posttoday

สายลับจับแก๊งซิ่ง(ตัวป่วน)

06 ตุลาคม 2554

เรื่องมันเริ่มต้นด้วยความสนุกและลุ้นระทึก เมื่อจารชนชาวอังกฤษปรากฏตัวขึ้น พร้อมปฏิบัติการบุกถิ่นเสือ

โดย...วิชช์ญะ ยุติ

เรื่องมันเริ่มต้นด้วยความสนุกและลุ้นระทึก เมื่อจารชนชาวอังกฤษปรากฏตัวขึ้น พร้อมปฏิบัติการบุกถิ่นเสือ เพื่อเข้าไปสืบหาความจริง ณ แท่นขุดเจาะน้ำมัน อันมีบุคคลลึกลับเป็นผู้ครอบครอง

จากนั้นนาทีถัดไปทุกสิ่งอย่างก็กลายเป็นฉากแอ็กชันมันส์โคตรระหว่างจารชนคนเก่งและทีมสังหารฝ่ายอธรรม เรียกว่าไม่ต่างกับการไล่ล่าแบบที่เห็นในหนังสายลับตระกูล James Bond, Mission Impossible, The Bourne แล้วยังผสมลีลาซิ่งเดนตายเหมือน Fast & Furious เด๊ะเลย

แฟนๆ ของ Cars น่าจะถูกใจในภาคใหม่นี้ แม้ว่าพล็อตจะหลุดออกนอกสนามแข่งมากหน่อย แต่การเพิ่มตัวละครสายลับ “ฟินน์” กับ “ฮอลลี” รวมถึงดึงฉากแอ็กชันระดับเทพมาใส่ ก็ช่วยให้ Cars 2 ดูมีอะไรชวนติดตามกว่าการซิ่งรถ อย่างน้อยๆ คนดูก็ได้ร่วมลุ้นภารกิจสายลับจำเป็นของรถลากบุโรทั่ง “เมเทอร์” ที่จับพลัดจับผลูดันเข้าไปมีเอี่ยวกับการค้นหาความจริงโดยมิทันตั้งตัวและตั้งใจ

สายลับจับแก๊งซิ่ง(ตัวป่วน)

 ดูเหมือน Cars 2 บทเด่นจะตกอยู่ที่เมเทอร์อย่างช่วยไม่ได้ ขณะที่พระเอกสุดหล่อ “ไลท์นิง แม็คควีน” เป็นเพียงตัวละครหลักที่ไม่มีบทบาทอะไรนอกเหนือจากการเป็นเพื่อนซี้ของเมเทอร์ และนักแข่งรถผู้เกรียงไกร ซึ่งไม่เคยหลงลืมตัวตนว่ามาจากบ้านนอก---เรดิโอสปริงส์

ส่วนตัวละครรถหรูอิตาเลียน “ฟรานเซสโก” ก็เป็นแค่สีสันแวบๆ ที่หนังพยายามดึงดูดเพื่อไม่ให้อารมณ์การแข่งขันในสนามจืดชืด ซึ่งจะว่าไปตัวละครตัวนี้ก็แสดงถึงคนที่มีความฝัน แต่ดันมาตายเพราะความโอหัง หยิ่งผยอง และพร้อมจะเหยียบย่ำให้คนอื่นจมดิน เพียงแค่ถ้อยคำเหน็บแหนม

อีก 2 คันที่มีบทบาทสำคัญที่ทำให้ Cars 2 ครบสูตรการเป็นการ์ตูนสายลับสมบูรณ์แบบ นั่นคือ ฟินน์กับฮอลลี หลายๆ ฉากทั้งคู่ขโมยซีนไปอย่างหน้าตาเฉย ตั้งแต่เปิดเรื่องยันปิดเรื่อง ยิ่งเฉพาะการไล่ล่าจับตัวแก๊งตัวแสบที่เข้ามาป่วนการแข่งขันเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ถือว่าน่าสนใจและเวอร์ระเบิดระเบ้อซะจริงๆ

สายลับจับแก๊งซิ่ง(ตัวป่วน)

 ความสนุก-ความมันส์ ท้าทายคนดูด้วยฉากที่ไม่คาดคิดว่าจะเห็นในการ์ตูน ฟินน์ ฮอลลี และเมเทอร์ ปะทะกับแก๊งป่วนได้สมราคา (คุย) อุปกรณ์สุดไฮเทค มันสมองอันปราดเปรื่อง หลอมรวมเป็นขุมพลังแกร่งกล้าที่พวกเขาร่วมแรงใจจนสามารถปราบเหล่าร้ายได้ ซึ่งคีย์เวิร์ดของปฏิบัติการภารกิจนี้ ไม่ใช่แค่คำว่า “ชนะ” แต่มันคือ “มิตรภาพ” ที่เกิดขึ้นระหว่างทาง ทั้งจากเพื่อนใหม่และเพื่อนซี้นั่นต่างหาก

สำหรับเมเทอร์นั้น ความเป็นรถบุโรทั่ง เชื่องช้าอืดเอื่อย ไม่พอยังโดนหาว่าซื่อบื้อจากคนรอบข้าง แต่นั่นในสายตาของสายลับอย่างฟินน์กับฮอลลี “ความแก่คือความเก๋า” “ความเชื่องช้าคือการมีสติ” “ความซื่อบื้อคือความจริงใจ”

เช่นเดียวกัน เมเทอร์ในสายตาของเพื่อนซี้ ไลท์นิง แม็คควีน เขาก็ไม่มีวันแปรเป็นอื่นใดได้หรอก แม้ตลอดเวลาทั้งคู่จะโกรธเคือง แง่งอน หรือทะเลาะกันอยู่ไม่เว้นวัน แต่คำว่า “เพื่อนยาก” กับ “เพื่อนตาย” ได้เข้าไปสิงสถิตในหัวใจทั้งคู่เรียบร้อย

ประโยคหนึ่งที่หนังว่าไว้ให้ชวนขบคิด “เพื่อนกัน ด่ากัน ทะเลาะกัน เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเรื่องไหนด่ากัน ทะเลาะกันแล้ว นำมาซึ่งการบั่นทอนความสัมพันธ์ระว่างเพื่อน ก็ควรรีบเคลียร์โดยพลัน อย่าปล่อยให้มันคาราคาซัง”

แต่ที่ซึ้งกินใจเชิงสัญลักษณ์ก็คือ “รอยแผลในตัวเรา” เมเทอร์มองว่ามันคือความสวยงามดั่งงานศิลป์ เป็นความทรงจำดีๆ ที่แต่ละคนเจอมาในช่วงชีวิตหนึ่ง อาจเป็นรอยแผลลึกตื้นบางหนามากน้อยไม่เท่ากัน และก็อาจเป็นรอยแผลเป็นที่เกิดจากเพื่อนซี้ที่ (ยัง) ติดตัวจนวันนี้ ซึ่งมันควรค่าแก่การเก็บเอาไว้ตราบนาน

 

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ คริสตัล พาเลซ คาราบาวคัพ วันนี้