posttoday

นั่งดูทีวีให้ห่างไกลอัมพฤกษ์

17 เมษายน 2555

สงกรานต์ปีนี้ลาหยุดยาววววว...มาก แต่ก็มิมีกิจวัตรนัดซ้อนอันใดให้ตื่นเต้น ส่วนใหญ่เป็นการแพลนวันว่างให้ว่างเข้าไว้

โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์

สงกรานต์ปีนี้ลาหยุดยาววววว...มาก แต่ก็มิมีกิจวัตรนัดซ้อนอันใดให้ตื่นเต้น ส่วนใหญ่เป็นการแพลนวันว่างให้ว่างเข้าไว้ เนื่องจากทำงานเหนื่อยหนักชักแหง็กแหง็กมาตั้งแต่ต้นปี (สงสัยอายุจะเยอะ) จึงมิอางขนางที่จะให้ลองวีคเอ็นด์เป็นอื่น เพื่อน (อายุก็ใกล้กัน) สอบถามว่า จะทำอะไร ตอบว่า จะกินและนอนเป็นหลัก ส่วนเวลาว่างจะดูทีวีเป็นพื้น เพื่อนได้ยินแล้วกรีดหวีดร้อง ทำท่าจะเป็นจะตายแล้วว่า ไม่ด๊ายย! (ทำเสียงสูง)
นึกว่าอะไรที่ไม่ได้ เพื่อนตอบว่า “ดูทีวีไม่ได้”

อย่าตอกย้ำซ้ำเติมร่างกายด้วยท่านั่งผิดๆ
เพื่อนคนเดิมสาธยายต่อว่า รู้ไหม ในวันหนึ่งๆ คนเราใช้เวลากับการนั่งดูทีวีเฉลี่ย 2-3 ชั่วโมงต่อวัน แต่น้อยคนนักที่จะสนใจท่าทางที่ถูกต้องในการนั่งดูทีวี หากการนั่งดูทีวีนั้นใช้เวลาไม่มาก ก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้านั่งดูทีวีวันละเกิน 1 ชั่วโมง และเป็น 1 ชั่วโมงที่นั่งดูด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้อง จะส่งผลเสียต่อร่างกายมาก ในระยะยาวการนั่งดูทีวีที่นานเกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน เป็นการใช้ร่างกายอยู่ในอิริยาบถแบบเดิมๆ หรือใช้ร่างกายอยู่ในท่าที่ผิดแบบตอกย้ำซ้ำเดิม ร่างกายอาจได้รับผลเสียถึงขั้นเป็นอัมพฤกษ์เลยทีเดียว
เพ็ญพิชชากร แสนคำ ผู้อำนวยการสถาบันปรับโครงสร้างร่างกายอริยะ กล่าวว่า ปกติแล้วเวลาคนเราดูทีวี ก็จะเลือกอยู่ในท่าที่สบายที่สุด ไม่ว่าจะเป็นท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน นั่งเอนหลังโดยใช้แผ่นหลังช่วงล่างรองรับน้ำหนักแทนก้นกบ หรือนั่งบนโซฟาที่นุ่มมากเกินไปจนก้นจมลงไป การเอนตัวกึ่งนั่งกึ่งนอน หาหมอนเรียงซ้อนกันหลายๆ ใบ หนุนหัวสูงเพื่อจะได้นอนเห็นทีวีชัดเจน บางรายอาจแย่กว่านั้น คือชอบนอนดูทีวีที่ตั้งอยู่ปลายเตียง ดังนั้น เมื่อทีวีตั้งอยู่ปลายเท้า ก็ต้องหนุนศีรษะให้สูงขึ้นๆ ยิ่งอันตรายมาก หากเผลอหลับในท่าเหล่านี้
พฤติกรรมดังกล่าว ล้วนส่งผลเสียต่อโครงสร้างร่างกายทั้งสิ้น โดยจะเริ่มมีอาการผิดปกติ แสดงความไม่ปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายมากขึ้นเรื่อยๆ และถี่ขึ้นเรื่อยๆ เช่น อาการยึดรั้งของกล้ามเนื้อ อาการปวดเมื่อยตามลำตัว ปวดหลัง ปวดคอ ปวดศรีษะ ไมเกรน ชาตามปลายมือปลายเท้า หรือบางรายอาจร้ายแรงถึงขั้นร่างกายขาดการรับรู้ความรู้สึก ไม่มีแรงไปบางส่วน หรือที่เรียกว่า อัมพฤกษ์ !

นั่งดูทีวีให้ห่างไกลอัมพฤกษ์

ท่านั่งดูทีวีที่ควรหลีกเลี่ยง
 1.อันดับแรก ได้แก่ ท่านั่งกึ่งนอน และท่าเอนหลังมากๆ ให้ลองนึกภาพกระดูกสันหลังปกติ ที่ช่วงล่างของหลังจะแอ่นไปด้านหน้าเล็กน้อย ซึ่งการที่แนวกระดูกทรงตัวเช่นนี้ จะทำให้เกิดความมั่นคงต่อหมอนรองกระดูกสันหลัง แต่หากเป็นท่าแบบกึ่งนั่งกึ่งนอน ความโค้งของหลังจะตรงกันข้าม คือแอ่นนูนมาทางด้านหลัง ผลก็คือเส้นเอ็นต่างๆ ที่ขึงแนวกระดูกสันหลังไว้ รวมถึงกล้ามเนื้อจะถูกยืดยาวออกจากระนาบปกติ ทำให้ขาดความมั่นคง
หากอยู่ในท่านี้นานๆ จะทำให้เนื้อเยื่อในบริเวณด้านหลัง ขาดความมั่นคง เกิดการบาดเจ็บได้ง่าย รวมทั้งจะส่งผลให้หมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือปลิ้นออกมาทับเส้นประสาท เป็นผลให้มีอาการปวดหลังปวดร้าวลงขา บางรายชาที่เท้าหรือนิ้วเท้า ในบางรายที่ร้ายแรงอาจมีอาการกดทับเส้นประสาท มีผลไม่ให้ไม่มีแรงของกล้ามเนื้อ รู้จักกันดีในชื่อของอาการอัมพฤกษ์ หากปล่อยร่างกายจนถึงภาวะนี้แล้ว การรักษาให้หายกลับมาเป็นปกติ ต้องเสียทั้งเวลา เสียทั้งเงินทอง อีกสุขภาพกายสุขภาพจิตก็รับรองว่าจะไม่เป็นสุข
2.ท่าห้ามอีกท่าหนึ่ง คือท่านั่งที่หนุนศีรษะให้สูงขึ้น ในรายที่ชอบดูทีวีแบบนี้ มักมีความเชื่อว่าเป็นท่านั่งที่ช่วยประคองกระดูกคอ แต่ในทางกายภาพ พฤติกรรมดังกล่าวจะเสมือนเป็นการบังคับคอของเราให้ถูกดันหรือก้มมาทางด้านหน้าตลอดเวลา ผลเสียคล้ายกับการนั่งกึ่งนอน แต่ความเสียหายเกิดขึ้นที่แนวกระดูกช่วงคอ
ช่วงคอเป็นกล้ามเนื้อมัดเล็กมาก และเป็นส่วนที่มีรากและปมประสาทเส้นเลือดที่เชื่อมไปยังสมอง หากนอนอยู่ในท่านี้ประจำ หรือแอบหลับในท่าหนุนคอสูงตลอดเวลาแบบนี้ จะมีผลทำให้เสี่ยงต่ออาการหมอนรองกระดูกเคลื่อนออกมาทับเส้นประสาทคอ บางคนขยับคอ ขยับแขนไม่ได้ เกิดเป็นอาการปวดเรื้อรังที่คอ บ่า และเสี่ยงต่อการเป็นอัมพฤกษ์ชนิดยกแขนไม่ได้ บางรายอาจปวดร้าวลงแขนหรือลงสะบัก และไม่สามารถเงยคอได้ เพราะถ้าเงยคอ อาการก็จะปวดร้าวมากขึ้น ทั้งนี้เกิดจากเส้นประสาทคอถูกกดทับ
3.หาความรู้ที่ถูกต้อง ภาวะและอาการบาดเจ็บต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย เป็นตัวชี้ให้เห็นว่า เราใช้ร่างกายผิดท่าผิดทาง เมื่อเริ่มมีอาการในเบื้องแรก ควรใส่ใจต่อความเจ็บปวดหรืออาการที่ผิดปกตินั้น

นั่งดูทีวีให้ดีที่สุด
แล้วจะทำอย่างไรให้การนั่งดูทีวี ไม่ส่งผลเสียกับร่างกาย และเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลายอย่างแท้จริง
1.เริ่มจากท่านั่ง ควรได้รับการจัดท่าทางที่เหมาะสม ส่วนใหญ่คนมักนั่งดูทีวีจากโซฟา ควรเป็นโซฟาที่เราสามารถเอนหลังได้ ควรเลือกที่ไม่นุ่มเกินไป
2.เมื่อนั่งแล้วก้นไม่ยวบลงมากนัก และนั่งควรดันหลังให้ติดกับพนักพิง หรือหาหมอนมาวางดันหลังเอาไว้ เพื่อให้ตลอดทั้งหลังแนบไปกับโซฟา ส่วนคอ
3.ควรมีหมอนรองรับตั้งแต่ช่วงหัวไหล่จนถึงศีรษะ (ไม่ใช่ให้หมอนหนุนเพียงช่วงต้นคอเท่านั้น) เสมือนกับเรานั่งในท่าตรง กระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรง เพียงมีพนักพิงหรือหมอนเป็นตัวรองรับตลอดทั้งแนวของกระดูกสันหลังอยู่เท่านั้น สังเกตง่ายๆ ว่า ตัวเราจะต้องไม่อยู่ในท่างอตัว หรืองุ้มตัว โดยตลอดแนวกระดูกสันหลังต้องเป็นแนวตรงนั่นเอง
4.สำหรับเด็กๆ นอกจากการจัดองค์ประกอบในการนั่งดูทีวีแล้ว ควรแบ่งเวลาที่เหมาะสมให้เด็กๆ ได้ยืดเส้นยืดสายด้วย ได้แก่ การทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อไม่ให้เด็กใช้เวลาอยู่กับการดูทีวี หรือการนั่งเล่นเกมมากจนเกินไป
ใส่ใจการนั่งดูทีวีวันนี้ ก่อนที่จะส่งผลต่อร่างกายในวันหน้า คนทุกคนได้ตรวจสุขภาพประจำปี หากไม่เหลือบ่ากว่าแรง ก็ลองตรวจโครงสร้างร่างกายประจำปีดูบ้าง เพื่อรู้ให้เท่าทันความผิดปกติของโครงสร้างร่างกาย กระดูกและกล้ามเนื้อของตัวเราเอง

 


 

 

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2