สุดยอดป่าดิบชื้นของโลก
ได้มีผู้สันทัดกรณีภูมิศาสตร์สิ่งแสดล้อมลองจัดอันดับสุดยอดของป่าดิบชื้นหรือป่าฝนทั่วโลก
ได้มีผู้สันทัดกรณีภูมิศาสตร์สิ่งแสดล้อมลองจัดอันดับสุดยอดของป่าดิบชื้นหรือป่าฝนทั่วโลก
โดย ม.ล.จารุพันธ์ ทองแถม
ได้มีผู้สันทัดกรณีภูมิศาสตร์สิ่งแสดล้อมลองจัดอันดับสุดยอดของป่าดิบชื้นหรือป่าฝนทั่วโลก ผลการตัดสินยอมรับว่า สุดยอดความหนาแน่นของป่าฝน ได้แก่ ป่าลุ่มน้ำอะเมซอน ป่าลุ่มน้ำคองโก ป่าฝนเขตร้อนแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ป่าฝนเขตอบอุ่นด้านตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย และบริเวณไทกาไบโอเม (Taiga Biome) ในแคนาดา ยุโรป และเอเชีย (ไซบีเรีย)
เราลองเข้าไปดูลึกๆ ถึงสุดยอดป่าดิบชื้นโลกกันทีละแห่งดีไหมครับ?
ป่าลุ่มน้ำอะเมซอน
ไม่มีข้อกังขาเกี่ยวกับความสุดยอดของป่าดิบชื้นเขตร้อนลุ่มน้ำอะเมซอนแห่งอเมริกาใต้ แม่น้ำอะเมซอนเป็นแม่น้ำยาวเป็นอันดับสองของโลก แต่มีปริมาณน้ำมากที่สุด ซึ่งแผ่สาขาไปสู่ประเทศต่างๆ 9 ประเทศ ลุ่มน้ำอะเมซอนมีพื้นที่รวมกันถึง 3,000 ล้านไร่ โดยประมาณ ในป่าเต็มไปด้วยความหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศบราซิล ซึ่งมีพื้นที่ป่าฝนอยู่ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ ติดตามมาด้วยเปรู 13 เปอร์เซ็นต์
ส่วนพื้นที่ป่าฝนขนาดย่อมพบได้ในโคลัมเบีย เวเนซุเอลา เอกวาดอร์ โบลิเวีย กายอานา ซูรินาเม และเฟรนช์เกียนา 1 ใน 5 ของชนิดพืชและนกในโลกพบได้ที่นี่ จำนวนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในป่าจะมีอยู่ประมาณ 1 ใน 10 ของปริมาณทั้งหมดของโลก แต่น่าเสียดายที่การตัดไม้ทำลายป่าอะเมซอนลงอย่างหนัก กล่าวโดยเฉลี่ยแล้ว อัตราการทำลายป่าอยู่ที่ 22,392 ตารางกิโลเมตรต่อปี ในปี พ.ศ. 2548 นับว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยในปี พ.ศ. 2543 ถึง 18 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อถือตามอัตราความรุนแรงของการทำลายป่าดังกล่าว ภายในเวลา 20 ปีข้างหน้า ป่าฝนลุ่มน้ำอะเมซอนจะหดตัวหายไปถึง 40 เปอร์เซ็นต์
ป่าดิบชื้นเขตร้อนหรือป่าฝนลุ่มน้ำคองโก
เราจัดอันดับให้ป่าฝนคองโกมีความยิ่งใหญ่รองลงมาจากป่าฝนแห่งลุ่มน้ำอะเมซอนซึ่งกล่าวไปแล้ว แม่น้ำคองโกจัดเป็นแม่น้ำยาวเป็นอันดับสองในทวีปแอฟริกา มันหล่อเลี้ยงป่าฝนที่มีความใหญ่โตเป็นอันดับสองของโลก เราต้องดูถึงเส้นสายสาขาใหญ่น้อยของมันที่แผ่เข้าไปเหมือนเส้นชีวิตหล่อเลี้ยงป่าใหญ่ใน 6 ประเทศแห่งทวีปแอฟริกา ทั้งแคเมอรูน แอฟริกากลางหรือจักรวรรดิแอฟริกากลาง กาบอง คองโก และซาอีร์ (สาธารณรัฐซาอีร์)
ป่าฝนดังกล่าวยืดออกจากเทือกเขาทางภาคตะวันออกของคองโกไปจนถึงชายฝั่งทะเลในอ่าวกินี มันเป็นถิ่นที่นักสำรวจชื่อดังของโลกคือ สแตนเลย์ และ ลิฟวิงสโตน กล่าวไว้ว่า เป็นถิ่นแห่งความโหดร้ายทารุณและความรุนแรงในอดีตกาล ปัจจุบันอุตสาหกรรมทำไม้และการบุกรุกป่าทำการเกษตร เป็นปัจจัยหลักซึ่งทำลายพันธุกรรมพืชและสัตว์ป่าอันหลากหลายลงอย่างน่าตกใจ นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 เป็นต้นมาถิ่นนี้ถูกจัดอันดับว่ามีอัตราการสูญเสียป่าสูงสุดของโลก
ป่าดิบชื้นหรือป่าฝนแห่งแอฟริกากลาง เป็นที่อยู่ของชนเผ่าปิกมี ที่เรียกกันว่าเผ่า “มบูติ ปิกมี” พวกนี้เป็นทั้งนักเก็บของป่าและพรานนักล่าหาอาหารเพื่ออยู่รอดไปวันหนึ่งๆ พวกนี้อาศัยอยู่ในป่าฝนที่ขาดทั้งโปรตีนและไวตามิน เกลือแร่หลายอย่าง รวมแล้วมีผลทำให้มีความสูงโดยเฉลี่ยต่ำกว่า 1.5 เมตร หรือ 59 นิ้ว หนังสือเรื่อง “The Forest People” ซึ่งเขียนโดย Colin Turnbull กล่าวถึงพวกนี้ไว้อย่างละเอียดในปี พ.ศ. 2505
ป่าดิบชื้นเขตร้อนแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ถึงป่าดิบชื้นในอเมริกาใต้และแอฟริกาจะมีความยิ่งใหญ่ ดังได้กล่าวไปแล้ว แต่หากเราจะกล่าวถึงป่าดิบชื้นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว ต้องถือว่ามันมีความเก่าแก่โบราณและไม่ค่อยจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมากนัก และอาจปลอดภัยที่เราจะกล่าวว่า มันเป็นป่าฝนโบราณที่สุดของดาวพระเคราะห์ดวงนี้
ป่าดิบชื้นของเอเชียมีตั้งแต่ยุคพลิอิสโตซีน (Pleistocene) หรือกว่า 70 ล้านปีมาแล้ว และหากจะพูดถึงความหลากหลายทางชีวภาพกันแล้ว ป่าของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จัดอยู่ในระดับแนวหน้าของโลกเช่นกัน ป่าแห่งนี้กินอาณาเขตตั้งแต่ประเทศอินเดีย พม่า ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย (ทั้งบอร์เนียวและสุมาตรา)


