Big Cleaning Day กับกิจกรรม 5 ส.

โดย...วิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม

โรงงานและสถานประกอบการที่ทำ 5 ส. จะคุ้นเคยกับวันที่ทำ “Big Cleaning Day” เพราะเป็นองค์ประกอบสำคัญ ซึ่งปกติจะทำกันปีละครั้ง

เมื่อ “เรา” ได้ร่วมกันทำ Big Cleaning Day แล้ว ความรู้สึกผูกพันกับโรงงาน สถานที่ทำงาน หรือบ้านพักอาศัย ก็ยิ่งจะมากขึ้น

เมื่อ “เรา” ได้ทำกิจกรรม 3 ส. ร่วมกันแล้ว (สะสาง สะดวก สะอาด) สุขลักษณะ (ส. ตัวที่ 4) ก็จะค่อยๆ เกิดขึ้น ยิ่งทำ 3 ส. แรกมาก สุขลักษณะก็จะยิ่งมากตามไปด้วย

ผลลัพธ์จะเกิดขึ้นทันตาเห็น สถานที่ทำงานจะดูโล่งโปร่งและกว้างขวางขึ้นอย่างผิดหูผิดตาไปเลย ความสกปรกหรือฝุ่นละอองก็หมดไป ความสะอาดก็เกิดขึ้น สุขอนามัยก็เกิดขึ้น

ทุกคนที่มีส่วนร่วมก็จะมีความรู้สึกผูกพันในสถานที่ทำงานใหม่นั้น เกิดความภาคภูมิใจอย่างเห็นได้ชัดเจน เพราะโรงงานหรือสภาพแวดล้อมน่าทำงานมากขึ้น บ้านก็น่าอยู่มากขึ้น

แต่ไม่ใช่ทำเพียง 3 ส. ครั้งเดียวเท่านั้นแล้วหยุดทำ เราจะต้องทำอย่างต่อเนื่อง พอเผลอหรือหยุดทำ ทุกอย่างก็จะรกเหมือนเดิม

เราจะต้องทำ 3 ส. กันอย่างสม่ำเสมอ ทำกันเป็นประจำอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็น “นิสัย” รักความเป็นระเบียบเรียบร้อย รักความสะอาดงามตา ดังนั้นจึงต้องทำเรื่อยไปอย่างเป็นระบบจนเคยชินติดเป็นนิสัย ซึ่งเป็น ส. ตัวที่ 5 คือ “สร้างนิสัย” ติดตัวให้ได้

โดยสรุปก็คือ เริ่มจากการกำหนดวัน Big Cleaning Day เพื่อทำ 3 ส. (สะสาง สะดวก สะอาด) จากนั้นจะเกิดสุขลักษณะ และทำกันจนเป็นนิสัยก็จะได้ “5 ส.” ครบถ้วน

ที่ทำงานหรือโรงงานที่ทำกิจกรรม 5 ส. แล้ว ใครเห็นใครก็ชื่นชม ยิ่งมีคนชื่นชม พนักงานก็ยิ่งจะภาคภูมิใจ ก็ยิ่งร่วมมือร่วมทำกันใหญ่ ประสิทธิภาพและคุณภาพขององค์กรก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้น การทำ “กิจกรรม 5 ส.” จึงมีแต่ได้กับได้เท่านั้น

เราจะต้องลงมือทำ แล้วจะรู้ว่า 5 ส. ดีอย่างไร จะรู้ว่า 5 ส. ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางสร้างสรรค์อย่างไรบ้าง

5 ส. จึงเป็นเรื่องที่ใครทำใครได้โดยแท้

เมื่อเราได้ เราดีขึ้น องค์กรโดยรวมก็ดีขึ้น สภาพที่ทำงาน สภาพแวดล้อมและบรรยากาศต่างๆ ก็จะดูดีขึ้น และดีขึ้นอย่างมากจริงๆ ด้วย (เมื่อทำครั้งแรก)

เมื่อทุกคนมีส่วนร่วม ทุกคนก็จะทำงานกันอย่างมีความสุข รักหมู่คณะและรักองค์กร

กิจกรรม 5 ส. จึงเป็นพื้นฐานของการปรับปรุงสถานที่ทำงานและสร้างคุณภาพ ทั้งแก่ตัวพนักงานและองค์กรโดยรวม จึงเป็นกิจกรรมที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงการปฏิรูปอย่างทันตาเห็น

ในทางปฏิบัติแล้ว การที่จะสร้างคุณภาพในตัวสินค้าหรืองานบริการได้นั้น มักจะต้องอาศัย “พนักงานที่มีคุณภาพ”

พนักงานที่มีคุณภาพ คือ พนักงานที่มีความรับผิดชอบในหน้าที่การงาน พนักงานที่มีระเบียบวินัย พนักงานที่หมั่นศึกษาเรียนรู้ในงานที่ทำ พนักงานที่สามารถปรับปรุงแก้ไขอย่างต่อเนื่องได้เองจากการเรียนรู้และจากประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น พนักงานที่ไม่ทำผิดพลาดซ้ำซาก จนสามารถ “ทำงานได้อย่างถูกต้องตั้งแต่แรกเริ่ม”

ดังนั้น การพัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพจึงเป็นพื้นฐานที่สำคัญยิ่งของความอยู่รอดของทุกองค์กร

การพัฒนาองค์กรและการปรับปรุงคุณภาพจึงควรเริ่มจากเรื่องที่ทำได้ง่ายๆ ก่อน โดยเริ่มกันตั้งแต่พื้นฐานระดับเบื้องต้นเลย คือ “ต้องคืนสู่สามัญ” ก่อน เพื่อจะก้าวหน้าและพัฒนาต่อไปได้

วิธีการที่ง่ายที่สุดและทรงพลังอย่างยิ่งก็คือ การปฏิรูปสถานที่ทำงานและการพัฒนาคุณภาพด้วยกิจกรรม 5 ส. เพื่อเพิ่มทั้งประสิทธิภาพและคุณภาพของบุคลากรและองค์กรไปพร้อมๆ กัน

กิจกรรม 5 ส. สามารถทำได้ทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย โรงงาน สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร โกดัง สถานที่ราชการ สถานีตำรวจ เป็นต้น

กิจกรรม 5 ส. เป็นเรื่องที่สามารถเริ่มต้นที่ทุกคนในองค์กร และสามารถทำได้ทันทีเลย ทำเมื่อใดก็เห็นการเปลี่ยนแปลงเมื่อนั้น ทำปุ๊บเห็นผลปั๊บ และได้ประโยชน์อานิสงส์ต่างๆ ตามมามากมายเกินคาด

ความสำเร็จทั้งหลายทั้งปวงอยู่ที่การทำ 5 ส. อย่างยืนหยัดและต่อเนื่องครับผม!