ดินแดนแห่งพันธสัญญา
ภายใต้ปัญหาที่กดดัน เพียงแค่ทำให้ผู้คนมีความหวัง เพียงแค่ช่วยให้เขามองเห็นถึงอนาคต ก็หมายถึงการรักษาศรัทธา
ภายใต้ปัญหาที่กดดัน เพียงแค่ทำให้ผู้คนมีความหวัง เพียงแค่ช่วยให้เขามองเห็นถึงอนาคต ก็หมายถึงการรักษาศรัทธา
โดย...อภิวัจ สุปรีชาวุฒิพงศ์
กิ่งไม้กองท่วมสูงรอบบริเวณบ้าน นานแล้ว ที่ผมปล่อยปละละเลย ไม่ตัดแต่ง ซึ่งผลพวงก็ทำให้ต้องเหนื่อยสายตัวแทบขาด ตัดแต่งต้นไม้นับสิบต้น ซ้ำยังต้องลากต้องขนไปทิ้งอีก
การมีบ้านเป็นภาระหนัก ใช่เพียงกับการผ่อนจ่ายรายเดือน แต่ยังรวมถึงการดูแล ซึ่งต้องใช้ความใส่ใจไม่น้อย
ผมคิดถึงห้องพักเล็กๆ ที่เคยอยู่อาศัยเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน แรกเริ่มก็มีเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นอยู่ครบ พร้อมกับหนังสือร่วม 200 เล่ม และคาสเซตเพลงอีกพอๆ กัน ณ ขณะนั้น เสมือนโลกทั้งใบ เรียงรายอยู่รอบตัว
แต่ผ่านไปนับขวบปี กองหนังสือที่สูงขึ้นแบบไม่ทันรู้ตัว ทำให้ต้องหาชั้นหนังสือเข้ามาเพิ่ม เพื่อจัดเก็บให้เป็นที่ทางเฉพาะ มิให้กองก่ายเกลื่อนไปทั่วห้อง ซึ่งทำให้ห้องซึ่งคับแคบอยู่แล้ว แทบไม่เหลือที่ว่าง มุมดีๆ สำหรับทำงานอย่างอื่น
ในที่สุดผมบอกให้เจ้าของห้องเช่ารื้อเตียงออกไป และให้ผ้านวมปูพื้นเป็นที่ซุกตัวนอนแทน ตื่นขึ้นมาก็พับผ้านวมเก็บเข้าตู้เสื้อผ้า ก็ช่วยให้พอมีที่ว่างสำหรับอย่างอื่นได้บ้าง
จวบจนมีงานทำ ผมเริ่มคิดถึงที่ทางสักแห่ง “บ้าน” ในความคิดของผม จึงเสมือนดินแดนแห่งพันธสัญญา ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าประทานมาให้
และแน่นอน ผมเองก็มีภาระในการดูแลดินแดนแห่งพันธสัญญาที่ว่านี้
...ชายหนุ่มเกิดที่กอมูร่า ข้ามแม่น้ำเมยเข้าไปในฝั่งพม่า เขาจากแผ่นดินเกิดมาตั้งแต่หัวเท่ากำปั้น ไม่นานนัก ก่อนฐานที่มั่นกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงริมน้ำเมยแห่งนี้จะถูกทลายโดยทหารรัฐบาลพม่า
แม้จะหนีภัยข้ามแม่น้ำเมยเข้ามาในเมืองไทย แต่ก็ใช่ว่าจะอยู่ได้อย่างมั่นใจปลอดภัย
ครั้งหนึ่งของการรอนแรมร่วมกันตามแนวชายแดน ผมสังเกตเห็นเขากินข้าวชามโต ประสบการณ์วัยเด็ก ซึ่งมีชีวิตอยู่กับการหลบหนี ต้องระแวดระวังอยู่ทุกขณะ สอนให้เขาเตรียมพร้อมเสมอ
ทุกปี เขาต้องข้ามแม่น้ำเพื่อกลับไปยังแผ่นดินเกิดทุกปี เพื่อสำรวจปัญหาซึ่งพี่น้องร่วมชาติกำลังเผชิญ
ในช่วงวัยซึ่งควรจะมีโอกาสได้ใช้ชีวิตอยู่ในสถานศึกษาเช่นคนหนุ่มวัยเดียวกัน แต่เขาใช้เวลานานหลายเดือนในแต่ละปี กลางป่าไพรลึกเปลี่ยว และเสี่ยงภยันตราย
เขาเล่าให้ฟังถึงเอกสารภาษากะเหรี่ยงปึกใหญ่ ซึ่งมีผู้หลักผู้ใหญ่มอบให้ ด้วยหวังให้เขาแปลเป็นภาษาไทย บอกเล่าประวัติศาสตร์ การต่อสู้ กับผู้รุกรานกดขี่ บนแผ่นดินของบรรพชน
“เขาต้องการให้ลูกหลานปะเกอกะเญอในเมืองไทยได้ร่วมรับรู้ประวัติศาสตร์ของพี่น้องในฝั่งพม่า”
สถานการณ์ของพวกเขาไม่ค่อยดีนัก รัฐบาลพม่ากดดันให้ไทยปิดศูนย์อพยพ และส่งผู้หนีภัยการสู้รบทั้งหมดกลับไป แต่ถึงหากได้กลับสู่มาตุภูมิ|คืนสู่แผ่นดินแม่ ก็ใช่ว่าพวกเขาจะมีชีวิตได้อย่างมีความหวัง
เพียงแค่สายน้ำกั้น แต่ชีวิตของผู้คน 2 ฝั่งนั้นต่างกันยิ่งนัก
หลายครั้งที่มีโอกาสได้รอนแรมเดินทางร่วมกัน การสนทนาทำให้ผมเห็นภาพรางเลือนว่า เขามิได้ไยดีต่ออุดมการณ์สูงสุด ชัยชนะที่เผ่าพันธุ์ของเขาจะยืนหยัดอยู่บนแผ่นดินของบรรพชน มากไปกว่าการที่พี่น้องร่วมเผ่าพันธุ์จะมีชีวิตที่มีความหวังและสามารถกำหนดอนาคตตัวเองได้
แน่นอน ภายใต้ปัญหามากมายที่กดดัน เพียงแค่ทำให้ผู้คนมีความหวัง เพียงแค่ช่วยให้เขามองเห็นถึงอนาคต ก็หมายถึงการรักษาศรัทธา ซึ่งไม่ว่าเส้นทางยากลำบากและยาวไกลเพียงใด ผู้คนย่อมกล้าเดินไปบนความศรัทธา
ชาวยิวเร่ร่อนกระจัดกระจาย เผชิญความขมขื่นรันทดอยู่ในต่างแดนนานหลายร้อยปี กว่าจะก่อตั้งประเทศอิสราเอล เพียงเพราะพวกเขายึดมั่นในพันธสัญญา ดินแดนซึ่งพระผู้เป็นเจ้าได้ประทาน และพวกเขาต้องกลับคืนสู่ดินแดนแห่งนี้
ครั้งหนึ่ง เพื่อนชาวไทยใหญ่พูดถึงการทำหน้าที่ทหาร เพื่อปกปักรักษาดินแดนและพี่น้องร่วมชาติอย่างภาคภูมิใจ แต่เมื่อกลับถึงบ้าน ชายชาติทหารอย่างเขากลับต้องฟังคำสั่งเมีย
เขาบอกว่า เมียเขาเป็นครู และชอบออกคำสั่งเหมือนเห็นว่าเขาเป็นนักเรียน ซึ่งทำให้ผมนึกขำในใจ
ถ้อยคำในใจที่เกิดขึ้น แต่มิได้ถ่ายทอดให้เพื่อนฟังก็คือ ทหารอย่างเขามีหน้าที่กู้ชาติก็จริง แต่การสร้างชาตินั้นเป็นหน้าที่ของครู
ผมนึกถึงชายหนุ่ม แม้มิใช่นักรบที่พร้อมสละชีวิตเพื่อปกปักรักษาแผ่นดิน แต่เพียงแค่ความมุ่งมั่น ให้พี่น้องร่วมเชื้อชาติเผ่าพันธุ์มีชีวิตอย่างมีความหวัง และมีโอกาสกำหนดอนาคตตัวเอง
เท่านี้ก็นับว่าเป็นความกล้าหาญอย่างยิ่งแล้ว
เขาอาจเป็นส่วนสำคัญในการตัดเส้นทางให้ผู้คนก้าวเดินไปยังดินแดนแห่งพันธสัญญา


