posttoday

ขับไปเที่ยวไป ในโอกินาวา (2)

18 พฤศจิกายน 2561

วิธีที่ดีที่สุดในการเดินทางเที่ยวโอกินาวา

วิธีที่ดีที่สุดในการเดินทางเที่ยวโอกินาวา คือ การขับรถ อยากจะไปเที่ยวที่ไหนขับรถไปได้หมด เว้นเสียแต่จะเที่ยวเกาะอื่นๆ ที่ต้องนั่งเครื่องหรือต่อเรือไป ถนนที่นี่ขับง่ายขับได้เรื่อยๆ เพราะมีแค่ถนนสายหลัก สายรอง และทางด่วน ไม่เยอะเส้นมากสายเหมือนเมืองใหญ่ เราขับรถจากเมืองนาฮะขึ้นทางด่วนไปยังอะควอเรียม เพราะประหยัดเวลาและทำให้เราทันไปดูโชว์โลมารอบบ่ายโมง แต่ก็ต้องแลกด้วยค่าทางด่วนเช่นกัน หากท่านใดวางแผนเดินทางโดยใช้ทางด่วนหลายครั้ง หรือเป็นระยะทางไกลๆ หลายวัน ขอแนะนำให้เช่า ETC Card จะสะดวกกว่าที่ต้องมาจ่ายต่อเที่ยว แต่ทริปนี้คำนวณแล้วว่าใช้ทางด่วนไม่เกิน 2 ครั้ง นอกนั้นเป็นการขับเที่ยวลัดเลาะไปตามเมือง หรือใช้เส้นทางเลียบชายฝั่งแทน เลยไม่ต้องเช่า

พอขับทางเข้าทางด่วน ให้สังเกตป้ายตรงช่องทางเข้าให้ดี สำหรับท่านที่ไม่มี ETC Card ให้เข้าช่องจ่ายเงินปกติ เป็นป้ายสีเขียว เขียนว่า 一般 ส่วนท่านที่ใช้ ETC Card ให้เข้าช่องป้ายสีม่วงที่เขียนว่า ETC ได้เลย ระหว่างวิ่งอยู่ทางด่วน มีหลายช่วงที่เราเห็นชุมชนและบ้านเรือน แต่ดูแล้วไม่รู้สึกเหมือนว่าอยู่ในญี่ปุ่นเลย เพราะสถาปัตยกรรมนั้นแตกต่างไปจากที่เราคุ้นชิน ช่วงที่เราไปนั้นเป็นเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นหน้าฝนพอดี ขับรถไปฝนตกไปตลอดทาง เดี๋ยวหนักเดี๋ยวซาเป็นอย่างนี้ตลอดวัน ก็ต้องขับระวังกันพอสมควร เพราะถึงรถจะไม่เยอะและคนขับมีวินัยกว่าบ้านเรา แต่ไม่ประมาทดีที่สุด หลังจากลงทางด่วนแล้ว ก็ขับเข้าเมืองโดยใช้ถนนเลียบชายฝั่ง เสียดายถ้าวันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสไร้เมฆฝน ก็คงเป็นการขับรถกินลมชมวิวสวยๆ ตลอดทางอย่างแน่นอน

ขับไปเที่ยวไป ในโอกินาวา (2)

พอถึงตัวเมืองปุ๊บก็จะเห็นป้ายบอกทางไปยังอะควอเรียมชัดเจน เหมือนขับรถในกรุงเทพฯ แล้วเจอป้ายไปสุวรรณภูมิยังไงยังงั้น ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงอะควอเรียมโดยใช้เวลาราวหนึ่งชั่วโมงครึ่ง หลังจอดรถในอาคารเรียบร้อย ก็ไม่รีรอรีบเดินไปยังที่ชมโชว์โลมาทันที เพราะโชว์รอบบ่ายโมงใกล้จะเริ่มแล้ว ถึงจะเป็นวันธรรมดา แต่ผู้คนที่พาครอบครัวมาเที่ยวก็มีจำนวนไม่น้อย พื้นที่บนอัฒจันทร์ถูกจับจองแน่นขนัด แต่ก็ยังพอมีที่นั่งว่างให้เราอยู่บ้าง ว้าว! เริ่มโชว์กันแล้ว ทั้งโลมาปากขวดอินโดแปซิฟิก และวาฬเพชฌฆาต ต่างวาดลวดลายกระโดดพลิ้วไหวขึ้นบนอากาศ บ้างก็ว่ายน้ำกระดกหางเหนือผิวน้ำ หรือกระโดดสูงแตะลูกบอล สร้างความตื่นตาตื่นใจเรียกเสียงปรบมือจากผู้ชมได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะความน่ารักกวนๆ ของวาฬเพชฌฆาตขนาด 600 กิโลกรัม ที่ได้ใจเราไปเต็มๆ

ชมโชว์จบก็ไปซื้อตั๋วเข้าชมอะควอเรียมกันต่อ Shuraumi Aquarium เป็นอะควอเรียมที่มีขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก จำลองระบบนิเวศในทะเลคุโรชิโอะ ซึ่งเป็นทะเลกระแสน้ำอุ่น ที่มีปลาชุกชุมและปะการังอุดมสมบูรณ์ มีตู้ปลาระดับเวิลด์คลาสขนาด7,500 ลบ.ม. และตู้ขนาดต่างๆ อีกกว่า 70 ตู้ ให้เราเรียนรู้และชมความงามของสัตว์น้ำในทะเลโอกินาวาได้อย่างจุใจ ก่อนที่เราจะตามหาน้องฉลามวาฬ ตามคอนเซปต์ที่เราวางไว้ ต้องผ่านความน่ารักของปลาทะเลเขตร้อนเสียก่อน แอบทึกทักไปเองว่าปลาเหล่านี้กำลังว่ายทักทายต้อนรับพวกเราเข้าสู่อะควอเรียมอย่างเป็นทางการ ความพิเศษอยู่ตรงตู้กระจก 6 ด้านทำจากอะครีลิก เวลามองจากแต่ละด้านจะเห็นในมุมมองที่แตกต่างกันออกไป เดินไปเรื่อยๆ ผ่านทะเลปะการัง ผ่านตู้ปลาเดี่ยวที่อาศัยตามปะการัง เช่น ปลาไหลสวนลายจุด ที่มักจะยื่นหัวออกมาจากทรายเพื่อหาอาหาร และโซนต่อมาที่ชอบมากเป็นพิเศษคือ ตู้แมงกะพรุนพระจันทร์และแมงกะพรุนถ้วยที่ล่องลอยเคลื่อนไหวไปตามกระแสน้ำ เสมือนนกที่โผบินลู่ลมอยู่บนท้องฟ้า

ขับไปเที่ยวไป ในโอกินาวา (2)

จากนั้นเราก็ได้พบกับน้องฉลามวาฬที่เราตามหา สวยงามมาก ดูนั่นสิ! ฉลามวาฬตัวใหญ่ลายจุดสีขาวกำลังว่ายผ่านกระจกด้านหน้า พร้อมปลากระเบนและฝูงปลาอีกจำนวนมาก เป็นซีนที่ทุกคนต่างต้องเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกจริงๆ ฉลาวาฬเป็นสัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และที่นี่มีถึง 3 ตัว เพาะพันธุ์และเลี้ยงโดยมนุษย์ และยังมีปลาอีกหลากหลายชนิด เช่น ปลากระเบนลายเสือ ปลากระเบน Nanyo ซึ่งเป็นปลากระเบนที่ใหญ่ที่สุด เวลาว่ายจะดูคล้ายกับการกระพือปีก หรือปลาเล็กๆ ที่อยู่รวมกันเป็นฝูงอย่างปลาลัง ซึ่งขยายพันธุ์ในแถบโอกินาวาเท่านั้น ทั้งหมดอยู่รวมกันอยู่ในตู้ปลาใหญ่ กว้าง 27 เมตร ยาว 35 เมตร และลึก 10 เมตร มีที่นั่งให้เราชมความน่ารักของปลาเหล่านี้ได้ หรือจะนั่งจิบเครื่องดื่มชมวิวตู้ปลาที่ Ocean Blue café ก็ได้เช่นกัน เราใช้เวลาอยู่ตรงนี้พอสมควร จนได้เวลาโชว์ให้อาหารพอดี น้องฉลามวาฬใช้ปากอันกว้างค่อยๆ สูบอาหารเข้าไปแล้วปล่อยน้ำผ่านเหงือกออกมา ว้าว! ดูแล้วก็ทึ่งไปเลย ภารกิจหลักของเราในวันนี้สำเร็จลุล่วงตามคอนเซปต์ที่วางไว้

ขับไปเที่ยวไป ในโอกินาวา (2)

เหลือบดูนาฬิกาเราควรจะไปเช็กอินเข้าที่พักได้แล้ว ตั้งพิกัดต่อไปยังเกาะ Saseko จากอะควอเรียมขับลงมาทางใต้นิดหนึ่งก็ถึงเกาะที่ตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือ Motobu โดยสามารถข้ามสะพานที่เชื่อมระหว่างเกาะใหญ่มายังเกาะแห่งนี้ แล้วลัดเลาะมาตามถนนสายเล็กๆ จนมาถึงที่พักของเรา E-Horizon Resort ที่พักขนาดกะทัดรัด ไม่มีลิฟต์ มีโถงกลางที่มีทีวี และครัวให้ใช้ได้อย่างอิสระ ภายในห้องมี 2 เตียง มีตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า และมีห้องน้ำในตัว และมีเพียงฉากกั้นคั่นระหว่างเตียงนอนกับห้องน้ำเท่านั้น เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ในการค้างแรมที่ญี่ปุ่น แต่ความดีงามคือห้องพักเห็นวิวทะเล พระอาทิตย์มาโผล่ทักทายเราแต่เช้ามืดเลย วันนี้ผ่านการเดินทางมาอย่างยาวนาน เจอเตียงนอนก็อยากจะล้มตัวลงนอน แต่ท้องดันร้องโครกคราก เลยต้องหาข้าวเย็นจัดเต็มเสียหน่อย สอบถามเจ้าหน้าที่โรงแรมให้แนะนำเรื่องร้านอาหาร ได้ความว่าร้านส่วนใหญ่จะอยู่แถวท่าเรือที่เกาะใหญ่ เราขับรถวนกันอยู่ 2 รอบ เพราะตัดสินใจไม่ได้ว่าจะกินอะไร สุดท้ายมาจบที่ Steak House 88 ร้านสเต๊กขึ้นชื่อของโอกินาวา ที่มีราคาย่อมเยาจนไปถึงปานกลาง แถมสลัดยังตักฟรีได้อีก

ขับไปเที่ยวไป ในโอกินาวา (2)

วันแรกในโอกินาวาช่างผ่านไปอย่างช้าๆ เราค้นพบว่าการมาพักที่เกาะ Saseko แห่งนี้ ช่วยให้เราได้พักผ่อนร่างกายอย่างเต็มที่ เพื่อพร้อมรับวันใหม่ได้อย่างสดใสและมีชีวิตชีวา