posttoday

รู้จักสถาบัน EU ยิ่งรู้ ยิ่งเข้าใจ

21 กรกฎาคม 2555

หลังจากที่เราได้นำเสนอเรื่องราวความเคลื่อนไหวในแง่มุมต่างๆ ของสหภาพยุโรปหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้

โดย...ทีมงานโลก 360 องศา

หลังจากที่เราได้นำเสนอเรื่องราวความเคลื่อนไหวในแง่มุมต่างๆ ของสหภาพยุโรปหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ก็มีผู้อ่านหลายท่านให้ความสนใจและเขียนจดหมายมาถึงเราว่า อยากจะรู้จักและเข้าใจโครงสร้างของอียูมากกว่านี้ ดังนั้น โลก 360 องศา ในครั้งนี้จึงขอนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ของอียูอย่างละเอียด ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะน้องๆ ที่เป็นนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังสนใจข้อมูลด้านนี้อยู่

สหภาพยุโรปนั้น เป็นองค์การระหว่างประเทศ ที่ประกอบด้วยรัฐสมาชิก 27 ประเทศ เริ่มก่อตั้งขึ้นภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อครั้งที่มีความพยายามจะหารูปแบบในการบูรณาการยุโรปเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงครามขึ้นอีก แนวความคิดนี้ได้รับการเสนอขึ้นเป็นครั้งแรกในสุนทรพจน์ของรัฐมนตรีต่างประเทศของฝรั่งเศส โรเบิร์ต ชูมาน (Robert Schuman) เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ซึ่งก็ถือ

รู้จักสถาบัน EU ยิ่งรู้ ยิ่งเข้าใจ

เป็นจุดเริ่มต้นของสหภาพยุโรป ในช่วงแรกนั้นจะเน้นความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าเป็นหลัก ก่อนจะมีการขยายความร่วมมือด้านอื่นๆ ในเวลาต่อมา จนกระทั่งทุกวันนี้สหภาพยุโรปกลายเป็นภูมิภาคที่มีความแข็งแกร่งและมีอิทธิพลอย่างสูงในเวทีโลก การรวมตัวของสหภาพยุโรปได้สร้างสรรค์เขตแดนแห่งสันติภาพความมั่นคง ความก้าวหน้า และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยตั้งมั่นอยู่บนการเคารพสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย แม้สหภาพยุโรปจะเป็นการรวมกลุ่มของรัฐหรือเป็นองค์การระหว่างประเทศ แต่โครงสร้างของสหภาพยุโรปนั้นมีลักษณะ “เหนือชาติ” (Supranational Trait) อย่างชัดเจน เพราะบรรดารัฐสมาชิกไม่เพียงแต่รวมตัวกันเท่านั้น แต่ยังร่วมสร้างสรรค์สถาบันหรือหน่วยงานภายใน ซึ่งมีอำนาจเหนือรัฐสมาชิกรัฐใดรัฐหนึ่งโดยเฉพาะ อันประกอบไปด้วย สภายุโรป คณะมนตรี คณะกรรมาธิการ และศาลยุติธรรม

สภายุโรป หรือ European Parliament มีหน้าที่หลักในการร่วมกันพิจารณาข้อกฎหมาย และให้การรับรองผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะกรรมาธิการยุโรป สมาชิกสภายุโรปจะได้รับเลือกตั้งโดยตรงทุกๆ 5 ปีจากแต่ละประเทศสมาชิก โดยมีการจัดกลุ่มภายในรัฐสภาแบบไม่ได้แบ่งตามสัญชาติ แต่จะแบ่งโดยทิศทางของพรรคการเมือง ถึงแม้ว่าสมาชิกแต่ละคนจะมาจากประเทศที่แตกต่างกัน ซึ่งสภายุโรปมีที่ทำการตั้งอยู่ใน 2 เมือง คือ สทราซบูร์ ประเทศฝรั่งเศส และกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ภารกิจหลักของสภายุโรปจะเป็นการร่วมตัดสินใจกับคณะมนตรีในประเด็นต่างๆ ได้แก่ การพิจารณาร่างกฎหมายของสหภาพซึ่งริเริ่มโดยคณะกรรมาธิการ การอนุมัติงบประมาณของสหภาพยุโรป ให้การรับรองความตกลงระหว่างประเทศของสหภาพยุโรปกับประเทศนอกกลุ่ม และที่สำคัญที่สุดคือการให้การรับรองผู้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมาธิการยุโรป ส่วนต่อมาคือคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป ซึ่งเรามักจะคุ้นชื่อกันอยู่บ่อยๆ เพราะมักจะแสดงบทบาท

รู้จักสถาบัน EU ยิ่งรู้ ยิ่งเข้าใจ

หลักในการชี้ขาดปัญหา หรือข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้น โดยการโหวตเพื่อหาเสียงข้างมากในกรณีที่มีความเห็นแตกต่างกันไป ซึ่งสมาชิกคณะมนตรีประกอบด้วยรัฐมนตรีหรือผู้แทนรัฐบาลจากทุกประเทศสมาชิก โดยในการประชุมแต่ละครั้งจะมีรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบเรื่องนั้นๆ เข้าร่วม แต่หากเป็นการประชุมตัดสินใจประเด็นสำคัญๆ ก็จะเป็นการประชุมในระดับประมุขของประเทศ โดยจะมีการประชุมสุดยอด 4 ครั้งต่อปี เพื่อกำหนดทิศทางนโยบายของสหภาพยุโรป ซึ่งแต่ละประเทศจะมีเสียงโหวตแตกต่างกันตามสัดส่วนจำนวนประชากร การตัดสินใจส่วนใหญ่ใช้แบบเสียงข้างมาก ในขณะที่ประเด็นสำคัญจะใช้ระบบการโหวตแบบเอกฉันท์ คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป ถือเป็นองค์กรหลักในด้านนิติบัญญัติและด้านการตัดสินใจชี้ขาดของสหภาพยุโรป โดยจะประสานงานกับรัฐสภาในการพิจารณาร่างกฎหมายดังได้กล่าวแล้ว และยังเป็นผู้รับผิดชอบด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงร่วมกัน รวมถึงภารกิจเกี่ยวกับการเปิดเสรีสินค้าและการบริการเงินทุน

เมื่อสหภาพยุโรปคือการรวมตัวกันของหลายๆ ประเทศสมาชิก เพราะฉะนั้นนโยบายหรือแนวทางต่างๆ ที่จะดำเนินไปก็ต้องให้เกิดประโยชน์โดยรวมเป็นหลัก ดังนั้นจึงต้องมีการจัดตั้งกรรมาธิการยุโรปขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนและปกป้องผลประโยชน์ของสหภาพยุโรป โดยจะต้องเป็นอิสระจากรัฐบาลของแต่ละชาติ คณะกรรมาธิการประกอบด้วยกรรมาธิการจากแต่ละประเทศสมาชิกแบ่งหน้าที่ตามความเชี่ยวชาญ โดยจะทำงานร่วมกับข้าราชการราว 2.4 หมื่นคน มีสำนักงานอยู่ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ประธานคณะกรรมาธิการจะได้รับการเลือกจากรัฐบาลของประเทศสมาชิก และจะต้องได้รับการรับรองจากสภา ส่วนกรรมาธิการคนอื่นๆ จะได้รับการแต่งตั้งจากรัฐสมาชิก และต้องได้รับการรับรองจากสภาเช่นกัน มีวาระคราวละ 5 ปี ภารกิจหลักของคณะกรรมาธิการคือการเสนอร่างกฎหมาย และดูแลการบริหารงบประมาณของสหภาพยุโรป โดยกรรมาธิการแต่ละคนจะมีหน้าที่รับผิดชอบคนละด้าน และแต่ละคนจะมีเจ้าหน้าที่และ

รู้จักสถาบัน EU ยิ่งรู้ ยิ่งเข้าใจ

องค์กรย่อยอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของตน เปรียบเสมือนหนึ่งรัฐมนตรีที่ต้องดูแลกระทรวงต่างๆ และหน่วยงานสุดท้ายที่เราอาจไม่คุ้นชื่อกันนัก นั่นก็คือศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรป ซึ่งทำหน้าที่หลักในการบังคับใช้กฎหมายและตีความเพื่อชี้ขาดในกรณีที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น โดยองค์คณะผู้พิพากษาประกอบด้วยผู้พิพากษาจากแต่ละประเทศสมาชิก มีสำนักงานตั้งอยู่ที่ประเทศลักเซมเบิร์ก โดยมีหน้าที่หลักคือการบังคับใช้และการตีความกฎหมายเพื่อพิจารณาและชี้ขาดว่ากฎหมายของสหภาพยุโรปได้รับการปรับใช้เหมือนกันในทุกประเทศสมาชิกหรือไม่ พลเมืองของสหภาพยุโรปสามารถยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลได้ หากสถาบันต่างๆ ของสหภาพยุโรปได้ ในกรณีที่มีการกระทำการผิดกฎหมาย

การทำความรู้จักและเข้าใจโครงสร้างขององค์กร จะช่วยเสริมสร้างให้กิจการระหว่างประเทศไทยและสหภาพยุโรปมีความราบรื่นและเกิดประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น อีกทั้งภาคเอกชนไทยที่ต้องการติดต่อหรือประสานงานกับหน่วยงานภายใต้สหภาพยุโรปก็จะสามารถทำได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ โดยมีคณะผู้แทนประเทศไทยประจำประชาคมยุโรปพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือและเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้ที่สนใจในทุกๆ ด้าน



 

 

ข่าวล่าสุด

SME D Bank จัด 'Culture Day' ขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กร "ประสานพลัง-พัฒนาเรียนรู้" สู่การเติบโต