เปิดแคมป์ศิลปะ อนุรักษ์สัตว์ป่า รักษาต้นไม้

โดย...พี่กันดั้ม

แนวความคิดเกี่ยวกับการอนุรักษ์และจิตสำนึกเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมสำหรับเด็กและเยาวชน นอกเหนือจากการใช้หลักวิชาการในการสร้างข้อมูลพื้นฐานแล้ว ยังต้องอาศัยการสร้าง “แนวคิด” และ “จินตนาการ”เพื่อปลูกฝัง “แนวทาง” ในการอนุรักษ์และดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมภายใต้จิตสำนึกอย่างแท้จริง

บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนภายใต้แบรนด์ “เฟเบอร์-คาสเทลล์” ร่วมกับองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงพาน้องๆ เยาวชนที่ได้รับรางวัลจากโครงการประกวดวาดภาพระบายสีในหัวข้อ “อนุรักษ์สัตว์ป่า รักษาต้นไม้” ชิงถ้วยประทานพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เข้าร่วมแคมป์ศิลปะกับเฟเบอร์-คาสเทลล์ ณ เอสตาเต้ แคมป์ปิ้ง รีสอร์ท จ.ชลบุรี

โดยมีครูสังคม ทองมี ผู้อำนวยการศูนย์ศิลป์สิรินธร ดร.อภิชาติ พลประเสริฐ อาจารย์ประจำสาขาวิชาศิลปศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และครูฮ่องเต้ พิธีกรรายการเด็กอาร์ต ทางสถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส มาเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่น้องๆ พร้อมเยี่ยมชมสวนสัตว์เปิดเขาเขียวทั้งในส่วนของ Day Safari และ Night Safari เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้มาสัมผัสธรรมชาติและสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะช่วยหล่อหลอมจิตใจให้มีความรักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ เราอยากให้เด็กๆ ที่ได้รับรางวัลเหล่านี้ได้เป็นตัวแทนของเยาวชนทั้งประเทศที่ได้ส่งผลงานเข้าประกวดทั้งหมดกว่า 2.7 หมื่นผลงาน ในการส่งผ่านความใส่ใจและดูแลรักษาธรรมชาติใกล้ตัว รวมถึงให้ความรักและเมตตากับสัตว์ เพื่อช่วยฟื้นฟูโลกใบนี้ให้ดียิ่งขึ้น

สำหรับกิจกรรมการเข้าแคมป์ศิลปะกับทางเฟเบอร์-คาสเทลล์ ในครั้งนี้ ทางวิทยากรใจดีได้ให้โจทย์กับน้องๆ ในการวาดภาพสัตว์ป่า ต้นไม้ และความสวยงามของธรรมชาติที่ได้พบเจอและเกิดความประทับใจ ผ่านกิจกรรม Day Safari เป็นการนั่งรถรางไปเยี่ยมชมสัตว์นานาชนิดที่หากินในเวลากลางวัน และ Night Safari ที่ได้ให้น้องๆ ได้สัมผัสกับวิถีชีวิตและธรรมชาติของสัตว์ป่าที่หากินในเวลากลางคืน เพื่อให้น้องๆ ได้วาดภาพความประทับใจเหล่านี้ลงในสมุดวาดเขียนแล้วนำมาส่งผลงานในวันที่ 2 ซึ่งกิจกรรมนี้จะช่วยให้เด็กๆ สามารถวาดภาพในรูปแบบของการศึกษาธรรมชาติจริงในเวลาที่จำกัด และได้รู้จักการสังเกตธรรมชาติรอบๆ ตัว รวมถึงมีความกล้าที่จะวาดภาพในสิ่งที่ตัวเองชอบและเกิดความประทับใจออกมาเป็นผลงานในสมุดบันทึกธรรมชาติ

น้องต้นกล้า ด.ช.สัภยา โกกระบูรณ์ อายุ 8 ขวบ ชั้น ป.2 จากโรงเรียนวัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ แชมป์ระดับประถมต้น เล่าให้พี่ๆ ฟังว่า การอนุรักษ์สัตว์ป่าและรักษาต้นไม้ด้วยวิธีที่ง่ายที่สุดที่ทุกคนจะทำได้ก็คือ การช่วยกันปลูกต้นไม้ ไม่ตัดไม้ทำลายป่า ไม่ฆ่าสัตว์ ผมเห็นข่าวในทีวีว่ามีเสือโคร่งและสัตว์ป่าอีกหลายชนิดที่ถูกมนุษย์ฆ่าเพื่อเอาเนื้อไปกินหรือเอาร่างกายไปทำเครื่องประดับตกแต่ง ผมรู้สึกสงสารมากครับ ไม่อยากให้มนุษย์ทำร้ายสัตว์ ดูแลสัตว์ รักสัตว์ให้มากๆ จะได้มีสัตว์อยู่ในประเทศไทยและในโลกเยอะๆ

เช่นเดียวกับน้องเป๋า ด.ช.อาทิตย์ เป๋าทองสุข อายุ 11 ขวบ ศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จากโรงเรียนคลองมหาวงก์ จ.สมุทรปราการ แชมป์ระดับประถมปลาย วันนี้น้องเป๋าเดินทางมากับคุณครูจินตนา ป้อมทอง โดยคุณครูจินตนา เล่าว่า น้องเป๋าเป็นเด็กสมาธิสั้น แต่ศิลปะกลับทำให้อาการป่วยของน้องเป๋าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คือน้องเป๋ามีสมาธิดีขึ้นมาก สามารถคิดและวาดรูปออกมาได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นการใช้ศิลปะเข้ามาช่วยในการบำบัดจึงทำให้น้องเป๋าสุขภาพดีขึ้นและได้รับรางวัลในการประกวดวาดภาพต่างๆ มาแล้วมากมาย

“รูปที่ผมใช้ส่งเข้าประกวดในหัวข้อ ‘อนุรักษ์สัตว์ป่า รักษาต้นไม้’ ผมวาดรูปรถดับเพลิงและรถพยาบาลอยู่ในป่าซึ่งเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าขึ้น และมีช้างและสัตว์อื่นๆ ได้รับบาดเจ็บ ผมจึงต้องมีรถมาฉีดน้ำดับไฟป่า และมีหน่วยพยาบาลมาทำการรักษาสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บครับ ผมรักสัตว์ครับ ไม่อยากเห็นสัตว์ต้องเจ็บปวดทรมาน เพราะฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกันดูแลป่าไม้นะครับ ไม่มีป่าไม้ สัตว์ก็ไม่มีที่อาศัยนะครับ” น้องเป๋า เล่าอย่างอารมณ์ดีขณะที่นั่งรถรางเยี่ยมชมสัตว์ป่านานาชนิด

จากกิจกรรมนี้เราจึงเห็นได้ว่าศิลปะไม่ใช่แต่เพียงการสร้างผลงานภาพวาดเท่านั้น ยังช่วยเยียวยารักษาจิตใจให้อ่อนโยนและเข้าถึงสัจธรรมของธรรมชาติได้อีกทางหนึ่งด้วย