อคุณแม่ฟูมฟักส่งเสริมเรามาตลอดเวลา อย่าลืมบุญบุพการี คุณพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ที่เป็นกำลังใจให้เราได้ในทุกๆ เรื่อง พร้อมให้อภัยเราได้เสมอยามเราผิดพลาด

“ทุกวันนี้แม้จะแยกไปอยู่คอนโดมิเนียมได้ปีกว่าแล้ว แต่ก็จะกลับมารับประทานข้าวที่บ้านทุกอาทิตย์ โทร.มาหาพี่ๆ น้องๆ คุณพ่อคุณแม่เกือบทุกวัน มีปัญหาท้อแท้ทุกข์ใจ ทุกคนก็ยังอยู่ที่บ้านพร้อมรับฟังเราได้เสมอ ครอบครัวคือส่วนหนึ่งในชีวิตเรา พร้อมเคียงข้างเราได้ในทุกสถานการณ์”

ในเรื่องการเลี้ยงดูนั้น วัยเด็กจนถึงวัยรุ่นคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ได้บังคับอะไรมากมาย เลี้ยงดูไปตามธรรมชาติ แต่สอนให้เป็นเด็ก มีสัมมาคารวะ รู้จักรับผิดชอบ โตหน่อยก็เน้นเรื่องระเบียบวินัย มีอัธยาศัยที่ดี พอเริ่มทำงานท่านก็สอนเรื่องให้รู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่ ทำงานให้ดีให้เป็นที่น่าเชื่อถือ เราก็พยายามทำตัวให้ดี อย่าให้ใครดูถูกเอาได้ ถ้าเราดูแลตัวเองดี พ่อแม่ก็สบายใจ

กับพี่สาวน้องสาวก็สนิมกันมาก คุยได้ทุกเรื่อง อายุเราไม่ห่างกันมาก ก็เหมือนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก พี่สาวช่วยทำงานที่บ้าน อยู่บ้านดูแลคุณพ่อคุณแม่แทนเรา ส่วนน้องสาวเขาก็มีงานทำของเขา แต่ก็มาช่วยเราทำงานด้วย ถือว่าสำหรับคำว่าครอบครัวนั้นเรายังเหนียวแน่นไม่เคยห่างหายกันไปไหน

ในวันสำคัญพวกเราทุกคนก็ยังมาสังสรรค์กันเสมอ และอยากให้บรรยากาศเช่นนี้อยู่กับเราตลอดไป วันพ่อก็มีคุณพ่อให้กลับไปหา วันแม่ก็มีคุณแม่ให้มีพวงมาลัยกลับไปไหว้ท่าน ถือว่าเรายังโชคดีที่มีท่านเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของเรา และท่านก็มีความอบอุ่นรักใคร่ให้แก่ลูกๆ เสมอ