ใช้ก๊าซอย่างไรให้ประหยัดและปลอดภัย
โดย...กันย์
โดย...กันย์
บ้านอยู่อาศัยโดยส่วนใหญ่มักจะใช้ก๊าซหุงต้มที่เรียกว่า LPG เพราะนำมาใช้ประกอบอาหารอย่างแพร่หลาย ใช้ได้สะดวก ง่ายดาย แต่ก็ไวไฟถ้าพลาดก็ติดไฟง่ายระเบิดตูมตามเอาได้ง่ายๆ เช่นกัน เพราะอานุภาพนั้นรวดเร็ว รุนแรง การรู้วิธีใช้ให้ถูกต้องถูกหลักการนอกจากจะช่วยให้ปลอดภัยขึ้นแล้ว ยังได้เรื่องการประหยัดพลังงานเป็นของแถมอีกด้วย เรามีวิธีการดีๆ ที่ถูกต้องมาฝากกันค่ะ รวมทั้งมีวิธีแก้ไขการเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินที่เหมาะสมปลอดภัยด้วยค่ะ เพราะเป็นคำแนะนำของกระทรวงพลังงาน
เคล็ดลับประหยัดก๊าซหุงต้ม
1.ไม่ควรติดตั้งถังก๊าซในที่ที่มีลมแรง หรือไม่ควรใช้พัดลมเป่าเข้าเตา เพราะเปลวไฟจะไม่สัมผัสกับภาชนะ ทำให้สิ้นเปลือง
2.ใช้ภาชนะให้เหมาะกับปริมาณอาหาร คือไม่ใช้หม้อ กระทะ ขนาดใหญ่เกินไป เลือกขนาดเตาให้เหมาะกับภาชนะ
3.กาต้มน้ำที่ใช้ควรทำความสะอาดไม่ให้มีตะกรันจับ เพราะจะกลายเป็นฉนวนกันความร้อนทำให้เดือดช้า
4.ไม่เปิดเตาแก๊สทิ้งไว้ระหว่างเตรียมอาหาร
5.ขณะใช้เตาหากเปลวไฟมีสีน้ำเงินหมายถึงมีการเผาไหม้สมบูรณ์และให้ความร้อนสูงสุด
6.หมั่นทำความสะอาดหัวเตาไม่ให้อุดตัน
การจัดวางถังก๊าซหุงต้มที่เหมาะสม
1.ควรตั้งตัวถังให้ห่างอุปกรณ์เตาไฟอย่างน้อย 1.5 เมตร
2.ไม่ควรตั้งอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่อาจก่อให้เกิดประกายไฟไว้ใกล้ถังก๊าซ
3.ตั้งถังก๊าซในที่อากาศถ่ายเทสะดวกหรือนอกอาคารเพื่อความปลอดภัย และเคลื่อนย้ายได้สะดวก
4.ตั้งเตาบนที่ราบเรียบและแข็ง วางถังกาซในแนวตั้งเสมอ
5.ไม่ตั้งเตาและถังก๊าซในบริเวณที่เปียกชื้น ห้ามกลิ้งหรือกระแทกถัง
6.ห้ามนำถังก๊าซไปเติมที่สถานีบริการ
วิธีแก้ไขเมื่อก๊าซรั่ว
1.เมื่อได้กลิ่นก๊าซรั่ว ต้องหาจุดรั่วโดยเร็ว โดยใช้สบู่ลูบตามที่สงสัย เช่น ที่วาล์วของถังก๊าซ ข้อต่อ ท่อยางที่หัวเตาที่ตัวถัง หากรั่วจะมีฟองสบู่ผุดขึ้นมา
2.เปิดประตู หน้าต่าง เพื่อให้กลิ่นระเหยออกไป
3.ห้ามจุดไฟ สูบบุหรี่ หรือเปิดสวิตช์ในบริเวณนั้นเด็ดขาด
4.ถ้าก๊าซรั่วที่ตัวถังให้พลิกจุดรั่วไว้ด้านบน นำถังที่รั่วไปไว้ในที่โล่ง กลางสนาม อย่าให้มีประกายไฟในจุดนั้น ถ้ามีไฟลุกที่ถังให้ใช้ถังดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้งฉีดดับไฟ
ข้อควรปฏิบัติกรณีฉุกเฉิน
1.ถ้าก๊าซหุงต้มกระเด็นหรือกระฉอกเข้าตา ให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง และให้ดึงหนังตาล่างและตาบนอยู่เสมอ ห้ามใช้น้ำร้อนล้างตาเด็ดขาด แล้วรีบพบแพทย์
2.หากหายใจเข้าไป ให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปยังที่โล่งอากาศบริสุทธิ์ หากหยุดหายใจ ต้องช่วยผายปอดหรือใช้เครื่องช่วยหายใจ แล้วจึงให้พักผ่อนและห่มผ้าให้ร่างกายอบอุ่นแล้วส่งโรงพยาบาล
อย่ามองข้ามว่าเป็นเรื่องจุกจิก แต่เป็นเรื่องที่ควรระมัดระวัง เพราะเป็นสิ่งที่ป้องกันได้ หากพลาดหรือประมาทสิ่งที่เกิดขึ้นจะสร้างความสูญเสียได้อย่างมากมายเกินคาด ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน


