ซุป’ตาร์บ้านฉัน ผิวแทน ไทย แท้ ดีครบเครื่อง

โดย...จตุรภัทร หาญจริง

ถ้าต้องประกาศก้องให้โลกรู้ว่า ซุป’ตาร์ไทย ก็มีดีไม่แพ้ซุป’ตาร์ชาติใดในโลก นอกจาก “ความคมขำ” ทั้งรูปร่างหน้าตาและสีผิวแล้ว ฝีไม้ลายมือทางการร้อง การแสดง และเสน่ห์เฉพาะตัว ก็น่าจะเป็นอีกคำตอบหนึ่งที่ยืนยันได้ว่า เวลาเราเห็นบุคคลคมขำเหล่านี้ทางหน้าจอทีวี มันทำให้เรายืดอกอย่างภาคภูมิใจได้ว่า

นี่แหละ...ซุป’ตาร์บ้านฉัน

นี่แหละ...ซุป’ตาร์ แทน ไทย แท้ และมีดีครบเครื่อง

หนุ่มเข้มเต็มร้อย...ดาร์ก ทอล แอนด์ แฮนด์ซัม

หากพูดถึงซุป’ตาร์ที่คมเข้มแบบไทยแท้ ชื่อแรกที่นึกถึงคงไม่พ้น ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ หนุ่มเมืองเพชร ที่จบการศึกษาด้านวิศวกรรมโยธา จากมหาวิทยาลัยรังสิต และจบปริญญาโท ด้านการจัดการ จากประเทศอังกฤษ แต่ป๋อมีความสามารถรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการร้องเพลง การแสดง ถ่ายโฆษณา เป็นพระเอกมิวสิกวิดีโอ พิธีกรทั้งงานไทยและงานระดับอินเตอร์ (รวมทั้งเป็นสามีที่ดีของศรีภรรยา เอ๋-พรทิพย์) ทำให้ป๋อเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการแสดง โดยมีผลงานละครเรื่องแรกในปี พ.ศ. 2544 “เก็บแผ่นดิน” หลังจากนั้นได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงของช่อง 7 สี และชีวิตก็ได้พลิกผันอีกครั้ง เมื่อป๋อตัดสินใจเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงของช่อง 3 เมื่อปี 2553 โดยมีผลงาน 3 เรื่อง คือ คู่เดือด คู่กับเบนซ์พรชิตา วนาลี คู่กับมิวลักษณ์นารา และรักประกาศิต คู่กับแอฟทักษอร เร็วๆ นี้กำลังจะมีละครเรื่องใหม่ เรื่องหงส์สะบัดลาย คู่กับเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ

 

มาที่หนุ่มมากเข้ม วี-วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ พระเอกคาสโนวาหมายเลข 1 ของวงการบันเทิงกันบ้าง จากจุดเริ่มต้น วีเข้าสู่วงการด้วยการเป็นพระเอกมิวสิกวิดีโอ จากนั้นเป็นพิธีกรรายการ “คู่หูชะชะช่า” และได้ครองตำแหน่ง “โดมอนแมนปี 1999” จากนั้นไม่นาน วีก็ได้รับการติดต่อจาก อรวรรณ สังวริบุตร ให้ไปลองเทสต์หน้ากล้องและได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 7 สี ซึ่งทำให้มีโอกาสได้ไปเรียนการแสดงกับ ครูช่าง ชลประคัลภ์ และได้แสดงละครเรื่องแรก “กว่าจะรู้เดียงสา” คู่กับจิ๊บ คีตภัทร ปัจจุบัน นอกจากจะมีละครเรื่องขุนเดชที่กำลังออนแอร์อย่างเข้มข้น วีก็กำลังถ่ายทำละครเรื่องพริกกับเกลือคู่กับแพนเค้ก เขมนิจ (หลังจากที่เคยเล่นคู่กันมาแล้วในเรื่องบ่วงหงส์ และตะวันยอแสง)

มีขุนเดชแล้วก็ต้องมีหมวดยงยุทธ กับหนุ่มเข้ม หล่อ สูง โครงสร้างชายไทย ที่ความสามารถของเขาก็มีมากมายไม่แพ้ใคร ไม่ว่าจะร้อง เล่น หรือเต้น เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ ทำได้หมด เวียร์เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการไปเตะตา เอ ศุภชัย ผู้จัดการดาราคนดัง ที่บังเอิญไปเห็นรูปถ่ายในโทรศัพท์มือถือของคนรู้จัก จึงนั่งเครื่องบินมาถึงมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อชักชวนเวียร์เข้าสู่วงการ ซึ่งตอนนั้นเวียร์กำลังเรียนอยู่ปี 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ และพ่อแม่ก็อนุญาตให้เวียร์เข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว โดยในปี 2549 เวียร์ได้เล่นละครเรื่องแรก พลิกดินสู่ดาว คู่กับแพนเค้ก เขมนิจ (ทั้งคู่ปิ๊งปั๊งกันก็มาจากละครเรื่องนี้) ปัจจุบัน นอกจากละครเรื่องขุนเดช ที่เล่นคู่กับจั๊กจั่น อคัมย์สิริ เวียร์ยังมีละครที่จ่อคิวรออีกสองเรื่อง คือเรื่องปิ่นอนงค์ คู่กับมิน พีชญา (กำลังถ่ายทำอยู่) และนักสู้มหากาฬ คู่กับแตงโม ภัทรธิดา (กำลังรอเปิดกล้อง) คาดว่าปีนี้จะเป็นปีทองของเวียร์ (อีกปี) ละครแน่น ผลงานโดน แถมหุ่นกำลังเข้าที่เข้าทางไม่แพ้ใคร

 

ด้วยความเป็นหนุ่มเลือดสุพรรณ กันนภัทร อินทร์ใจเอื้อ จึงมีเลือดศิลปินเต็มตัว แต่กว่าจะได้เป็นแชมป์เดอะสตาร์คนที่ 6 ของเมืองไทย เส้นทางเดินของเขาไม่ธรรมดาเลยแม้แต่นิด กันฝึกร้องเพลงตั้งแต่อายุ 7 ขวบ โดยมีพ่อเป็นผู้ฝึกสอนให้ พออายุ 9 ขวบ ก็คว้ารางวัลนักร้องยุวชนดีเด่นแห่งประเทศไทย (ประเภทเพลงไทยลูกทุ่ง) จากรายการ KPN Junior Award ประจำปี พ.ศ. 2543 ในระหว่างเรียนอยู่ที่สวนกุหลาบวิทยาลัย กันได้รับรางวัลดีเด่นมากมาย แต่ที่เป็นความภาคภูมิใจของกันและครอบครัวมากที่สุด คือได้รับรางวัลนักเรียนพระราชทาน โดยได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงศึกษาธิการ และได้เข้ารับพระราชทานรางวัลจากพระหัตถ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รวมถึงรางวัลที่ 1 ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประเภทบรรเลงขับร้อง (วงมโหรี) ในการประกวดดนตรีไทย “ประลองเพลงประเลงมโหรี” จากวงขวัญข้าว ปัจจุบันกันเป็นศิลปินที่มีแฟนคลับที่รักและศรัทธาในความสามารถ ไม่แพ้ความคมขำ จนต้องพิมพ์ชื่อ “กัน” ไว้ในใจอยู่ตลอดเวลา ให้สมกับเพลงใหม่ล่าสุดของเขา “พิมพ์ไว้ในใจ” ที่เขามีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อร้องเพลงนี้ด้วย (ฮิ้วววววว)

วงการบันเทิงบ้านเรายังมีซุป’ตาร์หล่อเข้มเต็มร้อยอีกมากมาย ไม่ว่าจะ ป้อง ณวัฒน์ ตุ้ย เกียรติกมล ริ ภูริ ซี ศิวัฒน์ อ๊อฟ ชนะพล ณัติ อาณัติ แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ เกรท วรินทร เต้ ปิติศักดิ์ หรือ หนุ่ม อรรถพร ซึ่งแต่ละคนก็หล่อ เข้ม มีสไตล์ที่โดดเด้ง มีผลงานที่เข้าตา และมีเสน่ห์ในวิถีทางการทำงานในวงการบันเทิงของตนอย่างหาตัวจับได้ยาก

สาวผิวสี...สวยคม...ไม่แพ้ใคร

หากนัมเบอร์วันของสาวผิวสี ที่คมขำ พิงกี้-สาวิกา ไชยเดช คงเป็นชื่อแรกที่ใครๆ ต่างก็ต้องพูดถึง หากไม่นับข่าวคาวที่สะเทือนวงการจนตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งอยู่หลายเพลา เราต้องยอมรับว่าพิงกี้ยืนหยัดอยู่ในวงการบันเทิงได้ยาวนานเหลือเกิน เพราะเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ซึ่งละครที่ทำให้พิงกี้เป็นที่รู้จักคือ “ดาวพระศุกร์” โดยรับบทเป็นดาวพระศุกร์ตอนเด็ก หลังจากตกเป็นข่าวคาวทำนองเป็นชู้กับแฟนชาวบ้าน พิงกี้ก็ได้รับโอกาสดีๆ จากเฮียฮ้อ ณ อาร์เอสให้มารับบทบาทสำคัญ นั่นคือบท ทองดี จากละครเรื่องทองประกายแสด กำกับโดยสาวผิวสีฝีมือดีอีกหนึ่งคนของวงการบันเทิง ชุ ชุดาภา ซึ่งละครเรื่องนี้ได้รับการกล่าวขวัญในวงกว้างว่าเป็นละครช่องเคเบิล ที่คุณภาพเทียบเท่าหรือไม่แพ้ละครช่องฟรีทีวีเลย เร็วๆ นี้พิงกี้กำลังจะมีละครเรื่องใหม่ ที่กล้าบอกได้แลยว่าจะต้องแซบจนเก้งกวางบ่างชะนีไม่หนีจากหน้าจอไปไหน กับละครเรื่องมารยาริษยา ที่รับบทเป็น ดีนี่ ประกบคู่กับ เพียงดาว บี น้ำทิพย์

จากดากานดา เพื่อนสนิท มาจนถึงอีแพง ในละครเรื่องบ่วง เราต้องยอมรับว่า นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา เดินทางมาด้วยความสวยคมตามแบบฉบับหญิงไทย แต่นั่นหาใช่ประเด็น ความสามารถทางด้านการแสดงต่างหากที่ทำให้นุ่นสามารถยืนอยู่ตรงจุดที่คนยอมรับและกล่าวถึง ยิ่งน่าทึ่งเข้าไปใหญ่ เมื่อเธอเป็นนักแสดงหญิงที่จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเคยผ่านการประกวดจากเวทีดัชชี่บอย แอนด์ เกิร์ล ปี 2004 จนคว้ารางวัลผู้ชนะเลิศฝ่ายหญิง (ทั้งๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจสมัคร แต่เพื่อนยุ) แต่ไม่ว่าจะอย่างไร วันนี้นุ่นก็ยืนหยัดอยู่ในวงการบันเทิงได้อย่างน่าชื่นชม

ถ้าจะไม่ให้พูดถึงคอมเมนเตเตอร์หญิงเดียวของเวทีไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ที่นอกจากจะฝีปากกล้า (มากขึ้น) ใครๆ ก็รู้ว่าเธอคนนี้สวยคมขำตามแบบฉบับเชื้อสายชาวใต้ ใช่แล้ว เธอคือ เบนซ์-พรชิตา ณ สงขลา หากพูดถึงเส้นทางในวงการบันเทิง ต้องยอมรับว่าเธอเข้าวงการมาตั้งแต่อายุยังน้อย และเริ่มต้นเส้นทางการแสดงจากละครจักรๆ วงศ์ๆ เรื่องบัวแก้วบัวทอง ทางช่อง 7 สี ในปี 2536 (เป็นนางเอกที่มีอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น) แต่ที่ทำให้เบนซ์แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการ ก็มาจากละครสามเรื่องสามรส ในบท อรอินทร์ จากละครเรื่องเมียหลวง ปลิวลม จากละครเรื่องสะใภ้ไร้ศักดินา และปรุงฉัตร จากละครเรื่องเมียแต่ง ปัจจุบันเบนซ์รับบทนางร้าย ในบท ดวงแข จากละครเรื่องขุนศึก ซึ่งกำลังเข้มข้นอยู่ในขณะนี้

 

นับตังแต่เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นนักแสดงนำที่รับบทบาทสำคัญ นั่นคือ พระสุพรรณกัลยา จากละครเรื่องกษัตริยา ในปี 2546 ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเปิดเส้นทางการเป็นแสดงของ จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา ได้อย่างสวยสดงดงาม ตามแรงผลักดันของค่ายกันตนา ต้นสังกัดเดิม ซึ่งปัจจุบันจุ๋ยก็ได้แยกจากมาทำงานอิสระเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจุ๋ยได้ประเดิมละครเรื่องแรก คือเรื่องบ่วงวันวาร คู่กับโตโน่ ภาคิน สังกัดเอ็กแซ็กท์

ใครว่าสวยคำขำมีแค่นี้ เปล๊า... ยังมี หน่อย บุษกร คุณแม่ลูกสอง ศรีภรรยาหล่อทะลุแป้ง เคน ธีรเดช ที่ตอนนี้เป็นผู้จัดละครรักคุณเท่าฟ้า โอปอล์-ปาณิสรา สาวซ่าสะบึมอารมณ์ของวงการบันเทิงที่แจ้งเกิดด้วยความคมและขำ กาละแมร์ พัชรศรี ก็ใช่ย่อย เพราะจุดขายของเธอคือความฮาและดำที่ดูดี แก้ม วิชญาณี ก็แจ้งเกิดด้วยความสามารถที่พกพามาด้วยความอ้วนดำ แต่ท้ายที่สุดมันก็เป็นส่วนผสมที่ลงตัว จนทำให้แก้มเป็นดีวารุ่นเล็กที่ฝีมือการร้องเพลงไม่มีคำว่าเบเบ ปุ๊กลุ๊ก ฝนทิพย์ ก็คว้ามงกุฎมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สมาได้ด้วยความสวยคมขำ ที่ตอนนี้กำลังกลายเป็นเทรนด์ของสาวไทย

ไม่ว่าจะอย่างไร จะแทน จะดำ หรือจะขาว ก็ไม่สำคัญเท่าความสามารถ ความมุ่งมั่นพยายาม และเสน่ห์เฉพาะตัว ซึ่งนำทางไปสู่การเป็นซุป’ตาร์ของแท้ และยั่งยืน... นะจ๊ะ