ผลวิจัยเผยหญิงสาวเดินส่ายก้น ส่งสัญญาณพร้อมสืบพันธุ์

ว่ากันว่าคนเรานั้นสามารถทายนิสัยกันได้จากท่าเดิน เช่น คนที่เดินก้มหน้าก้มตา

มักจะเป็นคนที่มีปมด้อยและเห็นคนอื่นเป็นศัตรูหมด หรือคนที่เดินชูศีรษะตรงคือคนที่เชื่อมั่นในตัวเองและมีอำนาจ

ล่าสุด นิโคลัส เกอร์เกน ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเบรอตาญซูด ของฝรั่งเศส ได้เปิดเผยผลการศึกษาสุดแปลกที่เล่นเอาสาวๆ ทั่วโลกถึงกับอึ้งกันไปเลย

เจ้าตัวเผยว่าหญิงสาวที่มีท่าเดิน “พลิ้วสะโพก” หรือการเดินแบบส่ายก้นนิดๆ บ่งชี้ว่าหญิงสาวผู้นั้นพร้อมที่จะมีความรัก หรือยิ่งไปกว่านั้นคือพร้อมที่จะมีลูก

จากการสังเกตการเดินของหญิงสาว 100 คน พบว่าหญิงที่พร้อมจะมีบุตร กล่าวคือ เป็นช่วงเวลาที่ไข่ตก หรือช่วงที่ร่างกายผู้หญิงพร้อมมีบุตรมากที่สุด มักจะเดินส่ายก้นนิดๆ

อาจารย์เกอร์เกนได้นำชายหนุ่มสุดหล่อมาพูดคุยกับหญิงสาวพร้อมชวนเดินเล่น โดยมีการบันทึกภาพบั้นท้ายของสาวๆ แต่ละคนขณะเดิน หลังจากนั้นได้ตรวจสอบร่างกายหญิงสาวแต่ละคนอย่างละเอียด ผลปรากฏว่าหญิงสาวที่ใช้เวลาเดินนานสุด และเดินส่ายก้น คือ กลุ่มที่ฮอร์โมนร่างกายอยู่ในระดับสูง

ทั้งนี้ อาจารย์เกอร์เกน เล่าว่า การเดินอย่างช้าๆ และการส่ายก้นเล็กน้อยจะช่วยให้หญิงสาวสวยและเซ็กซี่มากขึ้น ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วสิ่งนี้คือพฤติกรรมดึงดูดเพศตรงกันข้ามนั่นเอง โดยเป็นพฤติกรรมที่ผู้หญิงกระทำโดยไม่รู้ตัว

ชายหนุ่มที่สังเกตท่าเดินของหญิงสาวได้ให้คะแนนความเซ็กซี่หญิงที่เดินส่ายก้นมากถึง 2.9 คะแนน จากคะแนนเต็ม 5 โดยให้หญิงสาวที่เดินธรรมดาๆ เพียง 2.1 คะแนน

ขณะเดียวกันยังพบว่าช่วงที่ร่างกายหญิงสาวพร้อมมีบุตรจะไม่เพียงแต่ส่ายก้นเท่านั้น แต่ยังแสดงพฤติกรรมยั่วยวนอื่นๆ เช่น เล่นผม เอียงศีรษะเพื่อดูน่ารักน่าเอ็นดู และโน้มตัวเข้าใกล้ตัวผู้ชายมากยิ่งขึ้น

อาจารย์เกอร์เกน เผยว่า ผลการศึกษานี้เห็นได้ชัดจากกรณีของนักร้องสาวสุดเซ็กซี่อย่าง บียอนเซ โดยก่อนที่ บียอนเซ จะตั้งครรภ์ นักร้องสาวสุดสวยมีการเดินแบบส่ายสะโพกอย่างชัดเจน

ขณะที่นักแสดงและนักร้องเจ้าของฉายาบั้นท้ายดินระเบิดอย่าง เจนนิเฟอร์ โลเปซ ก็เป็นที่หลงใหลของชายหนุ่มทั่วโลก เพราะบั้นท้ายสุดเซ็กซี่นั่นเอง

แม้ผลการศึกษาของอาจารย์เกอร์เกนจะไม่ได้รับการรับรองจากนักวิทยาศาสตร์ ทว่าก็มีหลายฝ่ายออกมาสนับสนุนและให้ความสนใจค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาหญิงสาวทั่วโลกที่ต่างอึ้งทึ่งกับข้อมูลที่ถูกเปิดเผย

และผู้ที่ปลื้มสุดๆ ก็คงหนีไม่พ้นอาจารย์เกอร์เกน โดยเจ้าตัวนั้นเผยว่าดีใจที่มีคนสนใจงานวิจัยนี้ แต่ที่ดีใจสุดๆ ก็คงจะเป็นช่วงที่เก็บข้อมูล

เพราะวันๆ ได้นั่งชมบั้นท้ายสุดเซ็กซี่ของหญิงสาวมากถึง 100 คนนั่นเอง