ไอเดียดีไซน์จากวัสดุเหลือใช้
เรื่อง : วุฒิชัย สาสุข / ภาพ : กิจจา อภิชนรจเรข (1+7) TCDC (2+3+4+5+6+8)
อาจจะดูไร้ค่าในสายตาหลายๆ คน แต่ถ้ามันถูกนำมาต่อยอด ดัดแปลงเป็นผลงานสุดดีไซน์ เศษวัสดุเหลือใช้ก็โดดเด้งอย่างไม่น่าเชื่อ
เชือกกล้วย กาบกล้วย กะลามะพร้าว ใยมะพร้าว ฟางข้าว เปลือกไม้ ได้กลายเป็นของแต่งบ้านจากความคิดสร้างสรรค์ของเหล่านักออกแบบที่มองเห็นลู่ทางสำหรับการรีไซเคิล
ดร.ดารารัตน์ เมฆเกรียงไกร ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุแห่งศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (Thailand Creative & Design Center หรือ TCDC) มองว่า เศษวัสดุจากภาคเกษตรกรรมนั้นมีประโยชน์มหาศาล แต่คนกลับมองไม่เห็นค่า ขณะเดียวกัน ภาคอุตสาหกรรมก็ไม่ค่อยต่อยอดนำมาผลิตเป็นสินค้า ทั้งๆ ที่มันคือต้นทุนน่าสนใจ
“
บ้านเรายังถือว่าตื่นตัวน้อยมากเมื่อเทียบกับต่างประเทศที่ทำกันอย่างจริงจัง ไม่ใช่ว่าบ้านเราไม่มีนะคะ มีแต่ทำกันในรูปแบบผลิตภัณฑ์ครัวเรือนและเรื่องดีไซน์ก็ขาดความดึงดูด ซึ่งตรงนี้น่าจะได้รับการพัฒนาไปอีกขั้นเพื่อก้าวสู่ระดับธุรกิจขนาดใหญ่”นิทรรศการหมุนเวียน
“วัสดุบ้านบ้าน ล้านไอเดีย” (จัดแสดงจนถึงวันที่ 4 เม.ย. ณ โถงทางเข้า TCDC) จึงเกิดขึ้นภายใต้คอนเซปต์ที่อยากกระตุ้นต่อมความคิดสร้างสรรค์ ให้ผู้คนหยิบฉวยของเหลือใช้ใกล้ๆ ตัวมาสานฝันเป็นผลงานที่ทั้งกิ๊บเก๋และมากด้วยการใช้สอยเชือกกล้วยกาบกล้วย ที่เป็นส่วนหนึ่งของพืชสารพัดประโยชน์อย่างกล้วย สามารถทำให้เป็นเรื่องกล้วยๆ ได้ไม่ยาก หากรู้จักและเข้าใจคุณสมบัติพิเศษของมัน
ถักทอสาน เป็นเส้นใยแทนเส้นใยจากธรรมชาติชนิดอื่น ร้อยรัดกันจนได้กระเป๋าแฟชั่น ผ้าคลุมไหล่ หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์แต่งบ้าน
ไม่บอกคุณก็คงไม่รู้แน่ๆ ว่า เชือกกล้วยที่เห็นนั้นทำมาจากใบตองฉีกแห้ง แถมมีจุดเด่นที่ต้านแบคทีเรียได้เอง ส่วนกาบกล้วยด้วยมีความเหนียวในตัว จึงถูกคนหัวใสเอามาใช้ในวงการรถยนต์ อัดกาวเป็นแผ่นวีเนียร์บางๆ เพื่อกันความร้อน
“
เมืองไทยได้เปรียบมาก เพราะเป็นเมืองเกษตร เศษวัสดุเหล่านี้มีอยู่เยอะแยะ เพียงแต่คนไม่รู้ว่าจะหยิบมันมาทำอะไรดี ซึ่งดิฉันคิดว่าตรงนั้นน่ะสำคัญ บางทีต้องดูด้วยว่าถ้าทำแล้วคุ้มค่าขนาดไหน และสามารถพัฒนาต่อไปไกลได้หรือเปล่า”กะลามะพร้าวใยมะพร้าว อีกย่างก้าวของการนำเศษวัสดุจากมะพร้าวมาดัดแปลงเป็นของใช้ กะลามะพร้าวอาจไม่ได้เป็นแค่กระบวยตักน้ำ แก้วน้ำ แจกัน พวงกุญแจ แต่มันสร้างสีสันให้แก่พื้นหรือผนังได้ด้วย ในฐานะโมเสก ลวดลายธรรมชาติที่ปรากฏสะท้อนถึงพลังอันเข้มขลังของมันอย่างดี
ขณะที่ใยมะพร้าวฝอยๆ ก็พร้อมเนรมิตให้บ้านเย็นได้ จากสมบัติพิเศษของการเป็นฉนวนกันความร้อนและช่วยระบายความร้อนนั่นเอง
“
ในต่างประเทศกำลังนิยมกันมากเลยค่ะ บ้านที่ใช้ใยมะพร้าวมาเป็นตัวช่วยกันความร้อน โดยเขาจะครอบไว้บนสันหลังคา อากาศในบ้านจะถูกระบายออกได้ดี แล้วมันก็มีความทนทานต่อทุกสภาพอากาศด้วย”ฟางข้าวจากท้องทุ่งจะเป็นอะไรไปไม่ได้มากกว่าอาหารสัตว์ หรือไม่ก็ปุ๋ยหมักและวัสดุคลุมดิน แต่เพราะไอเดียเจ๋งๆ ของนักออกแบบที่จับมันมาทำเป็นบรรจุภัณฑ์ด้วยวิธีอัดแน่น ผลลัพธ์ที่ได้คือเราก็มี ชาม จาน ถ้วย ถาด สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน และที่น่าชื่นชม มันสามารถย่อยสลายได้เอง โดยไม่ทิ้งภาระขยะรกโลกต่อสิ่งแวดล้อม
ไม่หมดแค่นั้น ฟางข้าวยังนำมาอัดแผ่น ใช้ปูพื้น หรือติดผนัง ปูโต๊ะและเครื่องเรือนแทนไม้ก็ได้ แข็งแรงไม่ด้อยกว่าไม้ แถมความสวยงามเท่ๆ ก็ไม่เป็นรอง เพราะเป็นลวดลายที่ธรรมชาติมอบให้ ไม่ได้เติมแต่งแต่อย่างใด
เปลือกไม้เศษไม้ อุตสาหกรรมไม้รุดหน้าก็จริง แต่อย่าลืมว่าต้องโค่นต้นไม้ไม่รู้เท่าไหร่ กว่าที่จะแปรรูปมาเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ เปลือกไม้และเศษไม้จึงไม่ควรทิ้งไปอย่างไร้ค่า การ์ดเชิญที่มีเมล็ดพืชโปรยปรายอยู่ ม่านที่ทอจากเส้นด้ายกระดาษ รวมทั้งผนังโค้งสำเร็จรูป ล้วนแต่เป็นผลผลิตจากเปลือกไม้และเศษไม้ อินเทรนด์ได้จากไอเดียจี๊ดๆ
ดิน หูไม่ฝาดหรอก ดิน...นี่แหละ อาจจะไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ใช่ไหมว่าดินมาเกี่ยวอะไรกับวัสดุบ้านๆ ... จากผืนดินสู่สีทาบ้าน ไอเดียนี้บรรเจิดจนสร้างความอัศจรรย์แก่ผู้รู้ข่าว เมื่อดินเหนียวที่มีผงสีเป็นเอกลักษณ์ ผสมกับน้ำ หินอ่อน และเรซินจากถั่วเหลือง สุดท้ายมันจะกลายเป็นสีทาบ้าน ปลอดสารระเหย ทนรังสียูวี กันน้ำ
“
ถ้าเราผลิตสีทาบ้านที่ไม่มีส่วนผสมเคมีได้ มันก็จะก่อประโยชน์แก่ผู้อยู่อาศัยบ้านโดยตรง เมื่อเทียบกับสีสังเคราะห์ย่อมจะมีความปลอดภัยที่จะใช้ชีวิตสูง”

