posttoday

เฟรนช์ โอเพน แชมป์หน้าเก่าหรือใหม่

27 พฤษภาคม 2555

ในเวทีเทนนิสแกรนด์สแลมรอบหลายปีที่ผ่านมา‌นั้น แชมป์ชายเดี่ยวมักหนีไม่พ้นมือท็อป 3 โลก

โดย...เด็กสวนฯ

ในเวทีเทนนิสแกรนด์สแลมรอบหลายปีที่ผ่านมา‌นั้น แชมป์ชายเดี่ยวมักหนีไม่พ้นมือท็อป 3 โลก คือ ‌โนวัก โจโควิช(มือ 1 โลก/เซอร์เบีย)ราฟาเอล ‌นาดาล(2/สเปน) และโรเจอร์ เฟเดอเรอร์(3/สวิส) ที่ได้ผลัดกันชื่นชมโทรฟีแชมป์

บางแกรนด์สแลมอาจจะมีบางคนสามารถ‌สอดแทรกเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศบ้าง อย่างเช่น ‌แอนดี เมอร์เรย์(4/สกอตแลนด์) แต่ก็ทำได้แค่เข้า‌ชิงฯ เท่านั้น เพราะแม้นักหวดหนุ่มจากแดนวิสกี้‌จะสามารถปราบหนึ่งในท็อป 3 ได้ แต่พอมาเจอ‌กับอีก 2 คนที่เหลือก็ไปไม่เป็นและแพ้ทุกที

สำหรับศึกแกรนด์สแลมที่ 2 ของฤดูกาล“เฟรนช์ โอเพน”ซึ่งเล่นบนเคลย์คอร์ต และจะ‌แข่งขันกันวันที่ 28 พ.ค.-10 มิ.ย. ก็เช่นกัน ยากที่‌ใครจะมาเบียดแย่งแชมป์จาก นาดาล,โจโควิช ‌หรือ เฟเดอเรอร์ ไปได้แน่ และ 3 คนนี้ใครจะได้‌ชูโทรฟีนั้น มันขึ้นอยู่กับใครจะท็อปฟอร์มกว่ากัน ‌ใครเสิร์ฟดีกว่ากัน ใครยิงวินเนอร์ได้มากกว่ากัน ‌และใครตีเสียเองมากกว่ากัน ซึ่งแน่นอนไม่มีใคร‌อยู่ยงคงกระพันรักษาฟอร์มสุดยอดไว้ได้ตลอดแน่

โนเล เล็งสร้างประวัติศาสตร์กวาด 4 สแลมติด

สำหรับ“โนเล”โจโควิช นั้น คงไม่ต้องสงสัย‌ว่าเขาเล่นได้ดีแค่ไหนในคอร์ตทุกประเภท เพราะ‌แม้แต่คอร์ตดินก็สามารถสยบ นาดาล ลงได้เมื่อปีที่แล้ว

เฟรนช์ โอเพน แชมป์หน้าเก่าหรือใหม่

เป้าหมายของหนุ่มเซิร์บวัย 25 ปี ในศึกเฟรนช์ฯ ครั้งนี้ แน่นอนเขาต้องการคว้าแชมป์‌มาครองให้ได้ เพื่อกวาดมาได้ครบทั้ง 4 แกรนด์‌สแลมซะที หลังกวาดแกรนด์สแลมมาได้ 5 สมัย ‌(ออสเตรเลียน 3/วิมเบิลดัน 1/ยูเอส โอเพน 1) ‌และจะได้มีโทรฟีแกรนด์สแลมครบทุกประเภท‌เทียบเท่า นาดาล และ เฟเดอเรอร์ ซะที

ที่สำคัญ หาก โจโควิช ทำสำเร็จ เขาจะเป็น‌คนแรกในรอบ 43 ปีที่กวาด 4 แกรนด์สแลมติดต่อกัน หลังเพิ่งคว้าแชมป์วิมเบิลดัน 2011,ยูเอส ‌โอเพน 2011 และออสเตรเลียน 2012 โดยก่อน‌หน้านี้มีเพียง 2 คนเท่านั้นที่ทำได้ คือ ดอน บัดจ์ ‌เมื่อปี 1938 และ รอด เลเวอร์ ทำถึง 2 หนในปี ‌1962 และ 1969

“นาดาล เป็นตัวเต็งเสมอในเฟรนช์ โอเพน ‌เพราะเขาถนัดกับการเล่นบนคอร์ตดิน เขาคือคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวที่สุด และก็มีโอกาสคว้าแชมป์มากที่สุด ‌ณ โรลองด์ การ์รอส แต่ผมก็มีความมั่นใจไม่น้อย‌เช่นกัน และการเพิ่งพ่ายแพ้ นาดาล ล่าสุด (โรม ‌มาสเตอร์ส) จริงๆ มันก็เป็นเกมที่สูสีนะ แต่ผมไป‌อารมณ์เสียกับเซตแรกมากเกินไปหน่อย (โดนขาน‌แต้มผิด) จนตีเสียเองเยอะมาก”โจโควิช วัย 25 ‌กล่าว พร้อมเสริมอีกว่า นาดาล ยังเป็นคนที่เล่น5 เซต (ในศึกแกรนด์สแลม) ได้ดีมากด้วย

นอกจากนี้ โนเล ยังยอมรับว่ามันเป็นสิ่งท้าทายมาก เพราะเขาไม่เคยเข้าถึงรอบชิงชนะ‌เลิศเลยด้วยซ้ำไป โดยทำได้แค่ไปพ่ายรอบตัดเชือก ‌3 ครั้ง (2007,2008,2011)

รอบแรก–โจโควิช (มือวาง 1) พบกับปอติโต สตาเรซ (อิตาลี)

ราฟา หวังคว้าสมัย 7 ทุบสถิติ บอร์ก

หากไปถามแฟนๆ เทนนิสว่าใครจะเป็นแชมป์‌ชายเดี่ยวศึกเฟรนช์ฯ ปีนี้ เชื่อว่าหากไม่เอนเอียงมี‌ใครเชียร์อยู่ในดวงใจแล้ว ส่วนใหญ่คงต้องตอบว่า ‌“ราฟา”นาดาล เพราะหนุ่มจากแดนกระทิง คือ ‌“ราชาคอร์ตดิน”ยุคปัจจุบัน กวาดชัยชนะบนเคลย์‌คอร์ตมามากมาย โดยเฉพาะแค่ เฟรนช์ โอเพน ก็‌ฟาดไปถึง 6 สมัยแล้ว (2005-2008,2010-2011) ‌ซึ่งเท่ากับ บียอร์น บอร์ก ตำนานนักหวดชาวสวีดิช ‌และมีโอกาสสูงที่จะมาป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ ‌พร้อมกับทำลายสถิติของ บอร์ก ซะด้วย

“ในใจผมมีมากกว่าสิ่งที่ผมเคยฝันไว้ซะอีก ผม‌มาที่นี่ (เฟรนช์ โอเพน) พร้อมกับแรงจูงใจที่จะต้อง‌เล่นให้ดีที่สุด และก็เชื่อว่าจะสามารถคว้าแชมป์‌สมัยที่ 7 ได้ อย่างไรก็ตาม แรงจูงใจนั้นมีอยู่เสมอๆ ‌แต่บางครั้งก็ชนะ บางครั้งต้องพ่ายแพ้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของกีฬา”ยอดนักหวดกล้ามโตจากเกาะ‌มายอร์กา กล่าว

ปีที่แล้วถือว่าเป็นปีที่ นาดาล คงเซ็งไม่น้อย ‌เพราะหลังจากคว้าแชมป์เฟรนช์ฯ 2011 ก็ไม่มีโทรฟีอะไรติดมืออีกเลย แถมตลอดทั้งปีที่ผ่านมา‌เข้าชิงกับ โจโควิช 7 ครั้ง ยังพ่ายเรียบในคอร์ตทุกประเภทอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม นาดาล แชมป์แกรนด์สแลม10 สมัย มีสถิติสุดยอดในศึกเฟรนช์ฯ ชนะ-แพ้45-1 โดยความปราชัยครั้งเดียวนั้นเป็นการพ่ายให้แก่ โรบิน โซเดอร์ลิง (สวีเดน) รอบรองชนะเลิศ ‌ปี 2009 ก่อนที่นักหวดจากแดนไวกิ้งจะไปพ่าย ‌เฟเดอเรอร์ ในรอบชิงฯ หากไม่พลาดในปีนั้นนาดาล อาจคว้าแชมป์ 7 สมัยรวด ทุบสถิติ บอร์ก ‌ไปแล้วก็เป็นได้

ส่วนสถิติบนคอร์ตดินปีนี้ก็แจ่มเช่นกัน ชนะ-‌แพ้ 16-1 โดยเฉพาะชัยชนะล่าสุดเหนือ โจโควิช ‌7-5,6-3 ใน“โรม มาสเตอร์ส”มันดูง่ายดายเกิน‌คาด ซึ่งทำให้เขาคว้าแชมป์รายการที่ 2 ปีนี้ต่อจาก ‌“มอนติ คาร์โล มาสเตอร์ส”ซึ่งก็ชนะ โจโควิชเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังมีข่าวดีของอดีตมือ 1 โลกชาว‌สเปนอีกด้วย โดยเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมาพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง“มาดามทุสโซ”ที่กรุงลอนดอน ‌ประเทศอังกฤษ ได้ทำการเปิดตัวหุ่นขี้ผึ้งของ นาดาล ‌ในชุดเสื้อสีเขียวที่เคยใส่ให้เห็นบ่อยๆ และกำลัง

อยู่ในท่าตีแบ็กแฮนด์สไลด์ โดยใช้เวลา

เฟรนช์ โอเพน แชมป์หน้าเก่าหรือใหม่

ปั้นถึง 4 ‌เดือน โดยช่าง 20 คน ซึ่งนับเป็นเกียรติแก่ตัวเขา‌เป็นอย่างยิ่ง

รอบแรก–นาดาล (มือวาง 2) พบกับซิโมเน โบเลลลี (อิตาลี)

เฟด เชื่อยังมีดีพอขอไล่ล่าสแลมเพิ่ม

 สำหรับ“เฟดเอ็กซ์”เฟเดอเรอร์ นั้น ถือว่า‌เป็นนักเทนนิสที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุค‌ปัจจุบัน โดยเป็นแชมป์แกรนด์สแลมสูงสุดถึง 16 ‌สมัย และได้มาครบหมดแล้วทั้ง 4 ประเภท แต่‌เชื่อเหอะ ยังไงก็ยังอยากได้สมัยที่ 17,18,19...อยู่‌ร่ำไป

แม้จะอายุ 31 ปีแล้ว แถมประสบความสำเร็จ‌ในศึกเฟรนช์ฯ โดยคว้าแชมป์ครั้งแรกและหน‌เดียวเมื่อปี 2009 แต่หากจะทำได้เป็นครั้งที่ 2 ‌เฟเดอเรอร์ ก็คงยากที่จะปฏิเสธเป็นแน่

“ผมกำลังจะเจอกับช่วงเวลาอันน่าตื่นเต้น ผม‌คว้าแชมป์มาแล้วมากมาย และกำลังอยู่ในฟอร์ม‌การเล่นที่ดีทีเดียว และตัวผมเองก็เชื่อมั่นว่ามีดีพอ‌ที่จะคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้อีกหลายรายการ ‌อย่างไรก็ตาม ผมรู้ดีว่าการคว้าแชมป์เฟรนช์โอเพน มันยากแค่ไหน ซึ่งแน่นอนตัวเต็งย่อมเป็น ‌โนวัก ที่กำลังล่าแชมป์แกรนด์สแลมรายการที่ 4 ‌ติดต่อกัน และ ราฟา แชมป์ปีที่แล้วและแชมป์ 6 ‌สมัย”เฟเดอเรอร์ กล่าว

นอกจากนี้ เฟด ที่เคยเข้าชิงศึกเฟรนช์ฯ กับ ‌นาดาล 4 ครั้งแล้วแพ้เรียบ ยังบอกอีกว่า เขาเคย‌เล่นกับ นาดาล มาหลายครั้ง และก็ได้เห็นนักหวด‌สเปนทำสิ่งที่เหลือเชื่อบนคอร์ตเป็นประจำ โดย‌เฉพาะที่ โรลองด์ การ์รอส

รอบแรก–เฟเดอเรอร์ (มือวาง 3) พบกับ ‌โทเบียส แคมเก (เยอรมนี)

เมอร์เรย์ ฝีมือดีมีปัญหาที่ใจ

ฝีมือการเล่นของ เมอร์เรย์ นั้น หลายคนต่าง‌ก็เป็นที่ประจักษ์ว่า สามารถเอาชนะมือท็อป 3 ได้‌หมด ทั้ง โจโควิช,นาดาล และ เฟเดอเรอร์ และ‌ก็เคยทำให้เห็นมาหลายครั้งแล้ว

แต่ที่สำคัญ นักหวดจากแดนน้ำเมาไม่สามารถ‌ทำได้อย่างต่อเนื่อง นั่นคือเมื่อเอาชนะคนใดคน‌หนึ่งในท็อป 3 ได้ แล้วแมตช์ถัดไปต้องเจอกับอีก‌คนที่อยู่ใน 3 อันดับแรกของโลกเช่นกัน เมอร์เรย์ ‌ก็มักจะไปไม่เป็นเอาซะเลย โดยพลาดแต้มสำคัญที่ควรจะได้อยู่เสมอ และเล่นเหมือนคนมีอะไรคาใจ (หรือใจมดก็ไม่รู้ได้)

เมอร์เรย์ อาจมัวแต่คิดอยู่ว่าเพื่อนรุ่นเดียววัย‌เดียวกันอย่าง นาดาล กับ โจโควิช นั้น กวาดกัน‌ไปคนละหลายแกรนด์สแลมแล้ว ทำไมตัวเองถึง‌ยังทำไม่ได้เสียที

สงสัยมัวแต่คิดอยู่แบบนั้น ผลงานในศึก‌แกรนด์สแลมถึงทำได้แค่เข้าชิงฯ 3 ครั้ง (ออสเตร‌เลียน 2/ยูเอส โอเพน 1) และเข้าตัดเชือกอีก 2 ‌ครั้ง (เฟรนช์ฯ 1/วิมเบิลดัน 3)

ล่าสุด บอริส เบคเกอร์ ตำนานนักเทนนิสเมือง‌เบียร์เยอรมนี ถึงกับออกมาแนะให้ เมอร์เรย์ นัก‌หวดขวัญใจถิ่นผู้ดี ถอนตัวจากศึกเฟรนช์ฯ เพื่อให้‌พร้อมสุดขีดในแกรนด์สแลมคอร์ตหญ้า“วิมเบิล‌ดัน”และโอลิมปิกเกมส์ที่กรุงลอนดอนในถิ่นของ‌ตัวเองดีกว่า เนื่องจากอาการเจ็บหลังของ เมอร์เรย์ ‌ยังไม่หายดีนัก

“ผมเป็นห่วงสภาพร่างกายของแอนดี อาการ‌เจ็บที่หลังถือเป็นของแสลงสำหรับการเล่นบน‌คอร์ตดินเลยทีเดียว เพราะในคอร์ตประเภทอื่นๆ ‌ไม่ค่อยจะมีปัญหาเท่าไหร่ เนื่องจากแมตช์สามารถ‌จบได้อย่างรวดเร็ว แต่บนคอร์ตดินอาจต้องเล่นกัน ‌2-3 ชั่วโมงทุกวันเลย”เบคเกอร์ อดีตแชมป์‌แกรนด์สแลม 6 สมัย กล่าว

เฟรนช์ โอเพน แชมป์หน้าเก่าหรือใหม่

 

นอกจากนี้ เบคเกอร์ ยังบอกอีกว่า แม้เขาไม่ใช่แพทย์ แต่ถ้า เมอร์เรย์ ไม่ฟิต ทำไมต้องลงเล่นด้วย ไม่มีใครสามารถชนะ 7 แมตช์รวดใน‌การเล่น 14 วัน โดยที่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์‌หรอก แม้แต่ นาดาล ก็คงทำไม่ได้แน่ แต่ยังไม่มี‌เสียงขานรับจาก เมอร์เรย์

รอบแรก–เมอร์เรย์ (มือวาง 4) พบกับอิโตะ ทัตซูมา (ญี่ปุ่น)

สำหรับศึกเฟรนช์ฯ ปีนี้ไร้นักหวดชายไทย ‌เนื่องจาก“ปิ๊ก”ดนัย อุดมโชค ร่วงแค่คัดเลือก‌รอบแรกเท่านั้น

สำหรับฝ่ายหญิงนั้น คงขับเคี่ยวแย่งแชมป์กัน‌สนุก แต่ตัวเต็งระดับต้นๆ น่าจะเป็น วิกตอเรีย ‌อซาเรนกา (มือ 1 โลก/เบลารุส) มาเรีย ชาราโพวา ‌(2/รัสเซีย) และ เซเรนา วิลเลียมส์ (5/สหรัฐ) ส่วน‌พวกที่รอสอดแทรก คือ“แชมป์เก่า”หลี่นา (7/‌จีน) แอกเนียสกา รัดวานสกา (3/โปแลนด์) เปตราควิโตวา (4/เช็ก) แชมป์วิมเบิลดันล่าสุด และซาแมนธา สโตเซอร์ (6/ออสเตรเลีย) แชมป์ยูเอส ‌โอเพน ปีที่แล้ว

อซาเรนกา ฟอร์มเยี่ยมแต่เจ็บถอนตัวบ่อย

สาวเบลารุสผู้นี้ถือว่าฟอร์มเข้าฝักมาตั้งแต่เริ่ม‌ฤดูกาลนี้เลย และหลังคว้าแกรนด์สแลมหนแรกให้‌ตัวเองในศึกออสเตรเลียน โอเพน ด้วยการต้อน‌อดีตมือ 1 โลกอย่าง ชาราโพวา ขาดลอยในรอบ‌ชิงชนะเลิศ พร้อมก้าวขึ้นเป็นมือ 1 โลกครั้งแรก‌ในชีวิตมาจนถึงตอนนี้ แถมยังมากวาดแชมป์ได้อีก ‌3 รายการ

แต่ปัญหาของเธอในตอนนี้ก็คือ เรื่องความฟิต ‌เพราะเพิ่งถอนตัวจากรอบ 3 โรม มาสเตอร์สด้วยอาการเจ็บไหล่ขวา รวมทั้งก่อนหน้านั้นก็มี‌อาการเจ็บข้อมือขวาด้วยเช่นกันในรอบชิง“พอร์ช ‌กรังด์ปรีซ์”ที่พ่าย ชาราโพวา

อย่างไรก็ตาม อซาเรนกา กำลังร่วมงานกับโค้ช‌คนใหม่ ซึ่งเป็นอดีตโค้ชของ อเมลี มัวเรสโมนักหวดสาวฝรั่งเศสอดีตแชมป์เฟรนช์ โอเพน และ‌อดีตมือ 1 โลก ทำให้เธอมั่นใจในสภาพร่างกาย‌และฟอร์มการเล่นมากขึ้น

“โค้ชของฉันสามารถชี้แนะให้ฉันระหว่าง‌แมตช์ได้ดี เพราะเธอมีประสบการณ์ในระดับสูงที่‌จะช่วยให้ฉันอยู่ในสภาพที่พร้อมมากกว่าเดิม มันดี‌มากเลยที่มีคนคอยติและสอนให้ระหว่างแข่ง”‌สาวเบลารุส วัย 22 กล่าว

รอบแรก–อซาเรนกา (มือวาง 1) พบกับ ‌อัลเบอร์ตา บริแอนตี (อิตาลี)

มาเรีย ลุ้นซิวแกรนด์สแลมให้ครบ

เป็นที่รู้กันดีว่า ชาราโพวา เป็นนักหวดที่ไม่ค่อย‌ชอบเล่นกราวด์สโตรกโต้กันไปโต้กันมานัก หากมี‌โอกาสเธอจะยิงวินเนอร์เป็นว่าเล่น โดยเฉพาะ

คู่ต่อสู้ที่เสิร์ฟแรกเสีย เสิร์ฟสองเจอเธอยิงใส่แน่ ‌แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน เพราะบางครั้งหากไม่แม่น‌จริง ชาราโพวา ก็ตีเสียเองเพียบเหมือนกัน

สาวสวยจากแดนหมีขาวสัมผัสแชมป์มาแล้ว‌ถึง 3 แกรนด์สแลม (ออสเตรเลียน 2008, วิมเบิลดัน 2004,ยูเอส โอเพน 2006) โดยขาด‌แค่โทรฟีเฟรนช์ โอเพน เท่านั้น เธอก็จะได้ครบทั้ง ‌4 แกรนด์สแลม ซึ่ง ชาราโพวา ยังไม่เคยไปถึงรอบ‌ชิงชนะเลิศเลย เธอทำได้ดีที่สุด คือ เข้ารอบตัด‌เชือก 2 ครั้ง (2007,2011)

“ฉันไม่ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการเล่นมากนักเพียงแต่พยายามเล่นด้วยความอดทนและ‌รอบคอบมากขึ้น โดยปรับปรุงเรื่องจังหวะการ‌สไลด์เข้าตีลูกบนคอร์ตดิน รวมทั้งการเสิร์ฟก็น่าจะดีขึ้นด้วย”ชาราโพวา วัย 25 กล่าว

นอกจากนี้ เธอยังบอกอีกว่าชอบคอร์ตดิน และ‌รู้สึกสบายๆ ไม่เครียดกับการแข่งขันครั้งนี้ จึงเชื่อ‌ว่าผลงานน่าจะออกมาดีทีเดียว

รอบแรก–ชาราโพวา (มือวาง 2) พบกับ ‌อเล็กซานดรา คาแดนตู (โรมาเนีย)

เซเรนา ฟอร์มดุขอเบิ้ลแชมป์เฟรนช์ฯ

เจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 13 สมัยอย่างเซเรนา คงไม่ต้องมีอะไรมาการันตีถึงความเก่งกาจ‌ในคอร์ตทุกประเภทอีกแล้ว แต่โทรฟีแกรนด์สแลม‌ทั้งหมดที่บ้านของเธอนั้นมีของ เฟรนช์ โอเพน อยู่‌แค่ครั้งเดียวเท่านั้น แถมยังเป็นการเอาชนะพี่สาว ‌คือ วีนัส ในรอบชิง มันไม่สะใจ จึงขอไล่ล่ามาเพิ่ม‌ในตู้โชว์อีกสักหน่อย

สำหรับสถิติที่ผ่านมา เซเรนา ประสบความ‌สำเร็จคว้าโทรฟี ซูซาน ลองลอง มาครองได้สำเร็จเมื่อปี 2002 ด้วยการล้มพี่สาวอย่าง วีนัสวิลเลียมส์ 2-1 เซต 7-5,6-3 แต่หลังจากนั้น

นักหวดหญิงดีกรีแชมป์แกรนด์สแลม 13 สมัย ก็‌ไม่เคยกลับมาเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในรายการนี้ได้อีกเลย

แม้แต่ 2 ตำนานนักหวดชาย-หญิงโลกชาว‌อเมริกันอย่าง คริส อีเวิร์ต และ จอห์น แม็คเอนโร ‌ยังออกมาฟันธงเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า เซเรนา ‌คว้าแชมป์เฟรนช์ฯ ชัวร์ๆ ไม่มั่วนิ่ม แม้จะเข้าสู่วัย ‌30 ปีแล้วก็ตาม

“ฉันไม่เคยเห็น เซเรนา ทำผลงานบนคอร์ตดิน‌ได้ยอดเยี่ยมเท่านี้มาก่อนเลย ตอนนี้เธอกำลังอยู่ในสภาพฟิตสมบูรณ์เต็มที่จริงๆ ที่ผ่านมานั้นเธอเล่น‌ได้ดีบนคอร์ตทุกประเภทอยู่แล้ว ฉันคิดว่าคงส่งผล‌กระทบถึงคู่แข่งสำคัญอย่าง มาเรีย ชาราโพวา ‌และ วิกตอเรีย อซาเรนกา เป็นแน่”อีเวิร์ต กล่าว ‌หลังได้เห็นผลงานชนะ 17 แมตช์รวดบนเคลย์‌คอร์ตของ เซเรนา ในปีนี้

ขณะที่ แม็คเอนโร ก็บอกว่า อายุที่เพิ่มขึ้นอาจ‌เป็นอุปสรรคอยู่บ้าง แต่สิ่งที่น่ากลัว คือ สภาพ‌อากาศที่ปารีสซึ่งยากแก่การคาดเดา หาก เซเรนา ‌รับมือกับมันได้ ก็จะมีโอกาสคว้าแชมป์แน่

รอบแรก–เซเรนา (มือวาง 5) พบกับ“เจ้าถิ่น”เวอร์จินี ราซซาโน

สำหรับศึกเฟรนช์ฯ ปีนี้มี“แทมมี่”แทมมารีน ‌ธนสุกาญจน์ เป็นนักหวดสาวไทยหนึ่งเดียว เนื่อง‌จาก“น้องนก”นพวรรณ เลิศชีวกานต์ ร่วงแค่คัดเลือกรอบแรกเท่านั้น โดยรอบแรก แทมมี่ ก็เจอ‌งานหินทันทีเลย โดยจะพบกับ คาร์ลา ซัวเรซ-นาวาร์โร (สเปน) ซึ่งถนัดเล่นคอร์ตดินอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ผลงานดีสุดของมือ 1 ไทย วัย 35 ปีคือการเข้าถึงรอบ 3 หรือ 32 คนสุดท้ายเมื่อปี ‌2002

 

 

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ