กระตุ้นต่อมคิด พิชิตจินตนาการ

โดย...พี่กันดั้ม

จินตนาการสำคัญที่ความรู้ ด้วยเหตุนี้โลกเรายุคใหม่จึงเต็มไปด้วยจินตนาการ โดยมีความรู้เป็นเพียงพื้นฐานนำมาพัฒนาต่อยอดอย่างอิสระ เวิร์กช็อป “กระตุ้นต่อมคิด พิชิตจินตนาการ” โดยกลุ่มบริษัท ฮอนด้า ในประเทศไทย จึงจัดขึ้นเพื่อเสริมเทคนิคการคิดสร้างสรรค์สำหรับนำไปต่อยอดพัฒนาแบบจำลองความคิดสร้างสรรค์ให้กับน้องๆ ระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 ที่ผ่านเข้ารอบโครงการประกวดจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ “ฮอนด้า ซูเปอร์ไอเดีย คอนเทสต์ ปี 7” ในหัวข้อ “สนุกสร้างสรรค์ ฝันสร้างโลก”

โดยมี คุณครูราล์ฟชัยรัตน์ ภัทรธารา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาศักยภาพเด็ก และทีมงานมาเป็นวิทยากรและพี่เลี้ยงช่วยกระตุ้นจินตนาการ และถ่ายทอดให้น้องๆ รู้จักคิดและหาข้อมูลอย่างมีระบบ ผ่านกระบวนการเรียนรู้ความคิดสร้างสรรค์ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ การสังเกต การตั้งคำถาม การออกแบบ และการแก้ไขปัญหา เมื่อเร็วๆ นี้ ณ อุทยานการเรียนรู้ ที เคปาร์ค โดยน้องๆ ทั้ง 100 คนที่เข้าร่วมกิจกรรมเวิร์กช็อปจะนำแนวคิดที่ตกผลึก เพื่อนำไปประดิษฐ์ชิ้นงานแบบจำลองและกรรมการจะทำการคัดเลือกเหลือเพียง 20 ชิ้นงาน เพื่อเข้าสู่รอบชิงแชมป์ประเทศไทยต่อไป

ผลงานไอเดียของน้องๆ ทั้ง 100 คน ผ่านเข้ารอบมีไอเดียสิ่งประดิษฐ์ที่หลากหลายและใกล้ตัว เนื่องจากโจทย์ที่เปิดกว้างมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งประดิษฐ์เพื่อช่วยเหลือผู้พิการ อย่างปลอกนิ้วช่วยคนมือพิการ และแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวัน อย่างเครื่องฉายภาพไล่โจร และแน่นอนว่าสิ่งประดิษฐ์ที่คิดขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประภัยน้ำท่วมในปีนี้ก็มีมากเป็นประวัติการณ์ ไม่ว่าจะเป็น บ้านในอนาคตของผม จ้าวฉลามกู้อุทกภัย รองเท้าหนีน้ำ ซูเปอร์หุ่นยนต์พิชิตน้ำท่วม แคปซูลข้าว นาฬิกาชูชีพช่วยคนตกน้ำ เป็นต้น

ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาศักยภาพเด็ก บอกกับน้องๆ ว่าหากเราต้องการสิ่งประดิษฐ์ที่มีความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร เราต้องคิดออกแบบมาจากจินตนาการก่อน อย่าเพิ่งหยุดคิด หรือใช้ข้อมูลที่เรามีอยู่เป็นตัวสกัดกั้นความคิดสร้างสรรค์ ว่าทำไม่ได้ หรือเป็นไปไม่ได้ หรือแม้กระทั่งการจมอยู่กับความคิดใดความคิดหนึ่งเป็นเวลานานๆ ก็จะทำให้ความคิดของเราตันได้ สิ่งที่สอนเด็กๆ คือลองให้เขาเปิดใจและคิดสร้างสรรค์ผลงานจากจินตนาการของเขาเอง พยายามคิดไอเดียให้ได้มากที่สุด บางทีไอเดียที่ 3 หรือไอเดียที่ 4 อาจเป็นคำตอบของปัญหาในไอเดียที่ 1 ที่เราต้องการก็ได้ อย่างเช่น น้องปั้นทัศน์พล คุณวุฒิพร ชั้น ป.2 โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เจ้าของไอเดียผลงาน “รถเข็นไฟฟ้าที่ทำงานด้วยเสียง” สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ เพราะบางทีใช้มือในการเลื่อนทำให้ยากและลำบาก โดยรถเข็นคันนี้ยังมี GPS อีกด้วย ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่หลงทาง ส่วนผลงานที่คิดขึ้นใหม่ น้องปั้นเสนอ “ระเบิดที่ดูดน้ำและบำบัดน้ำเสียไว้ใช้ตอนน้ำท่วม” ก็แสดงให้เห็นถึงแนวทางในความคิดว่าไม่ควรจำกัดอยู่ที่ไอเดียใดไอเดียหนึ่ง

ดังนั้น ผู้ปกครองจึงไม่ควรครอบงำหรือกำหนดชี้นำไอเดียเด็ก อยากให้ไอเดียเป็นสิ่งที่เกิดจากตัวของเขาเอง ส่วนผู้ใหญ่แค่ทำหน้าที่หาป้อนข้อมูลสนับสนุนเขาเท่าที่จะทำได้ก็พอเพราะอย่าลืมว่าจินตนาการสำคัญกว่าความรู้นั่นเอง