posttoday

'ลีวายส์' ผู้นำแห่งแฟชั่นยั่งยืน

26 เมษายน 2564

ลีวายส์ (Levi’s) เปิดตัวแคมเปญระดับโลก “BUY BETTER. WEAR LONGER.” ตอกย้ำความเป็นผู้นำแห่งแฟชั่นยั่งยืน พร้อมทั้งกิจกรรม Jeans Go Green รีไซเคิลยีนส์ยั่งยืน ต้อนรับวันคุ้มครองโลก

ลีวายส์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำแห่งแฟชั่นยั่งยืน เปิดตัวแคมเปญระดับโลก “Buy Better. Wear Longer.” นำเสนอแรงบันดาลใจ ชวนริเริ่มและสานต่อด้วยการ สนับสนุนการเลือกซื้อเพื่อสิ่งที่ดีกว่า เลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มอายุการใช้งานของเสื้อผ้าที่ยาวนานยิ่งกว่า ซึ่งจะช่วยลดการซื้อ ลดปริมาณขยะ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดียิ่งขึ้นกับโลกใบนี้ ลีวายส์ ได้ถ่ายทอดแรงบันดาลใจของความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อสิ่งแวดล้อมของการผลิตและการบริโภคเครื่องแต่งกายจากกลุ่มผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง (Changemakers) ได้แก่ Jaden Smith, Xiye Bastida, Melati Wijsen, Xiuhtezcatl, Emma Chamberlain และ Marcus Rashford ซึ่งแคมเปญนี้ได้ร่วมส่งเสริมโดยเผยแพร่พร้อมกกันทั่วโลก เพื่อหวังว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนและชักชวนให้คนรุ่นใหม่ผู้ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการส่งต่อข้อความสำคัญสู่รุ่นถัดไป

'ลีวายส์' ผู้นำแห่งแฟชั่นยั่งยืน

โดยลีวายส์ ประเทศไทย ยังได้เปิดตัวกิจกรรม Jeans Go Green รีไซเคิล ยีนส์ยั่งยืน ภายใต้แคมเปญดังกล่าวเพื่อชวนเหล่าแฟนๆ มาต่อชีวิตกางเกงยีนส์ตัวเก่า สร้างคุณค่าให้กับยีนส์ตัวโปรดให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยสามารถร่วมกิจกรรมที่ ร้านลีวายส์ ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

'ลีวายส์' ผู้นำแห่งแฟชั่นยั่งยืน

ลีวายส์ ผู้ริเริ่มแคมเปญเพื่อสังคมมานานหลายทศวรรษ ไม่ว่าจะเป็นด้านความเท่าเทียมกันในสังคม การทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม รวมถึงแคมเปญที่ทำขึ้นมาเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยแคมเปญล่าสุด “Buy Better. Wear Longer.” นั้น ลีวายส์ ต้องการสื่อสารไปยังเหล่าเจเนอเรชั่นใหม่ที่ยึดมั่นในอุดมการณ์และใส่ใจสิ่งแวดล้อมพร้อมส่งต่อหัวใจสำคัญไปสู่รุ่นถัดไป เพื่อรณรงค์การสวมใส่แฟชั่นยั่งยืนอย่างแท้จริง เลือกสิ่งที่ดีกว่า เพื่อการสวมใส่เสื้อผ้าตัวโปรดได้นานยิ่งขึ้น และนำไปสู่การลดขยะ ลดภาวะโลกร้อนในที่สุด

แคมเปญ “Buy Better. Wear Longer.” ถือเป็นอภิมหาโปรเจ็กต์ในปี 2021 ที่ต่อยอดจากความตั้งใจ และทำอย่างต่อเนื่องของลีวายส์ ในการขับเคลื่อนเพื่อนำไปสู่ แฟชั่นที่ยั่งยืนมากขึ้น กระบวนการผลิต การฟอก การทำสี รวมถึงขยะจากฟาสแฟชั่นที่มาไวไปไว ก่อให้เกิดเป็นขยะในอนาคตจำนวนมหาศาล ฉะนั้นลีวายส์ จึงได้รังสรรค์นวัตกรรมแฟชั่นรักษ์โลก โดยครอบคลุมทั้งสายการผลิต ตั้งแต่การเฟ้นหาวัตถุดิบ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อาทิเช่น Cottonized Hemp (ผ้าใยกัญชงผสมฝ้าย), Organic Cotton รวมไปถึงได้ริเริ่มชวนยืดอายุให้กับยีนส์ตัวโปรด เพื่อให้ได้มาซึ่งแฟชั่นที่ยั่งยืน ทั้งนี้ลีวายส์ ยังกำหนดเป้าหมายในการลดการสร้างมลพิษและลดภาวะโลกร้อน ในปี 2025 อย่างชัดเจน ตั้งแต่การเฟ้นหาวัตถุดิบจวบจนพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อาทิ Water>LessTM ซึ่งเป็นนวัตกรรมผลิตยีนส์น้ำน้อยที่ลีวายส์ คิดค้นและทำขึ้นอย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2011 จนปัจจุบัน เพื่อให้ประหยัดน้ำจาก 3.5 เป็น 4.2 พันล้านลิตร และการนำน้ำที่เสียจากการผลิตยีนส์ผ่านกระบวนการบำบัดกลับมารีไซเคิลจาก 5 เป็น 9.6 พันล้านลิตร อีกทั้งการเลือกใช้วัตถุดิบเพื่อความยั่งยืนกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ มาเป็นวัตถุดิบพื้นฐานในการผลิต และ 65 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์ต้องถูกผลิตขึ้นจากคนงานที่อยู่ในระบบ Worker Well-being ซึ่งได้รับการคุ้มครองที่ดี มีสิทธิขั้นพื้นฐานและความเท่าเทียมในการทำงาน รวมถึงโครงการนี้ยังดูแลครอบคลุมถึงการดูแลสภาพแวดล้อมและสิ่งแวดล้อมนวัตกรรมอีกด้วย

“เราตระหนักดีว่าการผลิตและการบริโภคแฟชั่นอยู่ในระดับที่ไม่ยั่งยืน โดยจะเห็นจากสถิติระหว่างปี 2548 ถึง 2563 การบริโภคเสื้อผ้าทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เสื้อผ้าล้นตู้ สวมใส่แต่ละชิ้นไม่กี่ครั้ง และทิ้งมันไปในที่สุด ทำอย่างไรให้เราสามารถเก็บเสื้อผ้าเกินครึ่งของตู้เสื้อผ้าได้นานเหมือนที่เราเคยทำได้เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ซึ่งนี่คือเหตุผลที่เรารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ “Buy Better. Wear Longer.” เริ่มต้นจากตัวคุณ”

“เสื้อผ้าของลีวายส์ คุณจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่าง ที่มอบทั้งความทนทานสวมใส่ได้หลายชั่วอายุคนและมีคุณค่าทางจิตใจ เพราะมันคือยีนส์ตัวโปรดที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมากับคุณ มันเก็บเรื่องราวและความทรงจำดีๆไว้มากมาย เราจึงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอแฟชั่น ที่เน้นเรื่องคุณภาพและการออกแบบเพื่อคุณค่าที่ยั่งยืน” - Paul Dillinger รองประธานฝ่ายนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ 

ทั้งนี้ เนื้อหาของแคมเปญ “Buy Better. Wear Longer.” ถูกถ่ายทอดผ่านหนังสั้นที่ได้รวบรวมผลงานของ 6 นักเคลื่อนไหว (Changemakers) ผู้มีอุดมการณ์อันแน่วแน่ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับโลกใบนี้ ซึ่งสามารถสะท้อนความมุ่งมั่นของลีวายส์ที่ต้องการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนของวงการแฟชั่นได้อย่างตรงจุด อาทิ

'ลีวายส์' ผู้นำแห่งแฟชั่นยั่งยืน

Jaden Smith นักคิดผู้มีวิสัยทัศน์เดียวกันกับลีวายส์ ซึ่งแบรนด์ได้เคยร่วมงานมาอย่างยาวนาน เขาต้องการกระตุ้นให้ทุกคนตระหนักรู้เกี่ยวกับทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดบนโลกใบนี้โดยเฉพาะน้ำ เป้าหมายหลักของเขา คือ ช่วยให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น

'ลีวายส์' ผู้นำแห่งแฟชั่นยั่งยืน

Emma Chamberlain หญิงสาว Youtuber ชื่อดัง ผู้ชื่นชอบแฟชั่นและการ DIY เธอชอบนำเสื้อผ้าเก่าๆ มา DIY ให้เป็นของใหม่ ดัดแปลงโดยยึดหลักความยั่งยืน ใช้ในสิ่งที่มีอยู่ ประหยัดและสร้างสรรค์

'ลีวายส์' ผู้นำแห่งแฟชั่นยั่งยืน

Marcus Rashford นักฟุตบอลชาวอังกฤษ ปัจจุบันเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด นักเคลื่อนไหวทางการเมืองผู้ใจบุญ เขารณรงค์เกี่ยวกับปัญหาการเร่ร่อนและความอดอยากของเด็กๆ เขาเชื่อว่าเด็กทุกคนสมควรได้รับโอกาส

'ลีวายส์' ผู้นำแห่งแฟชั่นยั่งยืน

Melati Wijsen สาวน้อยลูกครึ่งเนเธอร์แลนด์-อินโดนีเซีย วัย 20 ปี ผู้ร่วมก่อตั้ง Bye Bye Plastic Bags องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ขับเคลื่อนโดยเยาวชนที่ไม่ใช้พลาสติก ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงในบาหลี ในปี 2018 นอกจากนี้เธอยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Youthtopia ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีชุมชนเป็นศูนย์กลางสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 25 ปี ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนหนุ่มสาวดำเนินการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จากผลงานของเธอเองแสดงให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่สามารถสร้างความแตกต่างได้ถึงแม้ว่าจะผ่านทางการกระทำเล็กๆน้อยๆ เช่น การซักกางเกงยีนส์ของคุณให้น้อยลง หรือซื้อเสื้อผ้าเท่าที่จำเป็น

'ลีวายส์' ผู้นำแห่งแฟชั่นยั่งยืน

Xiye Bastida เป็นนักเคลื่อนไหวด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เธอเกิดและโตที่ San Pedro Tultepec เมืองที่เผชิญทั้งภัยแล้งและน้ำท่วมเธอเข้าใจถึงอันตรายของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธออธิบายเกี่ยวกับสังคมอย่างลึกซึ้ง “วัฒนธรรมที่ถูกทิ้งร้าง” ที่ซึ่งเราชอบซื้อของและโยนทิ้งมันไป แต่ในความเป็นจริง คุณไม่เคยทิ้งอะไรไปอย่างแท้จริง เพียงแค่ย้ายมันออกไปให้พ้นจากสายตาคุณซึ่งจะกลายเป็นขยะ และจะส่งผลกระทบต่อคุณในที่สุด

'ลีวายส์' ผู้นำแห่งแฟชั่นยั่งยืน

Xiuhtezcatl นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม นักเขียน และศิลปินฮิปฮอปที่ใช้ดนตรีเล่าเรื่องเพื่อเชื่อมโยงกับคนรุ่นใหม่และสร้างการเปลี่ยนแปลงระหว่างทั้งในด้านสภาพภูมิอากาศและอธิปไตยของประชาชน โดยก่อนหน้านี้ได้ร่วมพูดในการประชุมสหประชาชาติและใน TED มุ่งเน้นไปที่นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและผลกระทบของเชื้อเพลิงฟอสซิลที่มีต่อประชาชนและสภาวะเศรษฐกิจอื่นๆ

“ท้ายที่สุดแล้วยีนส์ Levi’s ถูกออกแบบมาให้สวมใส่ได้หลายชั่วอายุคนไม่ใช่ฤดูกาล ดังนั้นเราจึงใช้แคมเปญนี้เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคมีความตั้งใจมากขึ้นเกี่ยวกับการเลือกเครื่องแต่งกายของพวกเขาเช่นสวมใส่สินค้าแต่ละชิ้นให้นานขึ้น”

“ในฐานะ บริษัทฯ ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้บุกเบิกและปรารถนาที่จะนำเสนอทางออกด้านสิ่งแวดล้อมที่สร้างสรรค์ นำเมสเสจของเราผ่านเสียงจากผู้นำรุ่นเยาว์เหล่านี้ การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นหากเราทุกคนร่วมมือกัน” Jennifer Sey ประธานแบรนด์กล่าว

'ลีวายส์' ผู้นำแห่งแฟชั่นยั่งยืน

'ลีวายส์' ผู้นำแห่งแฟชั่นยั่งยืน

และเพื่อสานต่อแนวคิดความยั่งยืนอย่างไม่หยุดยั้ง มาตลอดหลายสิบปี ลีวายส์ ประเทศไทย ยังจัดกิจกรรม Jeans Go Green “รีไซเคิล ยีนส์ยั่งยืน” ต้อนรับวัน คุ้มครองโลก (Earth Day) ชวนเหล่าแฟนๆ ร่วมต่อชีวิตกางเกงยีนส์ตัวเก่า สร้างคุณค่าให้กับยีนส์ตัวโปรดให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยสามารถนำยีนส์เก่ามาสร้างคุณค่าพร้อมรับส่วนลด 30 เปอร์เซ็นต์ และอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ จากโครงการ Jeans Go Green นี้ ลีวายส์ ร่วมส่งต่อแนวคิด ที่สุดแห่งแฟชั่นยั่งยืนด้วยการมอบ Levi’s Upcycling Tote Bag เมื่อซื้อลีวายส์ ครบ 3,500 บาท (สุทธิ)ได้ที่ร้านลีวายส์ ทุกสาขา หรือ เมื่อช้อปออนไลน์ ซื้อกางเกงยีนส์ 2 ตัว รับฟรีกระเป๋า Upcycling สุดลิมิเต็ด มูลค่า 990 บาท จำนวน 1 ใบ ซึ่งกระเป๋า Upcycling นี้ มีความ Limited และคุณค่าทุกประการที่ควรมี ด้วยทั้งการผลิตผ่านกรรมวิธี upcycling ที่ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะใบ และแน่นอนคุณค่าที่แต่ละคนจะได้รับผ่านการร่วมกิจกรรม Jeans Go Green ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึง 19 พฤษภาคม 2564