posttoday

อยากรู้จักบรูไน ต้องไปให้ทั่ว

08 ธันวาคม 2561

หลังจากเดินทางถึงประเทศบรูไน ทีมงานโลก 360 องศา

หลังจากเดินทางถึงประเทศบรูไน ทีมงานโลก 360 องศา พยายามทำตามที่ตั้งใจกันไว้แต่แรก นั่นคือการทำความรู้จักและค้นหาแง่มุมอื่นๆ ของประเทศนี้ นอกเหนือไปจากความอลังการของสิ่งก่อสร้างต่างๆ รวมถึงความร่ำรวยจากภาพที่คนรู้โดยทั่วไปคุ้นชินกัน ดังนั้นพวกเราจึงตัดสินใจเดินทางออกไปนอกเมืองหลวงกรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน เพื่อไปยังพื้นที่ทำการเกษตรซึ่งมีการทำนาปลูกข้าว

ท้องทุ่งนาสีเขียวแม้จะเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยสำหรับความต้องการในการบริโภคข้าวเป็นอาหารของคนบรูไน แต่ก็ได้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลในการเพิ่มพื้นที่ทางการเกษตรเพื่อให้เพียงพออีกทั้งยังให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพอีกด้วย การมีโอกาสได้พูดคุยกับคนดูแลแปลงข้าวเพื่อใช้เป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวสำหรับฤดูกาลเพาะปลูกต่อไป ทำให้เรารู้ว่าคนบรูไนไม่ได้ร่ำรวยไปเสียทุกคน แต่ก็ไม่มีคนจนถึงขั้นอดอยาก เพราะส่วนใหญ่แล้วภาครัฐให้การสนับสนุนในทุกช่องทาง ไม่เว้นกระทั่งเรื่องพื้นที่การทำนาของที่นี่ รวมถึงยังมีการนำองค์ความรู้ในการจัดการเรื่องดินจากประเทศไทยมาปรับใช้อีกด้วย

นอกเมืองหลวงทีมงานโลก 360 องศา ยังได้มีโอกาสแวะเยี่ยมชมสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง นั่นคือ Tasek Merimbun พื้นที่ Asian Heritage Park แห่งเดียวของประเทศบรูไน ครอบคลุมพื้นที่ราว 78 ตารางกิโลเมตร ประกอบไปด้วยพื้นที่ทะเลสาบขนาดใหญ่ และเกาะเล็กๆ อยู่ทั่วบริเวณ ภายในทะเลสาบเราได้รับคำบอกเล่าว่าเต็มไปด้วยจระเข้หลายร้อยตัว อีกทั้งกว่าร้อยละ 20 ของพืชพันธุ์และสัตว์ที่หายากของประเทศนี้ก็มารวมกันอยู่ที่นี่ ทำให้ Tasek Merimbun เป็นแหล่งศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญแห่งหนึ่งซึ่งมีนักวิชาการจากทั่วโลกเดินทางมาอยู่บ่อยครั้ง

อยากรู้จักบรูไน ต้องไปให้ทั่ว

นอกเหนือจากผืนน้ำกว้างใหญ่แล้วที่ Tasek Marimbun ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าถึงธรรมชาติแบบใกล้ชิดด้วยเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่มีหลากหลายเส้นทาง ทำให้มีโอกาสได้เห็นต้นไม้แปลกๆ พืชพันธุ์ที่แตกต่างออกไป อีกทั้งถ้าโชคดีก็อาจจะได้เห็นสัตว์หายากของเกาะบอร์เนียวด้วย แต่ก็มีข้อห้ามว่าระหว่างเดินชมศึกษาเส้นทางธรรมชาติอยู่นั้น ห้ามเอ่ยถึงจระเข้เป็นอันขาด เพราะว่ากันว่าเจ้าตัวจะมาตามเสียงเรียกเลยทีเดียว

นอกจากเส้นทางศึกษาธรรมชาติแล้วที่ Tasek Marimbun ยังพื้นที่ศูนย์ผีเสื้อให้ได้ชมความงดงามหลากสีสันของผีเสื้อนานาพันธุ์ และเรียนรู้วงจรชีวิตของผีเสื้อ แม้ว่าจะเป็นพื้นที่เล็กๆ แต่ก็นับว่าสร้างความเพลิดเพลินต่อผู้มาเยี่ยมชมได้ผ่อนคลาย และสนุกไปกับสีสันของเหล่าผีเสื้อนับร้อยนับพันที่บินว่อนดูดน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ให้ได้ชมอยู่ตลอดเวลา

ระหว่างเดินทางกลับเข้าสู่กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน พวกเราคุยกันเรื่องที่บรูไนถูกจัดเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชากรมีน้ำหนักเฉลี่ยเกินกว่าค่ามาตรฐานสูงที่สุดประเทศหนึ่งในโลก อาจเนื่องมาจากการเทียบด้วยสัดส่วนจำนวนประชากรที่มีอยู่เพียงสี่แสนกว่าคน เพราะภาพที่เราได้เห็นนั้นคนบรูไนดูแล้วมีสุขภาพแข็งแรง มีอายุเฉลี่ยค่อนข้างยืนยาว โดยปัจจัยส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการมีสวัสดิการที่ดีด้านสุขภาพจากรัฐบาล รวมทั้งการส่งเสริมการให้ประชาชนออกกำลังกายและดูแลสุขภาพ ด้วยการสร้างสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในเมือง เพื่อสร้างพื้นที่สันทนาการให้แก่ประชาชน โดยหนึ่งนั้นคือ Tasek Lama สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุด

อยากรู้จักบรูไน ต้องไปให้ทั่ว

พื้นที่ของ Tasek Lama ได้รับการพัฒนาจากรัฐบาลจากพื้นที่ป่าและภูเขาให้มีความสะดวกสบายมากขึ้นโดยยังรักษาความเป็นธรรมชาติไว้ให้มากที่สุด มีการทำทางเดินเที่ยวชมธรรมชาติ ลู่วิ่ง และพื้นที่ซึ่งมีอุปกรณ์ออกกำลังกาย ที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่สำหรับคนทุกวัยในครอบครัวครับ มาทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อการผ่อนคลาย และเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมสำหรับคนชอบออกกำลังกาย รวมทั้งนักท่องเที่ยวก็สามารถมาเที่ยวชมเพื่อพักผ่อนหย่อนใจเช่นกัน

วิถีชีวิตของคนที่นี่อาจจะดูไม่หวือหวาเต็มไปด้วยสีสัน เมื่อเทียบกับปลายทางท่องเที่ยวอื่นๆ แต่ก็มีเสน่ห์ความเงียบสงบเฉพาะตัวที่เหมาะแก่คนที่อยากพักผ่อน โดยเฉพาะเมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกับคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศบรูไนกว่า 30 ปี ผ่านช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงในยุคต่างๆ ของประเทศนี้

จากคำบอกเล่าทำให้เรารู้ว่า เมื่อครั้งที่มีการสร้างเมืองซึ่งเป็นผลจากการขุดพบแหล่งน้ำมันของประเทศนั้น มีคนไทยจำนวนมากเดินทางมาที่นี่เพื่อรับค่าตอบแทนจำนวนสูงลิ่วนั่นคือวันละ 600 บาท เมื่อกว่า 30 ปีก่อนในการทำงานด้านการก่อสร้าง และถึงแม้ว่าบรูไนจะเป็นประเทศมุสลิม แต่ก็เปิดกว้างแก่นักท่องเที่ยวทั้งเรื่องอาหารการกิน เครื่องดื่มที่หลากหลาย เพียงแต่ขอให้อยู่ในกฎเกณฑ์ที่เหมาะสม

อยากรู้จักบรูไน ต้องไปให้ทั่ว

จนถึงทุกวันนี้สำหรับคนไทยที่สนใจจะมาเยือนบรูไน ก็ใช้เวลาเพียงแค่สองชั่วโมงกว่าๆ ก็จะเดินทางสู่หนึ่งในประเทศกลุ่มอาเซียน ที่มีวัฒนธรรมความเป็นอยู่แตกต่างไปจากเมืองไทย มีบ่อน้ำมัน มีทะเลสวยงาม มีป่าไม้ภูเขาที่ยังอุดมสมบูรณ์ ผู้คนมีชีวิตเรียบง่ายและเป็นมิตร

เมื่อพูดถึงอาหารการกิน เราได้รับคำบอกเล่าว่าบรูไนขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเล มีตลาดปลาที่มีของทะเลสดๆ ให้เลือกซื้อได้ทุกวันจากการทำประมงชายฝั่ง อีกทั้งราคาไม่สูงเมื่อเทียบกับเมืองไทย รวมถึงคนบรูไนยังนิยมบริโภคอาหารทะเลอีกด้วย แต่ขณะเดียวกันคนบรูไนก็นิยมชมชอบรสชาติของอาหารไทย ทำให้กิจการร้านอาหารไทยในประเทศบรูไนค่อนข้างมั่นคง

การได้เดินเที่ยวชมตลาดปลาที่ Jerudong ทำให้พวกเราได้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของที่นี่ ความแตกต่างและความคล้ายคลึงกันของอาหารการกินและพืชผัก โดยเฉพาะเราได้รู้ว่าคนบรูไนนิยมทุเรียนไม่แพ้คนไทย แต่หากมาแล้วมีทุเรียนพันธุ์ Sulok ซึ่งเป็นพันธุ์พื้นเมือง เนื้อทุเรียนสีแดงส้มให้ลิ้มลองและหาจากที่อื่นไม่ได้อีกด้วย

อยากรู้จักบรูไน ต้องไปให้ทั่ว

ปิดท้ายกันด้วยตลาดกลางคืน Gadong อีกหนึ่งแหล่งพักผ่อนหย่อนใจยามค่ำคืน เต็มไปด้วยของกินของใช้หลากหลายให้ได้เพลิดเพลิน ก่อนจะกลับไปพักผ่อนเก็บแรงเพื่อออกไปค้นพบประสบการณ์ใหม่ๆ ในประเทศบรูไนที่ยังมีเรื่องราวให้เรียนรู้ ในรายการโลก 360 องศา ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 HD เช้าวันอาทิตย์ เวลา 08.00-08.30 น.