ต้นไม้บังลม
โดย...ม.ล.จารุพันธ์ ทองแถม
โดย...ม.ล.จารุพันธ์ ทองแถม
ปัจจุบันสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของเกษตรกรและประชาชนทั่วไป ทั้งที่อยู่ในพื้นที่ป่าเขา เรือกสวนไร่นา หรือแม้แต่ในเมืองใหญ่ มีทั้งภัยจากแผ่นดินถล่ม น้ำท่วม ฝนแล้ง ไฟป่า แล้วก็เห็นจะต้องรวมวาตภัย หรือภัยจากลมพายุเข้าไปด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย
หลายวาระที่เราทำงานอยู่บนดอยสูงภาคเหนือของไทย เราได้เห็นว่าหลายดอยมีลมพายุรุนแรงกว่าพื้นที่ราบ บางครั้งติดตามมาด้วยพายุลูกเห็บ ซึ่งทำความเสียหายแก่สวนไม้ผลได้ไม่น้อย แม้แต่สวนลำไย สวนลิ้นจี่ที่ อ.ฝาง หรือ อ.สารภี และ อ.เชียงดาว ก็ได้รับความเสียหายแก่ผลผลิตได้มาก ด้วยเหตุนี้เราจึงควรพิจารณาหาทางใช้ต้นไม้บังลมให้เกิดประโยชน์ แต่ต้องรับความจริงว่า การปลูกต้นไม้เป็นแนวกันลม หรือเป็นไม้บังลมนี้ คนไทยเรายังไม่ให้ความสำคัญมากนัก และมีผลงานการศึกษาวิจัยไว้น้อยมาก ต่างกันกับต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย สหรัฐ ซึ่งให้ความสำคัญกับไม้บังลม เพราะบางแห่งหากขาดไม้บังลมเสียแล้ว ถึงกับสวนไม้ผลนั้นจะอยู่ไม่ได้เอาทีเดียว
ไม้ยืนต้นหรือต้นไม้ที่สมควรเลือกนำมาใช้ปลูกกันลมมีลักษณะอย่างไร? ข้อแรก คือ จะต้องเป็นต้นไม้ซึ่งไม่มีการผลัดใบ ต้นไม้ผลัดใบ เช่น หูกวาง ศรีตรัง ตาเบบูยา หางนกยูง เหล่านี้ไม่สมควรนำมาใช้ ต้นไม้ที่ไม่ผลัดใบและมีพุ่มหนาพอจะลดความเร็วหรือลดแรงปะทะของลมลงได้น่าจะพิจารณานำมาใช้ ยกตัวอย่างเช่น กระถินณรงค์ กระถินไต้หวัน สนทะเล ไทรย้อยใบทู่พันธุ์ต่างๆ ไทรย้อยใบแหลม สะเดาอินเดีย ขี้เหล็กบ้าน เป็นต้น ทรงพุ่มหนาทึบจะลดกระแสลมให้กระจายตัวออกไปไม่เกิดอันตรายแก่ไม้ผลหรือบ้านเรือนของเกษตรกร ในฮาวายเขาใช้ยูคาลิปตัสบางชนิด เช่น ยูคาลิปตัสถ้วยทอง (Eucalyptus Torellianna) เป็นไม้บังลมในสวนลิ้นจี่ นอกจากนั้นดอกของยูคาลิปตัสชนิดนี้ยังมีน้ำหวาน (Nectar) มาก เป็นที่ชื่นชอบของผึ้ง ซึ่งชาวสวนลิ้นจี่ปีหนึ่งจะทำรายได้จากน้ำผึ้ง ซึ่งแน่ละจะต้องมาจากดอกลิ้นจี่และยูคาลิปตัสถ้วยทองไม้บังลมให้ต้นลิ้นจี่นั่นเอง
ไม้ต้นซึ่งนิยมปลูกเป็นแถวเป็นแนวป้องกันลมพายุหรือใช้ขวางทิศทางลม และเราคุ้นตากันในภาคกลาง ได้แก่ สนปฏิพัทธ์ ไผ่ กระถินณรงค์ ข่อย กระถินเทพา มะขามเทศ สะเดาไทย ทิศทางที่จะปลูกเป็นแนวกันลมนี้ ควรตรวจดูให้แน่ใจว่าอยู่ในแนวขวางกับทิศทางที่ลมพัดผ่านเป็นประจำ
ประโยชน์ของไม้บังลมมีหลายประการ เช่น ช่วยให้พืชประธานของเรา เช่น ไม้ผลต่างๆ มีการเจริญเติบโตดีขึ้น ผลผลิตดีขึ้น เนื่องจากไม่ถูกกระแสลมพัดทำให้ทรงพุ่มโยก รากคลอน และความชื้นในดินคงอยู่ไม่สูญเสียไปเพราะถูกลมเป่า อุณหภูมิภายในสวนสม่ำเสมอ ข้อดีอีกประการได้แก่ แมลงช่วยผสมเกสร เช่น ผึ้ง มิ้ม จะทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ผลไม้ เช่น ลิ้นจี่ ลำไย มะม่วง อโวคาโด แมกคาเดเมีย ติดผลดีหากภาวะลมสงบนิ่ง
ประโยชน์อีกประการภายในสวนไม้ผลซึ่งปลูกไม้บังลมก็คือ คุณภาพผลโดยรวมจะดีขึ้น เนื่องจากลมไม่พัดทำให้ผลไม้แกว่งเสียดสีกัน ทำให้ผลไม่หลุดร่วง และคุณภาพของผลจะดีขึ้นหากปราศจากลมแรง ซึ่งมีผลกระทบทำให้ใบหลุดร่วง กิ่งฉีกขาดหรือผลแตกเสียหาย นอกจากนี้ประโยชน์ทางอ้อมอีกประการ คือ ทำให้การฉีดพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชทำได้โดยไม่สูญเสียละอองยาซึ่งอาจโดนลมพัด เช่นเดียวกับการฉีดพ่นปุ๋ยใบ ความเสียหายซึ่งบรรเทาเบาบางลงมากหากปลูกไม้กันลมก็คือ ความเสียหายกับต้นไม้ประธานในสวน ไม่ว่าจะเป็นลิ้นจี่ ลำไย ทุเรียน โดยลดความเสียหายจากต้นหักโค่น กิ่งฉีก ใบหลุดร่วงฉีกขาด นอกจากนี้ความเสียหายจากการกัดกร่อนของดินผิวหน้าจะลดลงมากหากปลูกไม้บังร่มหลายแถวในสวน
ในการปลูกไม้บังลม เช่น ไม้ยืนต้นต่างๆ นั้น ควรใช้ระยะปลูกที่เหมาะสม และให้ลมลอดผ่านไปได้ประมาณครึ่งส่วน มิใช่ปลูกติดกันจนกลายเป็นผนังหรือกำแพง เนื่องจากทำให้เกิดภาวะลมย้อนกลับหรือลมหวน ซึ่งกลับมาทำให้เกิดความเสียหายกับต้นไม้ที่ปลูกไว้ใกล้แนวกันลมดังกล่าว ในต่างประเทศอาจแนะนำให้ปลูกไม้บังลมเป็นแถวเดียว หรือปลูกเป็นหลายแถวก็ได้ โดยต้องยึดหลักให้ไม้บังลมช่วยลดความเร็วลมลงไปก็ครึ่งหนึ่ง และถ้ามีกระแสลมแรง อาจต้องปลูกไม้บังลมเป็นหลายๆ แนว ซึ่งช่วยบรรเทาความรุนแรงของกระแสลมลงได้มาก
ไม้บังลมที่มีคุณลักษณะดี ควรจะมีลำต้นชูสูงแต่แข็งแรง ระบบรากลึกมั่นคงไม่คลอนแคลนหรือโค่นล้มง่าย ทรงพุ่มต้นควรจะแคบ แต่มีใบแน่น แตกกิ่งก้านจากพื้นดินขึ้นไป โดยมีการเติบโตเร็ว ไม่ต้องการดูแลรักษามากนัก อายุยืน ศัตรูโรคแมลงน้อย ยกตัวอย่างไม้บังลมที่เหมาะสำหรับภาคกลาง ได้แก่ สนปฏิพัทธ์ สนทะเล ไทรย้อยใบแหลม ไทรย้อยใบทู่ ไทรใบยาว ไผ่รวก ไผ่เลื้อย ไผ่ลำมะลอก กระถินณรงค์ กระถินเทพา ฯลฯ


