สาวแทนเสียงทอง เฟื่องลดา ประวัง
"แม่คะ หนูไม่อยากเป็นนักดาราศาสตร์แล้ว อยากเป็นนักร้อง..." ออร์แกน บอกกับแม่ตอนเรียน ม.5
"แม่คะ หนูไม่อยากเป็นนักดาราศาสตร์แล้ว อยากเป็นนักร้อง..." ออร์แกน บอกกับแม่ตอนเรียน ม.5
โดย.. ณัฐพล ช่วงประยูร / ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพานิช
ความฝันวัยเด็กอาจไม่ใช่ความสนใจและความรักที่เกิดขึ้นระหว่างเติบโตเสมอไป เช่นเดียวกันกับแขกรับเชิญหน้าสัมภาษณ์ฉบับวันพุธนี้ “ออร์แกนเฟื่องลดา ประวัง” 1 ใน 5 สมาชิกจากวงป๊อปโอเปรา วงแรกในเมืองไทย “วีว่า” (VIVA)
“วันที่บอกแม่ว่าไม่เป็นนักดาราศาสตร์แล้ว ที่บ้านช็อกเลยค่ะ เพราะออร์แกนตั้งใจมานาน กระทั่ง ม.ปลาย เลือกสายวิทย์ เรียนพิเศษ ใส่แว่นหนาเตอะ แต่ตอบตัวเองได้ในวันหนึ่งว่า ไม่เอาแล้ว ไม่อยากเป็นอย่างนี้แล้ว ฉันจะร้องเพลง และจะเป็นมาสเตอร์ทางด้านนี้ให้ได้” สาวผิวแทน ผมทอง บนส้นสูง 6 นิ้ว นั่งจิบนมเย็นปั่น ที่ล็อบบี้เลานจ์ เล่าย้อนวันอย่างภาคภูมิ
“ระหว่างที่เป็นเด็กตั้งใจเรียน คุณครูก็มักมีกิจกรรมการร้องเพลงให้ออร์แกนได้โชว์อยู่บ่อยๆ รวมถึงพื้นฐานครอบครัว ทั้งคุณพ่อคุณแม่ ชอบร้องคาราโอเกะ และฟังเพลงเป็นกิจวัตร ทำให้เราซึมซับสิ่งเหล่านี้เสมอ ประกอบกับเมื่ออาจารย์ชาวฝรั่งเศสที่สอนดนตรี จุดประกายให้ลองร้องเพลงคลาสสิก แล้วเราทำได้ ท่านก็เห็นแวว ก็เลยได้ไปต่อ”
จากการทดลองคราวนั้น ผลงานของออร์แกนส่งตัวเธอไปเจอกับหลักสูตรสั้น ด้านดนตรีที่เมืองน้ำหอม ประเทศฝรั่งเศส ค่าใช้จ่ายในการเรียนและที่พักทั้งหมดไม่ต้องจ่ายสักบาท “เป็นทุนที่น่าเหลือเชื่อมาก แม้จะเป็นเวลาแค่เดือนกว่าๆ พักกับครอบครัวชาวฝรั่งเศส และเรียนกับมืออาชีพ พอกลับมาเมืองไทยไม่นานนักก็คิดว่าไปทางนี้แน่”
ออร์แกนฝ่าด่านครอบครัวไปด้วยความตั้งใจจริง เธอติวเข้มหนักทั้งทฤษฎี ปฏิบัติ หลายชั่วโมงต่อวัน ตลอดเดือนกว่า กับอาจารย์ดนตรีที่มหาวิทยาลัยพายัพ เพื่อคว้าคะแนนสอบเข้า ด้านดนตรีที่มหาวิทยาลัยมหิดล
“ออร์แกนหยุดเรียนสายสามัญตอน ม.5 แล้วสอบติดพรีสกูล 3 ปี ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ก่อนไปสู่ระดับอุดมศึกษา ถ้าเทียบแล้วก็เท่ากับกลับไปเรียน ม.4 อีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่เสียเวลาหรอกค่ะ ตั้งใจแล้ว จากที่เคยเรียน แล้วก็เรียนพิเศษ แล้วก็เรียนๆๆ แบบ ม.ปลาย แต่ที่นี่ฟังเพลง ดูคอนเสิร์ต เรียนทฤษฎีดนตรี แล้วก็ฝึกฝน หาข้อดี ข้อเสีย กลายเป็นชีวิตอยู่กับความบันเทิงไประยะยาวเลยค่ะ แล้วพอเข้าสู่ระดับมหาวิทยาลัย ก็เริ่มเข้าทางแล้วว่าฟังอย่างไร อะไรดี อะไรแย่ แล้วถ้าเป็นเราจะโชว์อย่างไร พอถึงทุกวันนี้ ฝนตกลงมาก็เป็นทำนองเพลงหนึ่ง พออารมณ์สนุกสนาน ได้ยินเพลงอีกกลุ่มคอร์ดหนึ่งเข้ามาในหัวเลย”
รางวัลมากมายตั้งแต่ฉายแววเข้าสู่ถนนสายดนตรี การันตีหนทางเธอไม่น้อย ทูบีนัมเบอร์ วัน 2004 ภาคเหนือ และโกลเดน ไพรซ์ วินเนอร์ จากเวทียามาฮ่า ไทยแลนด์ มิวสิก เฟสติวัล กระทั่งเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่ง “โอซากา อินเตอร์เนชันแนล โวคัล คอมเพทิชัน เจแปน ครั้งที่ 7 ได้รางวัลที่ 2 คะแนนเสมอกับนักร้องคลาสสิกรุ่นเล็กชาวเกาหลี ทำให้ปีนั้นไม่มีใครได้ที่ 1 ยังไม่นับอีกหลายรายการในหลายประเทศ
“ในทุกๆ เวที เกณฑ์การตัดสินก็มีหลักพิจารณาจากน้ำเสียง อารมณ์ ความเข้าใจในเพลง เทคนิค การออกเสียง สำเนียงภาษา แต่วินัยส่วนตัวต้องมีค่ะ เพราะเสียง พลัง และท่วงท่า อารมณ์อยู่ที่เราต้องกินอิ่ม นอนหลับ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ซึ่งแต่ละคนจะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ต้องเรียนรู้จักตัวเองแล้วก็ลองมาหลายอย่าง แต่ถามว่าทุกวันนี้รู้ทุกอย่างหรือเปล่า ก็ยัง แต่ก็พยายามรู้ให้มากที่สุด”
ครอบครัวพร่ำสอนเธอเสมอว่า “ไม่ว่าจะเป็นอะไร ขอให้เป็นคนดี ทำอะไรให้นึกถึงคนอื่น” ร้องเพลงให้ใครฟัง ก็ฟังให้เขามีความสุขที่สุดด้วย” นอกจากนั้น ขวัญใจที่เป็นแรงผลักดันให้ออร์แกน คือ นักร้องคนดัง มาเรีย คาลาซ ชาวอียิปต์ ที่เธอยืนยันว่าคนนี้เพอร์เฟกต์ที่สุดสำหรับเธอ
“หลังจาก 7 เดือนข้างหน้า จบระดับปริญญาตรีแล้ว ก็คิดว่าจะไปเรียนต่อในสถาบันดนตรีที่ยุโรป พยายามสะสมประสบการณ์ให้มากที่สุด เพื่อนำไปสู่สิ่งที่ฝันไว้ วันหนึ่งจะได้กลับมาสอนรุ่นน้องๆ และคนที่สนใจให้เผยแพร่การร้องเพลงคลาสสิกในวงกว้างมากขึ้นค่ะ”
“มองตัวเองวันนี้อย่างไร” ผมซัก
“คนละเรื่อง จากเด็กเนิร์ด เอาแต่เรียน ไม่กล้าแม้จะถอดแว่น พอมาสายนี้ครูบอกจะใส่แว่นขึ้นโชว์ไม่ได้นะ ก็สร้างความมั่นใจให้ตัวเอง อะไรไม่ได้ก็ทำให้ได้ พยายามฝึกฝน ซ้อมให้เยอะ แล้วก็ใส่คอนแทคเลนส์ ยืนบนส้นสูง ร้องเพลง และส่งอารมณ์ให้ทุกคน
เคยมีครั้งหนึ่งที่เศร้ามาก ร้องโชว์ในงานกาลาดินเนอร์แล้วคนคุยกัน จบแล้วเสียงปรบมือเปาะแปะ แต่เพื่อนก็บอกว่าไม่เป็นไร ต้องเข้าใจแต่ละงาน คนแต่ละคน เราทำเต็มที่ได้เสมอแม้มีคนฟังแค่คนสองคนหรือร้อยคน”
วันนี้เธอเป็นส่วนหนึ่งของวงวีว่า วงป๊อปคลาสสิกวงแรกของเมืองไทย ที่นำเพลงป๊อปมาถ่ายทอดในแบบคลาสสิก ผ่านการร้องเล่นเต้นอย่างสนุกสนาน ภายใต้การดูแลของมืออาชีพ ที่มาคัดตัวเด็กไทยนับร้อย เหลือเพียง 20-30 คน และผ่านมาถึง 5 คน กลายเป็นวีว่าทำการแสดงทั้งในเมืองไทยและหลายประเทศในโลก
“ตามหาตัวเองให้เจอ กล้าที่จะลอง ให้โอกาสตัวเอง มันไม่มีอะไรสายเกินไป ต่อให้เราเลียนแบบคนอื่นมาก่อน แต่ถ้าวันหนึ่งเราพบว่าตัวเองคืออะไร สไตล์ของเรา มันก็คือความรักความชอบของเรา และออร์แกนมั่นใจว่าทุกคนมี...สไตล์”
เราไม่ได้เพียงพบเธอในหน้าบทสัมภาษณ์นี้ แต่นักร้องคนนี้ยังส่งเสียงก้องกังวานแบบไนติงเกลอยู่ที่ล็อบบี้เลานจ์ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ราชประสงค์ กรุงเทพฯ ทุกวันอาทิตย์ เวลา 12.00-14.00 น. และวันพุธที่ 27 ก.ค. 2554 โอเปรา ในดินเนอร์ องก์สุดท้ายก็กำลังจะเริ่มต้นในมื้อค่ำ ณ กรอสซี โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่ 026560444 ต่อ 6276 แล้วคุณจะทึ่งกับเสียงสุดเพดานโซปราโนของเธอ
“นมเย็นปั่น” หรือ “มะม่วงปั่น” เป็นเครื่องดื่มแก้วโปรดของออร์แกนค่ะ ทำให้สดชื่นดี
กระเป๋าหนังสัตว์แท้จากแอฟริกาใต้ “เมื่อก่อนจะแต่งตัวเป็นฮิปปี้ โบฮีเมียน เลยมีความชอบในพวกผลิตภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติหลายหลาก ไปซื้อในตลาดตอนไปร้องเพลงที่แอฟริกาใต้ ชอบมากเลย”
ขนนกกระจอกเทศย้อมสี “เครื่องรางที่ทำให้โชคดี และมันก็สวยด้วยค่ะ”
รองเท้าส้นสูง “ชอบใส่ส้นสูง คู่นี้สูง 6 นิ้ว ใส่แล้วเป็นตัวเอง โชว์....พร้อมค่ะ”
ยาพ่นแก้อักเสบ “เหมือนเป็นของติดตัว คู่ชีวิตเลย ฆ่าเชื้อที่คอเรา เพราะเราอาจจะใช้ไมโครโฟนหลากหลายที่ และทำให้คอไม่อักเสบค่ะ”
ต่างหู “ทั้งๆ ที่มักเอาผมปิดหู แต่ก็ใส่ เพราะชอบ เพชร คริสตัล และสีทอง


