พาลินจะเป็นลม ลูกเขยถ่ายนู๊ด !

เมื่อซาราห์ พาลิน สวมบท “แม่ยายหัวสูง” และ ลีวาย จอห์นสตัน นายแบบหนุ่มวัยละอ่อนที่รับบทเป็น “ลูกเขยปากกล้า”

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

ซาราห์ พาลิน

ตํานานลูกเขยและแม่ยายที่มักจะต้องงัดง้างกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อยาม ไม่ได้เป็นสิ่งที่ร่ำลือกันเฉพาะในบ้านเรา หรือในบทละครน้ำเน่าที่เรามักเห็นในทีวีเท่านั้น แต่ทว่ามีให้เห็นอยู่อย่างดาษดื่น แม้ในวงการคนดังทางการเมืองของสหรัฐ ครอบครัวอดีตผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีอย่าง ซาราห์ พาลิน ที่งานนี้สวมบท “แม่ยายหัวสูง” และ ลีวาย จอห์นสตัน นายแบบหนุ่มวัยละอ่อนที่รับบทเป็น “ลูกเขยปากกล้า”

อันที่จริงแล้วทั้งคู่ “โรมรัน” “สงครามน้ำลาย” ใส่กันมายาวนาน แต่ทว่าที่ในช่วงนี้ดีกรีความร้อนแรงมันเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณก็เพราะว่า อดีตเขยหนุ่มวัยเพียง 19 ปี กำลังเปลื้องผ้าขึ้นปกนิตยสาร เพลย์เกิร์ล เป็นครั้งแรก แถมมีบทสัมภาษณ์ที่คาดว่าจะจุดประเด็น “แซด” สมกับที่ขาเมาท์ตั้งตารอคอย วิจารณ์ครอบครัวและเรื่องราวชีวิตแบบยับเยินไร้ที่ติของเขาและอดีตคู่หมั้นบริสตัล พาลิน คุณแม่ยังสาว และลูกสาวคนโตแห่งครอบครัวพาลิน

พาลินวิจารณ์การตัดสินใจเปลือยขึ้นปกของอดีตเขยอย่างดุเด็ด

“ใครก็ตามที่ขายเรือนร่างเพื่อแลกกับเงิน กำลังสะท้อนให้เห็นว่า ต้องการความสนใจ และอยากที่จะทำหรือพูดอะไรก็ตามเพื่อที่จะได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น” พาลิน กล่าว

ในขณะที่ลูกสาวของพาลินยื่นหนังสือฟ้องร้องขอเงินจากจอห์นสตันในฐานะผู้เป็นพ่อที่มีรายได้กว่า 1 แสนเหรียญสหรัฐ (ราว 3.31 ล้านบาท) จากการเปลือยร่างขึ้นปกหนังสือ และก่อนหน้านี้ที่ทำงานถ่ายแบบหนังสือและโฆษณา ให้ช่วยส่งเสียเลี้ยงดูลูกชายเดือนละ 1,750 เหรียญสหรัฐ (ราว 5.8 หมื่นบาท) โดยต้องมีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 2008 ที่ลูกของทั้งสอง ลืมตาดูโลก

เรื่องราวฉาว “ท้องก่อนแต่ง” ของลูกสาวพาลินดังกระฉ่อนออกมาในช่วงที่พาลินลงสมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ซึ่งในตอนแรกก็มีทีท่าว่าความสัมพันธ์ของ “คุณแม่ยายคนดัง” และ “ลูกเขยวัยเรียน” จะโรยด้วยกลีบกุหลาบ เมื่อแม่ยายอย่างพาลินผู้ที่ยืนยันหนักแน่นในการลงสมัครชิงเก้าอี้รองประธานาธิบดี คัดค้านการทำแท้งมาโดยตลอด ออกมายอมรับและเปิดเผยคุณพ่อตัวจริงของหลานชายคนแรกของครอบครัว หลังจากถูกสื่อขุดคุ้ยและกดดันอย่างหนัก

พาลิน กล่าวว่า จอห์นสตันเป็นเด็กดีทั้งคู่ก็จะแต่งงานกันในไม่ช้า แต่ทว่าในความเป็นจริงวันนั้นก็ไม่เคยมาถึง และไม่เคยเห็นแม้แต่เงาของงานวิวาห์ความสัมพันธ์ของบริสตัลและจอห์นสตันสะบั้นลงนับตั้งแต่ ทริปป์ โผล่ลืมตามาดูโลกราว 4 เดือน

เรื่องนี้เป็นกระแสดังในสหรัฐ ทั้งจอห์นสตัน และพาลินมักจะมีโอกาสพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์มากกว่า “เจ้าทุกข์” อย่างบริสตัลเอง และทั้งสองก็เปิดเกมรบอย่างไม่น่าเชื่อกลายเป็นสงครามระหว่างนักการเมืองวัย 45กับนายแบบหนุ่มวัย 19 ทุกครั้งที่จอห์นสตันเอ่ยปากพูดถึงแม่ยายอย่างพาลินแล้ว เขามักจะปล่อยหมัดหนักเข้าใส่พาลินแทบทุกครั้งว่า เพราะเขาเชื่อว่าพาลินอยู่เบื้องหลังของความสัมพันธ์ที่แตกแยก และการที่เขาไม่มีโอกาสได้พบหน้าลูกชาย

เรื่องภายในครอบครัวพาลินถูกนำออกมาแฉอย่างออกรสชาติจากปากของอดีตสามีทางพฤตินัยของลูกสาวคนโตแห่งบ้านพาลิน

เมื่อช่วงเดือนต.ค. ปีที่แล้ว หนุ่มน้อยให้สัมภาษณ์กับทางรายการเอนเตอร์เทนเมนต์ ทูไนต์ (อีที) ว่าพาลินเตียงหัก และจะแยกทางกับทอดด์ สามีที่ใช้ชีวิตร่วมกันนานกว่า 20 ปีแล้วอย่างแน่นอน เพียงแต่รอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น เหมือนอย่างเวลาที่เธอตัดสินใจออกจากตำแหน่งผู้ว่าการรัฐอะแลสกา อีกทั้งยังแฉอีกว่าได้ยินพาลินทะเลาะกับทอดด์บ่อยครั้งและพูดถึงการหย่า

“ผมไม่เคยเห็นว่าทั้งคู่ใช้ชีวิตในแบบคู่สามีภรรยาทั่วไป แทบจะไม่สื่อสารและพูดคุยกันเลย ไม่แม้กระทั่งอยู่ร่วมห้องกัน ทั้งคู่ทะเลาะกันเยอะมาก”

อีกทั้งยังโจมตีว่า แม่ยายของเขาแตกต่างจากที่ทุกคนทั่วไปได้เห็น เธอเลือกหน้าที่มากกว่าครอบครัว และเป็นพวกหัวสูง ใฝ่สูง...

“ผมเคยได้ยินว่า เธอเรียก ทริก ลูกชายคนเล็กซึ่งมีอาการดาวน์ซินโดรมว่า เด็กปัญญาอ่อน ครั้งแรกที่ผมได้ยินก็ตกใจอย่างมาก ทันทีที่เธอรู้ว่าลูกสาวท้อง เธอก็ต้องการให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ และเธอจะออกหน้ารับเลี้ยงเด็กเอง แต่เธอก็เหน็บแนมเราทั้งคู่ตลอดเวลา...” จอห์นสตัน กล่าว

ครั้งหนึ่งอดีตนักฮอกกี้หนุ่มบอกว่า พาลินเคยดูแลเขาไม่ต่างจากที่แม่ดูแล แต่พอเธอไม่ถึงฝั่งฝัน ตกบันไดทางการเมือง เธอก็เปลี่ยนไป ความสัมพันธ์ของเขาและเธอก็พังครืน ทั้งสองผลัดกันพ่นน้ำลาย สะบัดยาพิษใส่กันดุเดือด รุกรับ เป็นเรื่องสนุกบนหน้าหนังสือพิมพ์ของสหรัฐ

จอห์นสตัน ยืนยันว่า พาลินโกหกเรื่องของเขาในขณะที่พาลินก็ออกมาแก้ข่าว และปฏิเสธโยนไปมา...จอห์นสตัน บอกว่า ตนเองได้เข้าไปอยู่ที่บ้านของพาลินในช่วงราว 23 สัปดาห์ก่อนที่บริสตัลจะคลอด สวนทางกับพาลินที่บอกว่าเขาไม่เคยไปอยู่ที่นั่น เขาระบุว่าลูกที่เกิดขึ้นจากการไม่ได้วางแผนไว้ก่อนไม่ได้ถือเป็นความผิดพลาด ในคำให้การที่ส่งไปยังศาล เพื่อเรียกร้องสิทธิในการเลี้ยงดูลูกชาย เขาบรรยายแม่ยายคนดังของเขาว่าเป็นผู้ที่มีอำนาจ และทะเยอทะยานในทางการเมือง อีกทั้งยังมีความอาฆาตพยาบาท ทำให้บริสตัลสาวผู้ที่เชื่อมั่นในตัวมารดาอย่างสูง ออกโรงค้านคำให้การของอดีตสามีทางพฤตินัยว่า แม่ของเธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และจอห์นสตันก็ไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะรับผิดชอบในฐานะที่เป็นพ่อแม่

ปัจจุบันคุณพ่อวัยเยาว์มีโอกาสได้เจอะเจอหน้าลูกชายวัย 1 ขวบกว่าๆ เพียง 1 วันต่อสัปดาห์เท่านั้น คือทุกวันเสาร์เวลา 9 โมงเช้าถึงบ่าย 2 ซึ่งคุณพ่อบอกว่ามันน้อยเกินไป และกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการฟ้องร้องทางศาลเพื่อที่จะให้มีโอกาสได้เลี้ยงดูลูกชายได้มากขึ้น คุณพ่อวัยละอ่อนระบุว่า เขายังคงได้คุยกับอดีตภรรยาบ้างบางครั้ง

“บางครั้งเธอโทร.มาและบอกกับผมว่าเขา (ทริปป์)พูดว่า ‘พ่อ’ จริงๆ แล้วบางครั้งเราก็ออกมาข้างนอกด้วยกันสามคน พาลูกไปกินไอศกรีม มันน่าสนุกมาก เราเพิ่งได้ทำหน้าที่เป็นพ่อแม่ที่ดีด้วยกัน”

จะว่าไปแล้วแค่เรื่องราวที่ออกจากปากของอดีตคู่หมั้นของครอบครัวนี้ ก็มากพอจะทำให้ครอบครัวพาลินเป็นหนึ่งในครอบครัวนักการเมืองที่กระฉ่อนมากที่สุด ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลย ถ้าพาลินที่เป็นดั่งแม่ทัพของครอบครัวนี้จะโกรธกริ้ว และดูจะย้ำอยู่เสมอว่า เด็กผู้ชายคนนี้ไม่เหมาะกับลูกสาวคนโตของเธอ   ส่วนคุณพ่อวัยเยาว์ก็มีวาทะเดือดดาล ระราน ครอบครัวของอดีตภรรยาไม่น้อย

ดูจากอารมณ์ที่ร้อนระอุ ยามที่ทั้งคู่พูดถึงกันและกัน และบาดแผล ซึ่งเป็นผลจาก “สงครามน้ำลาย” ของคู่ “ลูกเขย” และ “แม่ยาย” คู่นี้แล้ว ท่าทางจะยังคงเป็นนิยายเรื่องยาว   ศึกที่ชาวมะกัน และชาวโลกได้ฟังเรื่องฉาวๆกันต่อไป...