ใส่ความหวานลงในงานออกแบบ พิชพิมพ์ ปัทมสัตยาสนธิ
จากโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์เล็กๆ ที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ ค.ศ. 1973 ปัจจุบัน “อินเด็กซ์ ลิฟวิ่ง มอลล์”
จากโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์เล็กๆ ที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ ค.ศ. 1973 ปัจจุบัน “อินเด็กซ์ ลิฟวิ่ง มอลล์”
โดย.. วราภรณ์
จากโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์เล็กๆ ที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ ค.ศ. 1973 ปัจจุบัน “อินเด็กซ์ ลิฟวิ่ง มอลล์” ขยายใหญ่สู่อาณาจักรศูนย์ตกแต่งบ้านครบวงจรของเมืองไทย แถมยังขยายสาขาไปต่างประเทศ เช่น จีน มีสาขาแฟรนไชส์ที่ดูไบ และอีกหลายๆ ประเทศทั่วโลก มูลค่าธุรกิจนับรวมหลายพันล้านบาท ความเจริญเติบโตนี้มาจากการมีวิสัยทัศน์ของผู้เป็นพ่อ พิศิษฐ์ ปัทมสัตยาสนธิ และคุณแม่ ขันทอง อุดมมหัสติสุข
ปัจจุบันเจเนอเรชันที่ 2 ได้เข้ามาช่วยสานต่อธุรกิจแล้ว 1 ในนั้นคือทายาทสาวคนสวย จินนาพิชพิมพ์ ปัทมสัตยาสนธิ เข้ามาช่วยบริหาร อินเด็กซ์ ลิฟวิ่ง มอลล์ แล้ว โดยเธอรั้งตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพราะค่าที่ศึกษาจบจากคณะสถาปัตยกรรม สาขาออกแบบตกแต่งภายใน จากสถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง แล้วบินไปศึกษาต่อบริหารธุรกิจ ที่ California State University, Long Beach สหรัฐอเมริกา จากนั้นกลับมาพัฒนาอินเด็กซ์โดยดูด้านเทรนด์เฟอร์นิเจอร์และงานออกแบบเป็นหลัก
“ด้วยตำแหน่งดิฉันก็ดูแลทั้งสองส่วนคือ เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน เราต้องพัฒนาให้ของทั้งสองสามารถนำมาใช้และตกแต่งรวมกันได้ นับเป็นจุดแข็งของเรา คือเมื่อลูกค้าเข้ามาดูเฟอร์นิเจอร์ก็สามารถซื้อของตกแต่งบ้านไปด้วยเลย เราจะทำหน้าที่ดูแลภาพรวมทั้งหมด เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านก็จะช่วยทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวามากขึ้น เราต้องการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดในด้านการตกแต่งบ้าน”
แม้ดูแลด้านการออกแบบ รวมทั้งเทรนด์ในการแต่งบ้านเป็นหลัก แต่เธอก็มีทีมนักออกแบบช่วยสร้างฝัน บางครั้งเธอก็นั่งดรออิงถึงเตียงในฝันเอง โดยยึดงานที่มีรายละเอียดในการออกแบบเป็นหลัก
“งานด้านการออกแบบ เรามีทีมงานที่เป็นนักออกแบบทั้งต่างประเทศและในประเทศรวม 30 คน ช่วยกันออกแบบ ดิฉันจะมีหน้าที่เป็นคนวางแผนสินค้าในแต่ละคอลเลกชันมีอะไรบ้าง กำหนดวัสดุที่ใช้ มีกี่สี กี่แบบ เทรนด์สีอะไรมาแรง ทีมงานก็จะรับโจทย์และไปออกแบบมา ตอนที่ดิฉันเข้ามาเราตั้งใจที่จะพัฒนาดีไซน์สินค้าหลายๆ ชิ้นให้เทรนดี้ขึ้น เมื่อทีมออกแบบเสร็จ เราก็ตรวจดูแบบ ทั้งเรื่องประโยชน์ใช้สอย ดีไซน์ จนถึงการส่งเข้าไปผลิตในโรงงานที่เต็มไปด้วยความพิถีพิถัน เรื่องเฟอร์นิเจอร์ต้องใช้เวลาในการพัฒนา คนทั่วไปจะเห็นภาพชัดเจนเมื่อประมาณปีที่ผ่านมาในด้านการออกแบบเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน นับว่าเราได้รับฟีดแบ็กค่อนข้างดี ลูกค้าทักเยอะว่าอินเด็กซ์เปลี่ยนไป ถึงขนาดลูกค้าแซวว่าอินเด็กซ์เปลี่ยนผู้บริหารทั้งทีมหรือเปล่า สินค้าดูทันสมัยมากขึ้น เราก็บอกว่า เราพยายามปรับและพยายามสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ให้ลูกค้ามากกว่า”
ในฐานะดูแลด้านการออกแบบและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ บางครั้ง ผู้บริหารคนนี้ก็ลงมือออกแบบเฟอร์นิเจอร์ด้วย อย่างคอลเลกชันล่าสุด ที่ใส่แนวคิดความเป็นผู้หญิงลงไปเต็มเปี่ยม เฟอร์นิเจอร์เช่นเตียงจึงออกมาสีหวาน น่านอน และชวนฝัน
“บางครั้งดิฉันไปท่องเที่ยวหรือดูงานต่างประเทศ ได้แรงบันดาลใจอะไรมาก็จะแชร์กันในทีมงาน หรืออารมณ์ประมาณนี้ หรือมีสินค้าบางชิ้น ที่ดิฉันออกแบบเอง บางชิ้นงานดิฉันสเกตช์ภาพเองบ้าง อย่างเตียงบุผ้าสีฟ้าๆ แนวคิดได้มาจาก โรแมนติก เซนเซชัน เป็นแบบที่ตอนนี้ตลาดกำลังฮิต แนวโรแมนติกนิดๆ มีกลิ่นอายยุโรป เราตามเทรนด์อยู่แล้ว และเรานำเสนอเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมในต่างประเทศ เราคิดว่าในตลาดเมืองไทยไม่ค่อยได้ใช้เตียงที่มีลวดลาย คล้ายเครื่องประดับชิ้นหนึ่ง ได้อารมณ์เหมือนไม่ใช่เฟอร์นิเจอร์ แต่เป็นเครื่องประดับชิ้นหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องมีผ้าม่าน มีเตียงหลังนี้หลังเดียว ห้องสวยเลย หัวเตียงจะอลังการ ดิฉันจะชอบงานที่ดูแล้วไม่เหมือนที่อื่น เพราะเป็นคนชอบงานดีไซน์ ผลงานของตัวเองที่ออกแบบมาก็มีรายละเอียดเล็กๆ น่ารักๆ ถือเป็นสีสันของชีวิต”
หลักคิดของนักออกแบบและสร้างสรรค์ เธอมีแนวคิดคือ การทำงานอิงกับลูกค้าเป็นหลัก ศึกษาว่าลูกค้ากำลังมองหาอะไร
“ก่อนออกแบบสินค้าเราต้องทำการวิเคราะห์ตลาดและออกแบบ นำเสนอสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า แต่ลูกค้าคนไทยจะรู้ข้อมูลว่าเมืองนอกฮิตอะไรในช่วงนี้ได้ช้ากว่า เราจึงทำหน้าที่นำเสนอเทรนด์ คอยจัดร้านให้ดูน่าสนใจ สำหรับเทรนด์การจัดแต่งห้องนอนที่นิยมกันอยู่ในปัจจุบัน คือ ผสมผสานทุกอย่างต้องมิกซ์แอนด์แมตช์กัน และได้รับความนิยมอย่างมาก เช่น แนวเก้าอี้สแกนดิเนเวียน แต่เตียงแนวโรแมนติก จะช่วยให้ห้องดูมีเสน่ห์ มีลูกเล่น ทำให้เราอยู่บ้านแล้วไม่เบื่อ ลูกค้าเวลาเข้ามาที่ร้านเราจะพาเดินดู มีมัณฑนากรช่วยลูกค้าเลือกเฟอร์นิเจอร์ ทำให้ลูกค้าตัดสินใจในการซื้อได้ง่ายขึ้น”
สำหรับวิธีหาแรงบันดาลใจในการออกแบบ นับเป็นสิ่งสำคัญมากในการหาแนวคิดใหม่ๆ ในการออกแบบ ทุกสิ่งล้วนมาจากการเดินทาง
“ดิฉันชอบเดินเที่ยว ชอบเดินไปตามตลาดเก่าๆ เพราะชอบดู ชอบเห็นแนวคิดที่แตกต่างจากสิ่งที่เราเห็นในชีวิตประจำวัน ดิฉันเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ดิฉันชอบไปทางฝั่งอเมริกา และฝั่งยุโรป เช่น ฝรั่งเศส กับอิตาลี มีซอกซอย เมืองเก่ามีสถานที่ท่องเที่ยว แค่ร้านขายของเก่าข้างทางก็มีงานออกแบบที่น่าทึ่ง สามารถนำมาเป็นแรงบันดาลใจ หรือเป็นแนวทางการตกแต่งร้านได้”
5 แรงบันดาลใจสร้างสรรค์งานออกแบบ
แก้ว : ดิฉันชอบงานออกแบบ โดยเฉพาะของแต่งบ้านชิ้นเล็กๆ ถ้าเจอแล้วต้องซื้อ อย่างทริปล่าสุดไปเที่ยวอเมริกา เดินเข้าไปในร้านขายของเก่า มีมุมหนึ่งขายของแต่งบ้านมุมเล็กๆ ก็เห็นแก้วสไตล์วินเทจ เห็นแล้วชอบมาก เพราะลวดลายของแก้วเซรามิกจะมีลายละเอียดลายเส้นเล็กๆ สีสันสดใสมาก เป็นงานฝีมือ รูปทรงของแก้วแค่ปั้นก็ยากแล้ว เห็นปุ๊บต้องรีบซื้อกลับมา
จาน : เป็นลายแบบนูนต่ำ ชอบไปซื้อของแต่งบ้านอย่างพวกจาน ชาม มาเก็บไว้ เห็นอะไรที่เป็นงานย้อนยุคจะซื้อหมด เซตนี้มาจากอเมริกาเหมือนกัน แก้วจะออกหวานๆ แต่จานออกแนววิกตอเรียน เป็นรูปแมลงทับ ไม่เคยเห็นลายนี้เลย
สร้อย : เป็นของที่ระลึกที่คุณแม่ให้ตอนเราอายุ 15 ปี เป็นทองซึ่งเป็นของเก่าที่คุณแม่เก็บมานาน 40 ปีแล้ว ท่านซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงของคุณแม่เอง สร้อยชิ้นนี้เป็นงานที่ละเอียดมาก เป็นลูกตุ้มย่านลิเภาเป็นงานฝีมือของช่างทองไทย
แหวน : ดิฉันสนิทกับอาม่า ปีนี้ท่านอายุ 83 ปี อาม่าให้เป็นของขวัญตอนศึกษาจบปริญญาตรี เป็นงานฝีมือของคนจีนที่ฝีมือดีมากๆ เป็นแหวนที่อาม่าเก็บไว้ตั้งแต่อาม่ามาจากเมืองจีน ในฐานะที่เราเป็นหลานโตรุ่นแรกๆ สิ่งที่ประทับใจคือ อาม่าให้ของที่มีค่ากับเรา แหวนเป็นรูปมังกรซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อน ดูแล้วแปลกตา
ผลงานออกแบบ : เตียงหลังนี้เป็นผลงานออกแบบของตัวเอง อยากให้ช่างทำเตียงสไตล์โรแมนติก เซนเซชัน ซึ่งเป็นเฟอร์นิเจอร์อีกแนวที่กำลังได้รับความนิยม โรแมนติกนิดๆ มีกลิ่นอายยุโรป ถ้าตั้งในห้องก็จะกลายเป็นเครื่องประดับห้องอีกชิ้นหนึ่งไปเลย


