‘เอ็งกอ’ ศิลป์บนใบหน้ากับคุณค่าทางวัฒนธรรม
เรื่อง / ไพรัช คุ้มเสม
ภาพ / อรุโณทัย
“
เอ็งกอ” เป็นศิลปะการแสดงของชาวจีนที่มาพร้อมกับชาวจีนอพยพที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ใน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ร่วม 100 ปี และได้อนุรักษ์ศิลปะนี้มาตลอดหลายช่วงอายุบรรพบุรุษปัจจุบัน
“เอ็งกอ” ได้กลายเป็นศิลปวัฒนธรรมของชาว อ.พนัสนิคม และได้ร่วมกันจัดตั้ง “เอ็งกอ” ขึ้นมาก็เพื่อความสามัคคีและการออกกำลังกายเป็นสำคัญต้นกำเนิดของเอ็งกอตามประวัติศาสตร์ของประเทศจีนกล่าวไว้ว่า ณ ที่เมืองหนึ่งของจีนมีพวกกบฏได้ทำการยึดเมืองและกระทำการไม่เหมาะสม จึงทำให้เหล่าขุนนาง เศรษฐี ประชาชน ไม่ว่าจะยากดีมีจนได้รวมพลังกันเพื่อที่จะต่อสู้และต้องการให้เมืองที่ตนอาศัยอยู่ได้กลับคืนมา จึงมีคนกลุ่มนี้ซึ่งรวมเอาบรรดาชนชั้นต่างๆ ร่วมแรงร่วมใจกันและมีความสามัคคีกัน ได้คิดหาวิธีการต่างๆ ที่จะเข้าเมืองโดยไม่ถูกพวกกบฏจับได้ และที่สำคัญคือต้องจำหน้าไม่ได้ คนกลุ่มนี้จึงคิดการแสดงขึ้นมาชุดหนึ่งให้มีความแตกต่างกันกับการแสดงที่เป็นชุด
“งิ้ว” และเรียกขานว่า “เอ็งกอ”การแต่งหน้านักแสดง ถ้าทุกท่านเห็นการแสดง
“เล่นงิ้ว” การแต่งหน้าจะคล้ายคลึงกัน แต่ถ้าใช้ชุดการแต่งหน้าของงิ้วมาแต่งจะแพง เนื่องจากแป้งพัฟฟ์บนใบหน้า สีที่ทาจะเป็นอย่างดี มีราคาแพง ดังนั้นเอ็งกอมักจะใช้แป้งทาหน้าที่มีการขายอยู่ที่เยาวราช นำมานวดให้เป็นเนื้อเดียวกันและผสมน้ำเพื่อทาบนใบหน้าของนักแสดง ส่วนสีสันเช่น สีแดง สีน้ำเงิน สีดำ สีเขียว จะขายเป็นหลอดใน 1 ชุด เหมือนกับสีที่ใช้กับการวาดเขียนของนักเรียนแต่จะเป็นสีที่แพง ช่างแต่งหน้าจะทำการวาดบนใบหน้า เช่น นักแสดงผู้ใดหน้าดุขึงขังก็มักจะวาดให้ดูน่าเกรงขาม แต่ถ้าผู้ใดมีใบหน้าหวานก็วาดหน้าให้อ่อนช้อยการแสดงจะใช้ผู้ถือธง (เปรียบเสมือนการให้สัญญาณในการรบ) โดยไม้ไผ่ทั้งลำและธงที่มีพื้นสีแดง ภาษาจีนอยู่กลางธงเป็นอักษรที่กล่าวถึงชาวเม่งจื้อ (เม่งจื้อ แปลว่า เทพเจ้า) และมียอดโคมไฟหรือที่เรียกว่า เต็งรั้ง ห้อยแขวนอยู่ที่ปลายยอดไม้ไผ่ มีนักแสดงที่เป็นผู้ถืองูคอยให้จังหวะในการแสดง และนักแสดงอื่นๆ ก็จะเต้นประกอบจังหวะกันไป
ผู้แสดงเอ็งกอในสมัยก่อนมักจะใช้ผู้ที่มีใจรักและมีอายุ 17 ปีขึ้นไป ไม่เกิน 35 ปี แต่ปัจจุบันหลังจากได้ฟื้นฟูเพื่อสืบสานตำนานเอ็งกอ จะมีผู้แสดงที่อายุต่ำสุดเคยทำการแสดงคือ 4 ขวบ จนถึงอายุไม่เกิน 25 ปี ทั้งนี้เพราะเพื่อต้องการให้เด็กๆ และเยาวชนได้รักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรมอันดีงามนี้ไว้ให้ยั่งยืนตลอดไป@@@


