ญี่ปุ่นซิวแชมป์โลกบอลหญิง

แข้งสาวญี่ปุ่นไล่ตีเสมอสหรัฐ2ครั้งต่อเวลาเสมอ2-2 ก่อนชนะจุดโทษ 3-1คว้าแชมป์ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก

ภาพจากเอเอฟพี

ศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2011 นัดชิงชนะเลิศ ทีมชาติญี่ปุ่น ลงฟาดแข้งกับ ทีมชาติสหรัฐอเมริกา ที่สนามคอมเมิร์ซ แบงก์ อารีนา เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 ก.ค.

เกมในครึ่งแรก สหรัฐเป็นฝ่ายครองเกมและมีโอกาสบุกขึ้นมาลุ้นทำประตูหลายครั้ง แต่ยังไม่เด็ดขาดพอในจังหวะสุดท้าย ขณะที่ ญี่ปุ่นเน้นตั้งรับแล้วหาจังหวะสวนกลับอยู่เป็นระยะ แต่ยังไม่สามารถยิงประตูได้เช่นกัน จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0

กลับมาลงสนามในครึ่งหลัง แข้งสาวมะกันก็ได้ประตูออกนำในนาทีที่ 69 จากจังหวะหลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษของอเล็กซ์ มอร์แกน ส่งบอลตุงตาข่ายให้สหรัฐออกนำ 1-0

จากนั้น สาวจากแดนปลาดิบเปิดเกมรุกหวังยิงประตูคืนและมาประสบความสำเร็จในนาทีที่ 81 เมื่อได้จังหวะเปิดบอลจากทางขวาเข้ามาในเขตโทษ กองหลังสหรัฐสกัดไม่ขาด บอลมาเข้าทาง อายะ มิยามิ ยิงเข้าไปให้ญี่ปุ่นตีเสมอ 1-1 และจบ 90 นาทีไปด้วยสกอร์นี้ ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที

เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 104 สหรัฐขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 จากจังหวะที่ มอร์แกน ลากบอลขึ้นไปสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางให้ แอบบี แวมบาช โขกเหน่งๆเข้าไปตุงตาข่าย

แข้งสาวซามูไรยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ สามารถตามตีเสมอได้เป็นหนที่ 2 จากลูกเตะมุม โฮมาเระ ซาวะ โฉบมาโขกที่เสาแรกเข้าไป สกอร์กลับมาเสมอกันอีกครั้งที่ 2-2

หลังจากนั้น ญี่ปุ่นเหลือผู้เล่น 10 คนในนาทีสุดท้ายของช่วงต่อเวลา เมื่อ อาซูสะ อิวาชิมิซุ ทำฟาวล์ผู้เล่นสหรัฐในจังหวะกำลังจะหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ แต่ก็ไม่มีฝ่ายใดทำอะไรกันเพิ่มได้ ครบ 120 นาทีเสมอกัน 2-2 ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ

ผลปรากฏว่า ญี่ปุ่นสังหารจุดโทษได้เฉียบขาดกว่า เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 3-1 คว้าแชมป์โลกฟุตบอลหญิงได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์และเป็นประเทศจากเอเชียชาติแรกที่คว้าแชมป์นี้ได้ นอกจากนี้ โฮมาเระ ซาวะ กองหน้าตัวเก่งของญี่ปุ่น ยังคว้ารางวัลดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ด้วยผลงานยิงไปทั้งสิ้น 5 ประตู

ขณะที่เกมนัดชิงอันดับ 3 ซึ่งลงสนามไปตั้งแต่คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา สวีเดน เฉือนชนะ ฝรั่งเศส 2-1 คว้าอันดับ 3 ไปครอง