เบอร์เกอร์ไม่ธรรมดา อร่อยแรงงงงส์แซงโค้ง
ฟาสต์ฟู้ดยอดฮิตไม่มีใครเกิน เห็นจะไม่มีใครเกิน “แฮมเบอร์เกอร์” ไปได้
ฟาสต์ฟู้ดยอดฮิตไม่มีใครเกิน เห็นจะไม่มีใครเกิน “แฮมเบอร์เกอร์” ไปได้
โดย..ปณิฏา สุรรรณปาล
แฮมเบอร์เกอร์จัดเป็นแซนด์วิชชนิดหนึ่ง ลักษณะก็คือ มีเนื้อ มีผัก มีชีส หรืออื่นๆ ที่เรียกว่าไส้อยู่ตรงกลาง ประกบล่างบนด้วยขนมปังที่เรียกว่า “บัน” (Bun)
ที่เห็นโดยทั่วไปนั้น แฮมเบอร์เกอร์มักจะใช้เนื้อวัวสับปั้นเป็นก้อนๆ โดยมักจะเสิร์ฟคู่กับผักกาด เบคอน มะเขือเทศ แตงกวาดอง ชีสแผ่น หัวหอมใหญ่ พร้อมทั้งซอสอย่างมัสตาร์ด มายองเนส เคตชัป หรือซอสพริก
เชื่อกันว่าแรกเริ่มเดิมที แฮมเบอร์เกอร์มาจากชื่อเมืองในเยอรมนีอย่าง ฮัมบูร์ก อันเป็นเมืองใหญ่ที่มีผู้อพยพมาลงรากปักฐานในสหรัฐอเมริกามากมาย พอมาอยู่ในดินแดนใหม่ก็ไม่วายนำเอาอาหารสุดโปรดติดตัวมาด้วย โดยก่อนที่จะมาเป็นแฮมเบอร์เกอร์ในรูปแบบแซนด์วิชเช่นทุกวันนี้ ก็เริ่มมาจากเนื้อสเต๊กแฮมเบิร์กที่ใช้เนื้อวัวคุณภาพต่ำ ผสมผสานกับเครื่องเทศท้องถิ่น คลุกเคล้ารวมกันปั้นเป็นก้อน ซึ่งในปัจจุบันที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนีนั้น ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าแฮมเบิร์กสเต๊กอีกต่อไปแล้ว แต่เปลี่ยนไปเรียกว่า ฟริกคาเดล หรือบุลเลตต์ แทน
สำหรับที่อเมริกา ร้านอาหารที่เป็นเชนฟาสต์ฟู้ดระดับโลก 2 เจ้า ยังคงอ้างว่าตัวเองเป็นผู้นำเอาเจ้าแฮมเบิร์กสเต๊กมายัดใส่ขนมปัง และเรียกว่า แฮมเบอร์เกอร์ ได้แก่ แมคโดนัลด์ กับ แดรี่ควีน เช่นเดียวกับร้านขายมีตบอลในเมืองเล็กๆ อย่างเมืองซีย์มอร์ ในรัฐวิสคอนซิน ก็อ้างเหมือนกันว่า แฮมเบอร์เกอร์ ชาร์ลี ของพวกเขานั้น มีมาก่อนใคร
จะยังไงก็แล้วแต่ แฮมเบอร์เกอร์กลายเป็นฟาสต์ฟู้ดที่คิดค้นโดยชาวอเมริกันที่โด่งดังไปในระดับโลกก็แล้วกัน ทว่าชื่อเสียงที่ขจรขจายมิใช่เพียงในด้านดี แฮมเบอร์เกอร์ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในประเภท “จังก์ฟู้ด” หรือ “อาหารขยะ” น่ากลัวว่าจะเป็นอาหารจานด่วนที่ให้แต่ความอิ่มอร่อย แต่อาจมีโทษมหันต์ เนื่องจากบรรจุเอาไว้ด้วยแคลอรีและไขมันทรานส์ อันเป็นต้นเหตุของโรคร้ายจำนวนมาก ทำเอาคนรักสุขภาพหลายคนถึงกับขยาด ต้องพาตัวหลีกห่างไปไกลๆ ทีเดียว
กระนั้นก็ใช่ว่าแฮมเบอร์เกอร์จะต้องกลายเป็นอาหารขยะไปเสียทั้งหมด ตอนนี้มีร้านแฮมเบอร์เกอร์น้องใหม่ เฮฟเว่น (Heawen) เพิ่งเปิดตัวที่คอมมูนิตีมอลล์ดัง เควิลเลจ (K Village) พร้อมออกมาประกาศตัวว่าเป็น “ฟาสต์ฟู้ดที่ไม่ใช่จังก์ฟู้ด”
เฮฟเว่น เบอร์เกอร์ เกิดจากประสบการณ์ด้านอาหารของเชฟเดชา มิ่งขวัญ Executive Chef โรงแรมสยามแอ็ทสยาม ดีไซน์ โฮเต็ล แอนด์ สปา เชฟใหญ่วัย 30 ต้นๆ ประสบความสำเร็จในการทำแฮมเบอร์เกอร์รสชาติแบบไทยๆ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากที่เมืองออสเตนเด ประเทศเบลเยียมมาแล้ว
ไอเดียของเขา คือ การประยุกต์เครื่องเทศแบบไทยๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการปรุงรสชาติของเนื้อเบอร์เกอร์ ซึ่งแน่นอนว่าทำให้ได้รสชาติจัดจ้านในสไตล์แบบไทย นอกจากต่างชาติจะชื่นชอบแล้ว สำหรับคนไทยก็เป็นรสชาติที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นรสลาบ พะแนง แกงเขียวหวาน มัสมั่น หรือรสยำ นำมาปรุงแต่งผสมกับเนื้อแกะ เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ และเนื้อปลา รังสรรค์เป็นแฮมเบอร์เกอร์รูปแบบใหม่
“เบอร์เกอร์ของเราจะมีอยู่ 6 รสหลักๆ ก็คือ โคขุนคลาสสิก ที่เราใช้เนื้อโคขุนโพนยางคำผสมกับเนื้อวางุ ซึ่งทำให้เทกซ์เจอร์ของเนื้อค่อนข้างแรง คือปกติเบอร์เกอร์ส่วนใหญ่จะไม่ใช้เนื้อที่ดีๆ กันสักเท่าไหร่ มักจะใช้เศษเนื้อผสมกับมันหมูครับ แต่สำหรับที่นี่เนื้อคือเนื้อจริงๆ เลย เราไม่ใส่มันหมู ใช้แต่มันของเนื้อที่มีอยู่นั่นแหละ”
เชฟเดชา เล่าต่อว่า นอกจากรสชาติคลาสสิกแล้ว ยังมีรสชาติแบบไทยๆ ที่อยากนำเสนอที่เฮฟเว่น เช่น ลาบแลมบ์เบอร์เกอร์ พะแนงเนื้อเบอร์เกอร์ เขียวหวานไก่เบอร์เกอร์ มัสมั่นหมูเบอร์เกอร์ และยำปลาเบอร์เกอร์
“สำหรับลาบแลมบ์นี่ ปกติแลมบ์หรือแกะจะมีกลิ่นเฉพาะตัวของมันนิดนึง พอเราไปใส่เครื่องเทศเข้าไปก็ช่วยกลบกลิ่นได้ ซึ่งเราใช้แลมบ์คุณภาพของออสเตรเลีย ส่วนพะแนงเนื้อ เราก็ใช้เนื้อโคขุนโพนยางคำเหมือนกันครับ มาถึงเขียวหวานไก่ ผมเลือกไก่คอร์นเฟด (CornFed) ซึ่งค่อนข้างคุณภาพดี พอร์กมัสมั่น ก็เลือกหมูดำคุโรบุตะ (Kurobuta Pork) ส่วนยำปลาก็เป็นไฮไลต์เหมือนกันครับ เราใช้ปลาแบล็กค็อด ที่เป็นเนื้อปลาที่คนไทยน่าจะชอบ เพราะว่ามีความมันอยู่ในตัว เอาไปทอดแล้วยำ กรอบนอกนุ่มใน”
เชฟเดชา กล้าโฆษณาว่าฟาสต์ฟู้ดของเฮฟเว่นไม่ใช่จังก์ฟู้ดแน่นอน “เราใส่ใจเรื่องคุณค่าทางโภชนาการกับน้ำหนักของเนื้อเบอร์เกอร์ต่อชิ้น 100 กรัม ซึ่งเนื้อที่เราใช้มีจำนวนแคลอรีเพียง 200 แคลอรีเท่านั้น สามารถเผาผลาญได้ในเวลา 2 ชั่วโมงครับ อย่างลาบแลมบ์น้ำหนัก 100 กรัม เราใช้เนื้อส่วนขา จึงทำให้มีไขมันน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ
แล้วก็เบอร์เกอร์ของเราจะทำสดชิ้นต่อชิ้น ไม่แช่แข็ง แต่ละชิ้นจะไม่เหมือนกันเลย เพราะอาศัยการปั้นมือ มีชิ้นเดียวในโลก ไม่ได้ใช้เครื่อง ไม่มีบอกซ์ ผมเลยตั้งชื่อว่า ฟอร์เบอร์เกอร์ เดวิล คือสำหรับคนที่คลั่งไคล้การกินเบอร์เกอร์จริงๆ”
เพื่อตอกย้ำการเป็นฟาสต์ฟู้ด แต่เน้นเสิร์ฟอาหารที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ นอกจากแฮมเบอร์เกอร์ที่เลือกใช้แต่วัตถุดิบระดับพรีเมียมแล้ว ยังใช้น้ำมันที่สกัดจากถั่วซึ่งมีคอเลสเตอรอลต่ำ มีเมนูสลัด (Salad by Heawen) นอกจากนี้ เครื่องดื่มต่างๆ ที่มีส่วนผสมของนม ทางร้านได้เปลี่ยนเป็นนมถั่วเหลืองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกาแฟเย็น คาปูชิโน หรือแม้แต่ชาไทยใส่นมก็ตาม
พิเศษ! ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 11.00–15.00 น. ที่ร้านเฮฟเว่น เควิลเลจ เบอร์เกอร์ทุกอย่างชิ้นละ 45 บาท น้ำอัดลมแค่ 10 บาท
ใครอยากไปชิมแฮมเบอร์เกอร์รสชาติไทยๆ อร่อยแบบไร้ทรานส์แฟต ก็ไปกันได้ที่โซน A ชั้น 2 เควิลเลจ ถนนพระราม 4 เปิดวันอังคารอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 10.00-22.00 น. หรือไปลิ้มรสได้ที่ห้องอาหารปาร์ตี้ เฮาส์ วัน โรงแรมสยามแอ็ทสยาม ดีไซน์ โฮเต็ล แอนด์ สปา ก็ได้


