โซ่รถเก่าไร้ค่าสู่เครื่องประดับอันอ่อนช้อย
มีโอกาสได้ไปเดินชมนิทรรศการ “การออกแบบแห่งท้องถิ่น” ที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC)
มีโอกาสได้ไปเดินชมนิทรรศการ “การออกแบบแห่งท้องถิ่น” ที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC)
โดย.. มัลลิกา นามสง่า
มีโอกาสได้ไปเดินชมนิทรรศการ “การออกแบบแห่งท้องถิ่น” ที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) เป็นการแสดงผลงานสร้างสรรค์ที่สะท้อนอัจฉริยภาพและพลังความคิดของเยาวชน ในการต่อยอดองค์ความรู้ จินตนาการ และแรงบันดาลใจจากท้องถิ่นสู่ผลงานการออกแบบที่แสดงให้เห็นถึงผลผลิตแห่งวัฒนธรรม เอกลักษณ์ของชุมชน ประวัติศาสตร์และสังคมในทุกภูมิภาคของไทย
ด้วยมุมมองการออกแบบร่วมสมัย แล้วเกิดสะดุดตาต้องใจกับผลงาน “เครื่องประดับจากวัสดุเหลือใช้จากรถจักรยานยนต์” กับแนวคิดการออกแบบ “เปลี่ยนโซ่ที่แข็งและสกปรก” สู่ “เครื่องประดับที่อ่อนช้อยและหรูหรา” ผลงานโดย “ปุ๋มเบญญาดา สุคนธ์เขตร์” นักศึกษาจากสาขาออกแบบผลิตภัณฑ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เสียดายที่นิทรรศการสั้นไปหน่อย จึงนำไอเดียดีๆ มาให้ชมกันในพื้นที่นี้
สำหรับที่มาของการทำเครื่องประดับจากโซ่รถยนต์นั้น เบญญาดาเริ่มต้นจากความคิดอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับใน จ.เชียงราย ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมเกี่ยวกับผลิตเครื่องประดับและเจียระไนเพชร พลอย แกะสลักขัดหยก เพชรและพลอย ทว่าอัญมณีเป็นวัตถุดิบที่เกิดจากธรรมชาติ มีราคาสูง จึงมีแนวคิดใหม่ที่จะเลือกใช้วัสดุอื่นมาทดแทน ที่มีราคาต้นทุนถูกกว่า โดยยึดหลักการออกแบบแนวอีโค ดีไซน์ (Eco Design) ซึ่งเป็นแนวทางนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน คือ การประยุกต์หลักการลด (Reduce) การใช้ซ้ำ (Reuse) การนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) และการซ่อมบำรุง (Repair) ในทุกช่วงวัฏจักรของผลิตภัณฑ์ โดยเน้นการออกแบบ ยืดอายุการใช้งาน ลดส่วนประกอบที่เกินความจำเป็น ถอดแยกชิ้นส่วนได้ สามารถนำมาใช้ซ้ำและรีไซเคิลได้
เบญญาดา จึงปิ๊งไอเดียว่าต้องหาวัสดุที่อยู่ใกล้ตัว หาได้ง่าย แต่ก็นึกไม่ออกว่าจะเป็นอะไร ทว่า สิ่งที่เห็นอยู่เสมอๆ และมีจำนวนมากก็คือ มอเตอร์ไซค์ ที่บรรดานักศึกษาต่างก็ใช้ขับขี่ และบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยก็มีร้านซ่อมรถจักรยานยนต์อยู่มาก ไอเดียบรรเจิดทันที เมื่อเดินเข้าไปแล้วมองเห็นความสวยทะลุจาระบีของโซ่รถจักรยานยนต์ เธอบอกว่า “รูปทรงมันสวยดี” ซึ่งจะมีใครสักกี่คนมองว่าโซ่รถสกปรกนั้นดูสวยและอยากหยิบจับมาใช้สอย (อีก)
“ราคาซื้อโซ่เก่ากิโลกรัมละ 7-10 บาท แต่ส่วนมากไม่ได้ซื้อ เพราะเข้าไปตามร้านซ่อมรถพี่เขาก็ให้มาฟรีๆ ซึ่งสร้อยเส้นหนึ่งก็ใช้โซ่ที่มีน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัมเอง แต่ก็ยังมีชิ้นส่วนอื่นๆ เหลือไว้ทำงานชิ้นอื่นได้อีก”
แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งาน เบญญาดา เล่าว่า อยากนำวัสดุเหลือใช้ดังกล่าวซึ่งมีลักษณะแข็ง สกปรก และมีน้ำหนักมากมาออกแบบให้เป็นเครื่องประดับที่ดูสวยงาม หรูหรา และสามารถใช้งานได้จริง โดยให้ความสนใจไปที่รูปแบบของเส้นโค้งตามธรรมชาติของ “หอยมือเสือ” ซึ่งเป็นหอยที่มีขนาดใหญ่ เปลือกมีความแข็งแรง มีลวดลายที่สวยงามและความอ่อนช้อยอยู่ในตัวมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานออกแบบ สื่อถึงความอ่อนหวานในความเข้มแข็งในตัวเองบนเครื่องประดับรูปแบบใหม่ ที่โครงสร้างทำจากโลหะชุบโครเมียม
“คิดถึงตัววัสดุก็หนักอยู่แล้ว เลยอยากทำเครื่องประดับที่ดูพลิ้วๆ เหล็กมันแข็ง แต่จะทำให้มันดูนุ่มนวลก็เอาเส้นโค้งมาใช้ ซึ่งได้ลายมาจากหอยมือเสือ ลายจะโค้ง เส้นโค้งสวยมากและเป็นชั้นๆ ตอนออกแบบจะนึกถึงวัสดุเป็นหลักว่ารูปทรงแบบนี้จะนำมาทำอะไรได้บ้าง เพราะในโซ่แยกชิ้นส่วนออกมาได้ถึง 5 แบบด้วยกัน คือ แผ่นนอก แผ่นใน มีลักษณะคล้ายถั่วจะแผ่นบาง บู๊ตใหญ่ บู๊ตเล็ก รูปทรงเหมือนกระบอกเล็กๆ และแกนโซ่ เป็นแท่งเหล็กกลมๆ เหมือนลวดเส้นใหญ่ แต่มีขนาดสั้น”
สำหรับขั้นตอนการทำ เริ่มที่นำวัสดุเหลือใช้คือ โซ่รถจักรยานยนต์และเส้นลวดมาทำความสะอาด จากนั้นนำมาแยกชิ้นส่วนแล้วนำโซ่รถมาตัดครึ่งโดยใช้คีมตัดเหล็ก นำมาทาบกับตัวแบบร่างให้ได้ลักษณะดั่งต้นแบบ ขึ้นโครงลวดเพื่อเป็นที่ยืดสำหรับการเชื่อมโลหะให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ ทำการเชื่อมไปทีละส่วน เสร็จแล้วนำทุกส่วนมาประกอบกัน จากนั้นนำไปขัดด้วยเครื่องเจียเพื่อให้รอยเชื่อมมีความเรียบสวยงาม ขั้นตอนสุดท้ายคือ นำไปเข้ากระบวนการชุบโครเมียมเพื่อเพิ่มความสวยงาม
แม้ว่าผลที่ออกมาจะได้ชุดเครื่องประดับที่สวยงามของการออกแบบและการผลิต แต่การนำเหล็กมาเป็นวัสดุในการทำก็มีปัญหาในเรื่องของสนิม และกระบวนการทำหากไม่มีเครื่องเชื่อมเหล็กที่ดี มีความละเอียด ก็จะทำให้งานออกมาไม่เรียบร้อยสวยงาม ซึ่งในอนาคตเบญญาดามีความตั้งใจว่าจะพัฒนาผลงานออกสู่ตลาด โดยสร้างชิ้นงานที่มีขนาดเล็ก ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน และมีการเคลือบสีเพื่อป้องกันสนิมและเพิ่มความสวยงามของชิ้นงาน ส่วนน้ำหนักไม่ต้องเป็นกังวล แม้จะผลิตมาจากเหล็ก แต่เครื่องประดับมีน้ำหนักไม่แตกต่างเครื่องเงินหรือทองมากนัก อย่างสร้อยเส้นหนึ่งมีน้ำหนักอยู่ที่ 100-300 กรัม
เครื่องประดับ ไม่ว่าจะเป็น สร้อยคอ กำไลข้อมือ ต่างหู ของเบญญาดา ช่วยลบภาพโซ่รถจักรยานยนต์ที่เปื้อนจาระบีมันๆ ดำๆ ดูแข็งเทอะทะได้อย่างไม่น่าเชื่อ มิหนำซ้ำยังดูราวกับเป็นเครื่องประดับหรูหราราคาแพง


