posttoday

สวนนกชัยนาท ไม่แวะถือว่าพลาด

28 ตุลาคม 2561

สวนนกชัยนาทเป็นสวนนกที่มีชื่อเสียงมาช้านานมากกว่า 35 ปี

โดย / ภาพ : กั๊ตจัง 

สวนนกชัยนาทเป็นสวนนกที่มีชื่อเสียงมาช้านานมากกว่า 35 ปี เราเองก็ได้แต่ขับผ่านทุกครั้งที่เดินทางขึ้นไปเที่ยวภาคเหนือโดยที่ไม่รู้เลยว่า ที่สวนนกแห่งนี้มีดีมากกว่าการดูนก เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของ จ.ชัยนาท ที่คุณควรแวะพาเด็กๆ เข้ามาเที่ยวชมสักครั้งในชีวิต

จุดเด่นของสวนนกแห่งนี้คือ กรงนกขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย และแหล่งความรู้สำหรับเด็กๆ ที่มีมากกว่านก เพราะมีทั้งพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจืด และท้องฟ้าจำลอง รวมอยู่ในสถานที่แห่งเดียวกัน เรียกได้ว่าเสียค่าบัตรผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 15 บาท แต่ความรู้ความสุขที่ได้รับคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม แม้สถานที่จะดูเสื่อมโทรมลงไปบ้างตามกาลเวลา แต่ความสะอาดและการบริการของเจ้าหน้าที่ไม่เคยลดลงไปเลย

การเดินทางไปเที่ยวที่สวนนกชัยนาท จากกรุงเทพฯ ไปใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งเราแนะนำให้เดินทางไปเที่ยวในวันธรรมดาช่วงปิดเทอม นักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก และยังพอมีที่จอดรถฟรีด้านหน้าสวนนก หากไปช่วงวันหยุดคุณอาจจะต้องจอดรถบริเวณริมถนนด้านหน้า หรือจอดรถในสถานที่จอดรถเอกชนที่คิดค่าจอดรถฝั่งตรงข้ามสวนนกแทน

สวนนกชัยนาท ไม่แวะถือว่าพลาด

ช่วงเวลาที่ควรไปถึงประมาณ 9 โมงเช้ากำลังดีครับ อากาศยังไม่ร้อนมาก เจ้าหน้าที่ตระเตรียมสถานที่ไว้พร้อม และเราจะได้มีเวลาเดินเที่ยวชมได้โดยไม่เร่งรีบ หากไปเช้ากว่านี้บางจุดอาจจะยังไม่เปิดให้บริการ หรือสายกว่านี้เราจะเดินเที่ยวชมไม่ทันครบก็ต้องกลับเสียก่อน อีกทั้งตามธรรมชาติของนกจะมีวิถีชีวิตออกหากินในช่วงเช้าเสียมากกว่า ตกบ่ายเราจะไม่ค่อยเห็นนกบินไปบินมาสักเท่าไร

จุดแรกหลังจากผ่านประตูคุณจะเห็นรูปปั้นนกอินทรียักษ์ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ข้างหน้า ไม่ว่าคุณจะยืนอยู่จุดไหนของสวนนกที่มีพื้นที่กว่า 50 ไร่ คุณก็จะเห็นแลนด์มาร์คแห่งนี้อย่างแน่นอน แวะถ่ายภาพให้อาหารปลา หากคุณไปถึงแต่เช้า เราแนะนำให้รอรถไฟฟ้านำเที่ยวเพื่อพาคุณไปส่งที่กรงนกยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย บนพื้นที่กว่า 26 ไร่

คำแนะนำสำหรับการเที่ยวกรงนกยักษ์แห่งนี้คือการเดินเที่ยวชมด้วยความสงบ และงดสูบบุหรี่ ทำตัวเสมือนเรากำลังเดินเข้าป่าจริงๆ บรรยากาศจะดูคล้ายกับภาพยนตร์เรื่องจูราสสิกพาร์คนิดๆแต่สนุกและเด็กๆ จะตื่นเต้นกับบรรดานกยูงที่เดินไปมาอย่างอิสระ นกที่บินคาบกิ่งไม้ขึ้นไปทำรัง และสัตว์อื่นๆ ที่อยู่ภายในกรงนกยักษ์แห่งนี้ทำเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่มีความน่าสนใจอย่างมาก

สวนนกชัยนาท ไม่แวะถือว่าพลาด

นอกจากจะเหมาะกับเด็กๆ ได้เดินศึกษาวิถีชีวิตของนกเหล่านี้แล้ว ยังเหมาะกับช่างภาพสมัครเล่นที่กำลังเริ่มต้นหัดถ่ายภาพนก และสัตว์ป่าด้วยเช่นกัน ถ่ายแล้วบอกว่าไปถ่ายในป่ามาก็มีคนเชื่อนะเพราะข้างในเป็นพื้นที่ป่าที่ค่อนข้างใหญ่มาก

ออกจากกรงนกยักษ์แล้วค่อยมาเดินดูนกหายากที่อยู่ในกรงกว่า 60 ชนิด เดินชมกันเพลินๆ แต่ส่วนใหญ่จะเดินดูแบบผ่านๆ ก็ไม่ว่ากันเพราะยังมีไฮไลต์ของสวนนกชัยนาทรออยู่อีกจุดหนึ่งก็คือ อาคารแสดงพันธุ์ปลาลุ่มน้ำเจ้าพระยา สวนนกชัยนาท ที่เน้นปลาและสิ่งมีชีวิตแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่หล่อเลี้ยง
ชีวิตชาวสยามมาแต่โบราณกาล ข้างในมีปลาหลากหลายสายพันธ์ุซึ่งเราส่วนใหญ่จะเคยได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยเจอตัวเป็นๆ ว่ายอยู่ในน้ำให้เราได้เห็นกัน

มองภาพแล้วอาจจะว่าเล็กแต่ของจริงปลาตัวใหญ่มากครับ เผลอๆ ตัวใหญ่กว่าผู้ใหญ่อย่างเราๆท่านๆ เสียอีก และแต่ละสายพันธุ์อ่านข้อมูลแล้วก็ได้ความรู้แล้วก็ได้ความอยากอาหารผุดขึ้นมาในสมอง พลางคิดไปว่าจับมานึ่งบีบมะนาวก็ดี เอามาทอดแล้วราดพริกแกงก็คงอร่อยไปอีกแบบ เพราะปลาเหล่านี้คืออาหารของคนไทยที่เราคุ้นเคยกันดี บางพันธุ์เป็นที่นิยมก็เพาะเลี้ยงเป็นปลาเศรษฐกิจ บางสายพันธุ์ไม่เป็นที่นิยมก็เป็นปลาตามแหล่งน้ำธรรมชาติให้ชาวบ้านไปตกไปจับมารับประทานกัน จะว่าไปแล้วคนต่างจังหวัดโชคดีกว่าคนเมืองอย่างหนึ่งตรงที่มีอาหารตามธรรมชาติให้รับประทานมากกว่าทั้งพืชผักผลไม้ และสัตว์น้ำเหล่านี้นั่นเอง

สวนนกชัยนาท ไม่แวะถือว่าพลาด

จบจากพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเราไปต่อกันที่ท้องฟ้าจำลอง มาต่างจังหวัดก็มีท้องฟ้าจำลองให้ได้ชมเหมือนกันครับ แม้จะไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่ากับที่กรุงเทพฯ แต่ถือว่ามีและเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องดาราศาสตร์ที่ดีแห่งหนึ่ง รอบการแสดงจะมีขึ้นทุก 45 นาที ระหว่างรอเราสามารถเดินชม นิทรรศการด้านดาราศาสตร์ไปพลางๆ ก่อน ความรู้ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับดาวเคราะห์ในระบบสุริยะซึ่งเป็นเรื่องดาราศาสตร์ที่ใกล้ตัวเรามากที่สุด

ส่วนการฉายท้องฟ้าจำลองก็ดูเพลินๆ เหมาะสำหรับเด็กๆ ที่ยังไม่ได้มีความรู้เรื่องดาราศาสตร์มากนัก ส่วนผู้ใหญ่ก็ดูได้มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยบางอย่างเกี่ยวกับความเชื่อและความแตกต่าง บนท้องฟ้าที่เราอาจจะคิดไม่ถึงก็หาดูได้จากที่ท้องฟ้าจำลองแห่งนี้

ออกมาจากท้องฟ้าจำลองจะมีอีก 2 จุด ที่เราเที่ยวได้ก็คือ สวนน้ำอวกาศ เป็นสวนน้ำขนาดเล็กในธีมหุ่นยนต์อวกาศ ค่าเข้าไม่แพง แต่ต้องเตรียมชุดเล่นน้ำไปเอง และที่อยู่ใกล้ๆ กันก็คือ พิพิธภัณฑ์ไข่นก เป็นส่วนที่ให้ความรู้เรื่องไข่นกแต่ละชนิด ขนาด และรูปแบบของรังที่ใช้ฟักไข่นกในแต่ละสายพันธ์ุทำให้เรารู้ว่าแท้จริงแล้วนกที่เราเห็นอยู่มากมายนั้น เป็นสิ่งที่มีชีวิตที่เปราะบางกว่าที่เราคิดไว้มาก

สวนนกชัยนาท ไม่แวะถือว่าพลาด

กล่าวกันว่า ถ้าเราอยากรู้ดัชนีชี้วัดความสมบูรณ์ของป่าและพืชพรรณไม่ต้องส่งโดรนขึ้นไปสำรวจให้เหนื่อย ให้ดูที่นกนี่ละ ป่ายิ่งสมบูรณ์นกยิ่งมาก ส่วนป่าไหนมีสัตว์อาศัยอยู่มากให้ดูที่เสือเพราะเสือจะอาศัยอยู่ใกล้แหล่งฝูงสัตว์ที่อุดมสมบูรณ์เท่านั้น

สิ่งสุดท้ายที่เราอยากจะพูดถึงสวนนกชัยนาทแห่งนี้ก็คือ น่าเสียดายที่แหล่งท่องเที่ยวดีๆ แบบนี้กลับถูกมองข้ามจากนักท่องเที่ยวและหน่วยงานภาครัฐ จนทำให้ดูทรุดโทรมลงไปมากถ้ามีเงินทุนเข้ามาปรับปรุงก็คงจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งที่เชิดหน้าชูตาประเทศไทยของเราได้ดี