โลกส่วนตัว “พันกร บุณยะจินดา”

โดย...ณัฐพล ช่วงประยูร

ฉบับนี้บุกถึงเขตห้องนอน “พันกร บุณยะจินดา” นักร้องสุดเทรนดี้ ที่ทำเพลงมาจนถึงวันนี้ 9 อัลบั้มแล้ว ล่าสุดมีสังกัดตัวเอง เป็นทั้งค่ายเพลงและธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ รีโวล์ มิวสิค ครีเอชั่น (Revol Music Creation)

เมื่อเร็วๆ นี้ คนที่ติดตามจะได้เห็น ดัง พันกร ในมาดใหม่ มาร้องเล่นเต้นสนุก พร้อมแดนเซอร์หนุ่มรายรอบ ในเพลง I Wanna Be With You ซิงเกิลแรกที่แหวกแนวไปจากตัวตนเก่าก่อน และล่าสุดเพิ่งปล่อยซิงเกิลถัดมา “รั้ง” เพลงช้าที่ใช้เทคนิคร้องเศร้าเท่ซิกเนเจอร์ดังมาให้ฟังกันแล้ว แถมวันที่เยี่ยมบ้านยังได้นั่งชมมิวสิกวิดีโอตัวที่กำลังตรวจไฟนอลก่อนแก้ไขครั้งสุดท้ายก่อนใครด้วย

“ห้องนี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว คล้ายอพาร์ตเมนต์ คือมีทุกอย่างครบครันที่นี่ ด้านในเป็นห้องนอน ซึ่งมีเตียงและที่แต่งตัว รวมถึงห้องน้ำส่วนตัว โต๊ะข้างเตียงมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับมาจากการไปทำบุญ ทอดกฐิน ผ้าป่า หรือไปเช่ามาจากที่ต่างๆ ที่แวะเวียนไปเยือน

ส่วนตรงนี้ที่เรานั่งดูทีวีกัน ใช้งานหลายอย่างมาก ทั้งพักผ่อนส่วนตัว ดูซีรีส์ ดูละคร หรือข่าวสารหลังเลิกงาน และใช้เป็นที่ประชุมของคนในบริษัท รีโวล์ เนื่องจากผมไม่ได้เข้าออฟฟิศทุกวัน ทีมงานก็มาประชุมงานและประสานกันจากตรงนี้ ใช้โทรศัพท์บ้าง เจอกันบ้าง และถ้ามีประชุมใหญ่หรือมีบุคคลภายนอกมาร่วมประชุมด้วยจึงจะเข้าไปที่ออฟฟิศ” ดังชวนคุยเพลินระหว่างนั่งพักที่มุมโซฟารับแขกในห้องนอน

 

“วันนี้ดังโตขึ้นอีกหนึ่งสเต็ป จากเคยเป็นแค่ศิลปินคนหนึ่ง แต่เนื่องจากที่บ้านเองก็ทำธุรกิจเพลงอยู่ด้วย พี่ดาว (พอฤทัย ณรงค์เดช) เขาก็ทำให้วงอีทีซี ทำละครแหม่มแก้มแดง ก็มีพื้นฐานกันอยู่แล้ว คุณแม่เห็นว่าเราโตแล้ว น่าจะมีอะไรเป็นของตัวเอง ถ้าไม่เริ่มตอนนี้ไม่รู้จะเริ่มตอนไหน ตอนสัญญาอาร์เอสใกล้หมด คุณแม่ก็เลยขอร้องว่าอยากให้มาทำงานกับที่บ้าน ก็เลยตัดสินใจออกมา แต่กับอาร์เอสก็ถือเป็นมิตรที่ดีต่อกัน เราไม่ได้ไปค่ายคู่แข่ง ทำงานที่บ้าน อันนี้เข้าใจได้

เนื่องจากเรารักที่จะเรียนรู้ ใฝ่รู้ การทำงานเบื้องหลัง ตั้งแต่ชุดแรกมาตลอด ดังก็เข้าไปนั่งในห้องประชุม เวลาทำเพลงกัน ทีมเนื้อร้อง ดนตรี มิวสิก เราได้เห็นว่าอันนี้งานดัง อันนี้งานโดม และของคนอื่นๆ ทั้งมิวสิกโปรดักชัน การทำภาพ โปรโมเตอร์ ลุค และคอนเซปต์อัลบั้ม หรือแม้แต่ มีเดีย พีอาร์ อยู่อาร์เอสมา 10 ปีก็ซึมซับมา และทราบแนวทางว่าเมื่อถึงเวลาทำอันนี้ต้องไปต่ออย่างไร

ในเรื่องบริหารจัดการและตัวเลข ต้องเรียนรู้ใหม่ มันก็ยากแต่ก็ท้าทายดี ทำให้เราขยันขึ้น ไม่ใช่แค่ร้องเพลง ออกคอนเสิร์ต รับเงิน แต่ปัจจุบันเราต้องดูแลพนักงาน ดูแลศิลปินคนอื่นด้วย ในฐานะแมเนจิง ไดเรกเตอร์” เขาดูโตขึ้นจริงกว่าที่เคยคุยกันเมื่อ 8 ปีก่อน ทว่ายังคงเป็นมิตรและสนุกสนานไม่เปลี่ยน

 

แม้ว่าพื้นที่บ้านจะกว้าง 4-5 ไร่ มีบ้านในรั้วเดียวกันหลายหลัง แต่ห้อง 50-60 ตารางเมตร ก็ยังเป็นโลกส่วนตัวที่ปลอดภัย “หลังนี้ดังอยู่มาตั้งแต่เกิด เมื่อก่อนอยู่หลังเล็ก นอนรวมกันกับพ่อแม่ พอเราโต พี่เอ (ดวงพร) พี่ดาว โตแล้ว ก็หาบ้านใหม่อยู่ เลยขยายมายังหลังนี้ ซื้อที่ดินเพิ่มต่อเติมมาเรื่อยๆ ทางด้านหน้ารั้วเป็นบ้านคุณตาคุณยาย แล้วก็ต่อมาถึงคุณลุง พี่ชายคุณแม่ ส่วนบ้านเก่าของคุณแม่ก็เป็นบ้านคุณน้า น้องสาวคุณแม่ ขณะนี้พี่ดาวเขาก็กำลังจะสร้างบ้านพื้นที่ติดกัน รองรับให้หลานๆ เมื่อโตขึ้น

ที่เห็นว่าสวนกว้างขวางมาก เพราะคุณแม่ชอบต้นไม้ ช่วงเย็นๆ พาคุณพ่อคุณแม่ไปเดินออกกำลังกาย ท่านก็เอากรรไกรตัดกิ่งติดมือไปตัดโน่นนี่ หรือบางทีช่วงเช้าๆ เราเดินไปบางทีก็แปลกใจว่ามีมุมนี้ด้วยเหรอ บ้านเราร่มรื่นจัง หลายครั้งชีวิตเราทำงานกลับมาก็เหนื่อย อยู่ในห้อง มีโลกส่วนตัว ดูซีรีส์ ดูยูทูบหาแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง แต่ที่สวนก็ได้บรรยากาศอีกแบบ

เหตุผลที่ทำห้องให้เป็นเหมือนอพาร์ตเมนต์ในบ้าน เพราะเวลานอนเราไม่เหมือนคนอื่น บางทีตื่นมาที่บ้านกินข้าวเที่ยงไปแล้ว เราหิวเราก็จะกินบนห้อง เลยมีครัว ตู้เย็น และที่ทำอาหารง่ายๆ ในห้องซะเลย มีห้องน้ำสำหรับแขกที่มาประชุมหรือเยี่ยมเยียนครับ” ระหว่างนี้เราหยุดพักชิลกับเอ็มวีที่เกือบสมบูรณ์ไปกับดัง และเลขาฯ ....

 

เขาอนุญาตให้เราได้ชมก่อนใคร โปรดักชันนี้คว้า ป้อง ณวัฒน์ และ แตงโม ภัทรธิดา มาคู่กัน ดรามาได้ใจ แต่ดังคิดว่าอาจต้องแก้ไขอะไรก่อนส่งไปออกอากาศจริง

“สำหรับผมแล้วบ้านคือที่ที่มีความสุขที่สุด อบอุ่นและปลอดภัยที่สุด เป็นที่ที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเรา เราอาจจะเจออะไรเลวร้ายจากโลกภายนอก แต่เมื่อกลับมาก็อบอุ่นเพราะมีครอบครัวที่ดี ทุกคนล้วนมีความปรารถนาดีให้เรา เป็นที่พักใจ ทำให้เรามีความสุข คงนิยามไม่ครบถ้วนได้เท่าที่รู้สึกนะครับ” เขาปิดท้ายก่อนลาจาก