posttoday

ศพจ๋า ขอหากินหน่อย

19 กุมภาพันธ์ 2555

Burke & Hare หนังตลกร้ายที่เล่าเรื่องราวจริงๆ ซึ่งเกิดขึ้นสมัยต้นศตวรรษที่ 19

โดย...ปณิตัส

Burke & Hare หนังตลกร้ายที่เล่าเรื่องราวจริงๆ ซึ่งเกิดขึ้นสมัยต้นศตวรรษที่ 19 ขณะที่การแพทย์ของสกอตแลนด์พยายามที่จะเปิดโลกแห่งการศึกษาค้นคว้าวิทยาการใหม่ๆ ขณะเดียวกันการนำร่างกายของมนุษย์มาใช้ในการศึกษาทางการแพทย์นั้น ก็ยังไม่เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางนัก ดังนั้นจึงต้องมีการหาร่างมนุษย์มาเพื่อทำการศึกษากล้ามเนื้อ เส้นเลือด และกายภาพด้วยวิธีต่างๆ นานา

นั่นจึงเป็นที่มาของตำนานเบิร์กและแฮร์อันเลื่องลือ ที่มีการนำไปสร้างเป็นหนังมาแล้วหลากหลายเวอร์ชัน สำหรับเรื่องนี้เป็นหนังตลกร้ายสไตล์อังกริ๊ด-อังกฤษ ที่แม้เรื่องราวจะเต็มไปด้วยด้านมืด

เปิดเรื่องมาแบบฮาๆ ด้วยการขึ้นไตเติลว่า...สร้างจากเรื่องจริง ยกเว้นก็แต่ตอนที่ไม่จริงเท่านั้น...อืม...เพชฌฆาตผู้มีหน้าที่แขวนคอนักโทษประหาร (บิล เบลีย์) มีบทบาทเป็นผู้เล่าเรื่องราวตำนานของเบิร์กและแฮร์แห่งเอดินเบอระห์...

ศพจ๋า ขอหากินหน่อย

เขาเล่าว่า บรรดาศพของนักโทษที่เขาแขวนคอนั้น มักจะถูกซื้อไปโดย ดร.โรเบิร์ต นอกซ์ (ทอม วิลคินสัน) เพื่อที่จะนำไปชำแหละเพื่อการศึกษา ขณะที่คู่แข่งของ ดร.โรเบิร์ต อย่าง ดร.อเล็กซานเดอร์ มอนโร (ทิม เคอร์รี) มักจะแย่งชิงไม่ทัน ต้องอาศัยการหั่นจากมนุษย์ที่ยังมีชีวิตเท่านั้น จนต้องส่งผู้ช่วยอย่าง ชาร์ลส์ ดาร์วิน (คริสเตียน บาสซิงตัน) ไปเฝ้า ณ จุดประหาร เพื่อที่จะได้ร่างกายมาทำการศึกษาทางการแพทย์กับเขามั่ง

ข่าวการขาดแคลนศพเพื่อการศึกษารู้ไปถึงหูของ วิลเลียม เบิร์ก (ไซมอน เป๊กก์) และวิลเลียม แฮร์ (แอนดี เซอร์คิส) ชาวไอริชอพยพ ที่นอกจากพยายามหาเงินหาทองมาเลี้ยงชีพตัวเองแล้ว วิลเลียม เบิร์ก ยังดันไปปิ๊งสาวสวยนัก (อยาก) แสดง จินนี ฮอว์คินส์ (อิสลา ฟิชเชอร์) เลยต้องการมีเงินมากๆ เพื่อจะลงหลักปักฐาน

สองวิลเลียมก็เลยตกลงปลงใจกันมองหา “ศพ” เพื่อที่จะนำไปขาย ดร.โรเบิร์ต นอกซ์ ซึ่งให้ราคางาม เมื่อหาคนตายแบบจะจะไม่ได้สักที พวกเขาจึงต้องสร้าง “สถานการณ์” ให้เกิดการตายขึ้น หรือเรียกว่าการ “ฆาตกรรม” นั่นแหละ...

ศพจ๋า ขอหากินหน่อย

มากมายหลายศพที่ต้องขึ้นบัญชีคนสาบสูญ กลายเป็นคดีสำคัญของตำรวจ หลังเวียนวนเข้ามาใน “สถานการณ์” ที่ วิลเลียม เบิร์ก และ แฮร์ สร้างขึ้น

กว่าจะสาวไปถึงตัว ดร.โรเบิร์ต เรื่อยเลยไปจนถึงฆาตกรทั้งคู่ คุณหมอคนเก่งก็ชำแหละร่างมนุษย์ให้การศึกษานักศึกษาแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยเอดินเบอระห์ได้มากมายหลายรุ่น แถมยังมีผลงานวิจัยเริ่ดๆ พร้อมภาพถ่ายโดยช่างภาพฝรั่งเศสเก็บเอาไว้ให้คนรุ่นหลังศึกษา

ขณะที่ วิลเลียน เบิร์ก ก็ออกทุนจัดละครให้จินนีได้อย่างยิ่งใหญ่ ส่วน วิลเลียม แฮร์ นั้น เปิดบริษัทรับจัดงานศพกับภรรยา “ลักกี” (เจสสิกา เฮนส์) ไปเป็นล่ำเป็นสันไปเรียบร้อยแล้ว

ศพจ๋า ขอหากินหน่อย

หลังจากทั้งหมดโดนรวบตัว วิลเลียม เบิร์ก ยอมรับสารภาพทั้งหมด และขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว เพื่อที่ทุกคนจะได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ...อย่างที่รู้กัน ขณะนี้โครงกระดูกของ วิลเลียม เบิร์ก จัดแสดงเพื่อการศึกษาอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของคณะแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยเอดินเบอระห์ หลังจากที่เขาถูกแขวนคอและส่งมาให้ ดร.อเล็กซานเดอร์ มอนโร ทำการศึกษาเมื่อสองศตวรรษก่อน

Burke & Hare เวอร์ชันปี 2010 ต่างจากเวอร์ชันเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังชื่อเดียวกัน เวอร์ชันปี 1971 ของ เบอร์นอน ซีล หรือจะเป็นเรื่องที่ดังมากๆ ในทศวรรษ 1950 The Body Snatcher ของ โรเบิร์ต ไวส์ ที่ล้วนทำออกมาเป็นแนวฟิล์มนัวร์ที่มืดหม่นมืดดำ แต่เวอร์ชันนี้มีแต่ความเวอร์และความฮาแบบอังกฤษแท้ๆ ที่สอดแทรกความฮาผ่านทั้งทางคำพูด และแอ็กติงแบบหลุดโลก ตั้งแต่ต้นเรื่องยันท้ายเรื่องไว้ดูแบบขำๆ ในวันที่เครียดๆ

ในบางอารมณ์เราก็ต้องการหนังแบบนี้บ้างเหมือนกันนะ (อิอิ)

 

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา