‘กันตนา’ ปลุกจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านแอนิเมชันสามมิติ
โดย...ปอย
โดย...ปอย
เพราะตระหนักถึงปัญหาโลกร้อนที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น เหตุนี้ จาฤก กัลย์จาฤก ประธานกรรมการบริหาร กันตนา กรุ๊ป จึงได้ร่วมกับ “มูลนิธิดินดีน้ำใสแห่งประเทศไทย” นำโดย ม.ร.ว.สมลาภ กิติยากร ประธานกรรมการมูลนิธิฯ สร้างสรรค์ภาพยนตร์ เรื่อง “เอคโค่ จิ๋วก้องโลก” (Echo Planet) เพื่อรณรงค์ให้คนหันมาใส่ใจและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมให้ความรู้ความเข้าใจร่วมกันในการลดการใช้พลังงานหรือใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่เหลืออยู่อย่างเหมาะสม โดย “เอคโค่ จิ๋วก้องโลก” ยังถือเป็นภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องแรกของไทยในระบบแอนิเมชันสามมิติอีกด้วย
เรื่องราวการผจญภัยบนมิตรภาพของเด็กจากสองฟากโลก ระหว่างพี่น้องชาวกะเหรี่ยง หน่อวา เด็กสาวผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และศิลปะการต่อสู้ จ่อเป เด็กชายที่สามารถสื่อสารกับธรรมชาติรวมถึงสัตว์ต่างๆ ได้ด้วยการโขกหัว กับ แซม เด็กที่คลั่งไคล้ในอุปกรณ์ไฮเทค บุตรชายคนเดียวของประธานาธิบดีแห่งแคปปิตอลสเตต พร้อมด้วย “เฉโป” ลูกสมเสร็จตัวเล็กเพื่อนของจ่อเป ทั้ง 4 ชีวิตร่วมกันเดินทางไปหยุดยั้งปีศาจคลื่นความร้อนที่เกิดจากสภาวะโลกร้อน และได้ช่วยกันกอบกู้โลกจากหายนภัยครั้งนี้ โดยภาพยนตร์มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 2 ส.ค.ทั่วประเทศ...
แซมเดินทางมาเข้าร่วมค่ายลูกเสือโลกที่ประเทศไทย แต่ด้วยความหยิ่งและหลงตัวเองทำให้เขาหลงทางไปในป่าหมอกและตกอยู่ในอันตราย โชคดีที่กะเหรี่ยงสองพี่น้องมาพบเข้าแล้วช่วยเหลือไว้ ทั้งสามคนก็เริ่มสนิทและกลายเป็นเพื่อนกัน ในขณะนั้นเองมีสัญญาณเตือนภัยจากท้องฟ้า แม่หมอ ผู้ทำหน้าที่พยากรณ์ประจำหมู่บ้าน เสี่ยงทายและบอกกับทุกคนให้รู้ว่า มหันตภัยร้ายกำลังจะมาถ้าไม่มีใครยับยั้งมันได้โลกจะต้องถึงกาลวิบัติ เมื่อจ่อเป และ หน่อวา เดินทางมาส่งแซม ออกจากป่าลึก สัญญาณเตือนภัยกลับดังขึ้นอีก จ่อเป และหน่อวารบเร้า แซม ให้พาไปที่ แคปปิตอลสเตต ด้วย และที่นั่นเด็กๆ ทั้งสามร่วมใจกันฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อหยุดยั้งวิกฤตร้ายของโลกครั้งนี้ให้ได้
“โดยแก่นแท้ของเรื่องราวมุ่งเน้นด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม” จาฤก กัลย์จาฤก นายใหญ่กันตนา กรุ๊ป บอกย้ำประโยคนี้ในฐานะผู้อำนวยการสร้างฯ กล่าวถึงภาพยนตร์เรื่องนี้
“เพราะเราเชื่อว่าเรื่องของปัญหาโลกร้อนไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของทุกๆ คนบนโลกสีน้ำเงินใบนี้นะครับ ทางกันตนาจึงได้ร่วมกับมูลนิธิดินดีน้ำใสแห่งประเทศไทย จัดทำภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชันสามมิติ เอคโค่ จิ้วก้องโลก ขึ้น ซึ่งใช้เงินลงทุนสร้างกว่า 170 ล้านบาท ในการพัฒนาขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อน เราใช้เวลากว่า 3 ปี ในการผลิต ตั้งแต่การทำรีเสิร์ช การค้นหาวิธีการดำเนินชีวิตของกะเหรี่ยงคอยาว ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ตลอดจนความเชื่อ พิธีกรรม ต่างๆ เพื่อนำมาพัฒนาเป็นบทภาพยนตร์
ในวันเปิดตัวภาพยนตร์เราให้ความสำคัญกับการจำลองหมู่บ้านกะเหรี่ยงขึ้นมา พร้อมมีการละเล่นดนตรีพื้นบ้านของชาวกะเหรี่ยง และเสาไม้สูงที่ชาวกะเหรี่ยงนับถือ ตลอดจนต้นไม้และป่านานาพันธุ์ เพื่อทำให้ผู้ที่มาร่วมงานรับรู้ถึงความร่มรื่นของธรรมชาติ ร่วมถึงรู้สึกเสมือนเดินย่างกรายเข้ามาในหมู่บ้านของ “หน่อวา” และ “จ่อเป” รับรองว่าฝีมือการทำหนังสะท้อนเรื่องสิ่งแวดล้อมคนไทยไม่แพ้ต่างชาติครับ เราต้องการบอกว่าโลกร้อนกำลังเป็นปัญหาทั่วโลก และเพื่อให้สื่อสารได้ทุกเพศทุกวัยจึงทำเป็นการ์ตูน และแทนภาวะโลกร้อนด้วยปีศาจ เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น” จาฤก กล่าว
ด้าน ม.ร.ว.สมลาภ ประธานกรรมการ มูลนิธิดินดีน้ำใส แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “มูลนิธิฯ มีหน้าที่ในการอนุรักษ์ทรัพยากรดิน น้ำ ป่าไม้ ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญของทุกคน ซึ่งที่ผ่านมาเรามีกิจกรรมรณรงค์ปลุกจิตสำนึกให้รู้รักษ์สิ่งแวดล้อมมาตลอด และงานล่าสุด มูลนิธิดินดีน้ำใสแห่งประเทศไทยได้ร่วมกับทางกันตนา จัดทำภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชันสามมิติในรูปแบบนี้ ก็จะเป็นอีกวิธีหนึ่งในการให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องปัญหาโลกร้อน ซึ่งผมคิดว่าเกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์โดยตรง” ม.ร.ว.สมลาภ กล่าว
ภาพยนตร์เรื่อง “เอคโค่ จิ้วก้องโลก” ต้องการปลุกจิตสำนึกคนไทยได้ตระหนักรู้ถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนพลังงาน ที่เนื้อหาหลักใหญ่ต้องการสื่อว่าโลกของเราไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว และจะเปลี่ยนไปถ้าทุกคนไม่สนใจโลก และในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ 80 พรรษา ในวันที่ 12 ส.ค.ที่จะถึงนี้ ภาพยนตร์เรืองนี้ยังเป็นแคมเปญใหญ่ของกันตนาที่ตั้งใจสร้างความร่วมมือร่วมใจในการอนุรักษ์ธรรมชาติถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ของปวงไทยเราอีกด้วย


