posttoday

Mensooree Okinawa (2)

30 กันยายน 2561

จากเกาะโคริ เราออกเดินทางกันต่อไปยังอุทยานทางทะเลบูเสะนะ Busena Marine Park

จากเกาะโคริ เราออกเดินทางกันต่อไปยังอุทยานทางทะเลบูเสะนะ Busena Marine Park ที่อยู่ในเมืองนาโกะเช่นกัน ตัวอุทยานทอดยาวจากชายหาดบูเสะนะไปสุดยังปลายแหลม รถบัสของเรามาถึงยังบริเวณลานจอดรถของโรงแรม Busena Terrace ที่นี่เป็นความภาคภูมิใจของคนโอกินาวา เพราะเป็นสถานที่จัดการประชุมสุดยอดผู้นำ G8 Kyushu Okinawa Summit ในปี ค.ศ. 2000 ลงจากรถเราเดินตามคุณไกด์ไปยังบริเวณป้ายรอรถบัสที่อยู่บนถนนเส้นเล็กหลังโรงแรมเลียบชายหาดบูเสะนะ เพื่อขึ้นรถไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ เป็นรถบัสตกแต่งให้เหมือนรถรางที่ทางการท่องเที่ยวบูเสะนะจัดเตรียมไว้บริการนักท่องเที่ยว สามารถขึ้นได้ฟรีไม่คิดค่าใช้จ่าย มีออกทุก 20 นาที จอดรับส่งยังจุดท่องเที่ยวทั้งหมด 4 ป้าย
 

Mensooree Okinawa (2)

 
บริการตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึงราว 5 โมงเย็น ระหว่างที่รถเคลื่อนตัวออกไปยังจุดหมายแรก มองชมวิวทั้งสองฝั่งของถนนแล้วไม่คิดว่านี่คือญี่ปุ่น เพราะอากาศร้อนและมีแนวต้นปาล์มเรียงรายตามแนวชายหาดสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีฟ้ามรกตใสแจ๋ว ถ่ายรูปลงโซเชียลอาจมีคนคิดว่าเป็นถนนเลียบชายหาดที่ไหนสักแห่งในแคลิฟอร์เนียก็ได้ นั่งรถกินลมชมวิวเพลินๆ กันแป๊บเดียวก็สุดทาง อันเป็นที่ตั้งของ The underwater observatory หรือหอสังเกตการณ์ใต้น้ำแห่งเดียวของโอกินาวา จากป้ายรถมองเห็นสะพานเชื่อมอาคารที่ทอดยาวไปในทะเล ระหว่างที่เดินข้ามสะพานมองลงไปน้ำทะเลใสแจ๋วเห็นปลาแหวกว่ายในน้ำอย่างชัดเจน ต้องรอต่อแถวกันนิดนึงที่หน้าประตู เนื่องจากช่วงที่เราไปนั้นเป็นช่วงวันหยุดหน้าร้อนของญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวก็จะเยอะหน่อย ใครเบื่อระหว่างยืนรอก็มีตู้หยอดเหรียญซื้ออาหารให้ปลาไปพลางๆ พักเดียวก็ถึงคิวพวกเราที่พร้อมจะลงไปผจญภัยยังโลกใต้ท้องทะเลกันแล้ว ทางลงเป็นบันไดวนลงไปเจอกับโถงสังเกตการณ์ใต้ทะเล มีลักษณะทรงกลมสามารถเดินได้โดยรอบ มีหน้าต่างให้ชมวิว 24 บาน มองเห็นปลาหลากสีหลายพันธุ์ รวมทั้งพืชทะเลและปะการังที่สมบูรณ์ ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งเรือดำน้ำชมวิวเลย หลังจากชมจนอิ่มหนำแล้วก็ได้เวลากลับขึ้นมายังด้านบน นอกจากหอสังเกตการณ์แล้ว ที่นี่ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตคือ เรือท้องกระจกให้นั่งชมความงามของท้องทะเลได้ด้วย แต่เนื่องจากแถวยาวไปสักหน่อย จึงต้องตัดใจไว้มาลองในคราวหน้า
 

Mensooree Okinawa (2)

 
พวกเรากลับมายังจุดจอดรถบัส เพื่อขึ้นรถไปยังจุดชมวิวอีกแห่งที่ใครมาโอกินาวาแล้วไม่ได้มาเช็กอินถือว่าพลาด ที่นี่คือ Manzamo หรือผาหินมันซะ ลานทุ่งหญ้าเขียวขจีบนหน้าผาที่สามารถมองเห็นความงดงามของน้ำทะเลสีฟ้าใสไกลสุดตา มีเส้นทางเดินวนรอบหน้าผาหินที่สายโฟโต้ต้องปลื้มมาก เพราะไม่ว่าจะหยุดยืนอยู่ตรงจุดไหนก็ได้ภาพงามทุกจุด ทั่วบริเวณหน้าผาเต็มไปด้วยเหล่ากลุ่มหินสีดำสลับเทาและพืชพันธุ์ไม้พุ่มเล็กอายุเก่าแก่ จนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นเขตพันธุ์ไม้เก่าแก่ของจังหวัดโอกินาวา จังหวะเวลาที่เรามาก็เหมาะมากคือช่วงที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน สัมผัสกับสายลมเอื่อยๆ เสียงคลื่นกระทบผา และอาทิตย์กำลังลับฟ้า ทั่วทั้งบริเวณทุ่งหญ้าและผาหินถูกอาบด้วยแสงสีทอง เป็นบรรยากาศที่โรแมนติกสุดๆ ดื่มด่ำกับธรรมชาติอันงดงามจนมารู้ตัวกันอีกทีก็หมดเวลาต้องกลับไปที่รถบัสใหญ่กันแล้ว ระหว่างทางกลับเข้าเมืองนาฮะ รถบัสแวะจอดที่สุดท้ายคือร้านของฝากชื่อดัง Okashi Goten Onna Village ขุมทรัพย์แห่งขนมนมเนย ของที่ระลึก และของฝากชื่อดังของโอกินาวา ทางเข้าเป็นซุ้มประตูสีแดงกระเดียดไปทางจีนมากกว่าญี่ปุ่น เป็นการบ่งบอกถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมของเกาะแห่งนี้ เรื่องช็อปปิ้งนี่ไม่มีชาติไหนยอมใคร พอรถจอดปุ๊บทุกคนก็กระจัดกระจายไปตามความชอบ
 

Mensooree Okinawa (2)

 
แต่สำหรับนักนิยมขนมหวานอย่างเราขอสำรวจเก็บข้อมูลก่อน ขนมจากที่นี่ส่วนใหญ่ทำมาจากมันม่วงวัตถุดิบท้องถิ่นขึ้นชื่อของโอกินาวา แต่ทำไมถึงต้องเป็นมันม่วง ทำไมไม่เป็นผลไม้หรือพืชผักชนิดอื่นล่ะ สอบถามคุณไกด์ได้ใจความว่า เนื่องจากภูมิประเทศและสภาพดินของโอกินาวาเป็นดินโปร่งไม่อุ้มน้ำ แถมยังเป็นแนวผ่านของพายุทำให้ปลูกอะไรยาก แต่มันม่วงมีภูมิต้านทานต่อสภาวะอากาศแบบนี้สูง จึงปลูกกันอย่างแพร่หลาย จนในที่สุดปริมาณผลผลิตก็ล้นตลาด (เหมือนสับปะรดในตอนที่แล้ว) จึงต้องแก้ปัญหาด้วยการแปรรูป และคิดค้นผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น จนเกิดเป็นบรรดาขนมนมเนยจากมันม่วงอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ มันม่วงของโอกินาวาเรียกว่า Beni Imo แปลตรงตัวว่า มันสีม่วง แต่ที่น่าสนใจคือมันม่วงไม่ใช่พืชท้องถิ่นดั้งเดิมของโอกินาวา แล้วมันเข้ามาสู่เกาะโดดเดี่ยวกลางทะเลได้อย่างไร จากการสืบค้นได้ข้อมูลว่า เบนิอิโมะ ได้ถูกนำเข้ามายังเกาะโอกินาวาจากจังหวัดฝูเจี้ยนที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน เมื่อปี ค.ศ. 1605 และปลูกกันอย่างแพร่หลายในที่สุด มันม่วงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ตอกย้ำถึงความเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางการค้าของโอกินาวา ด้วยภูมิประเทศที่อยู่กลางทะเลอันห่างไกล จึงเป็นจุดที่เรือบรรทุกสินค้าจากจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องผ่านมาแวะเติมเสบียงและน้ำจืด จึงเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนสินค้าที่โดดเด่นกลางทะเลแถบนี้ โดยเฉพาะในช่วงที่ญี่ปุ่นปิดประเทศ ซึ่งอันที่จริงแล้วคือการหยุดความสัมพันธ์กับฝรั่ง แต่ยังค้าขายกับจีนและประเทศในแถบเอเชีย เพราะไม่มีความขัดแย้งด้านศาสนา โอกินาวาจึงยิ่งโดดเด่น เพราะเส้นทางการเดินเรือจากจีนตอนใต้มายังญี่ปุ่นต้องผ่านเกาะโอกินาวาเสมอ ทำให้สถานีการค้าแห่งนี้ได้รับอิทธิพลจากจีนมากกว่าญี่ปุ่นตั้งแต่ยุคนั้นนั่นเอง
 

Mensooree Okinawa (2)

 
กลับมาที่ร้านของฝาก ในบรรดาขนมที่ทำจากมันม่วงทั้งหมด Beni Imo Tart เป็นขนมมหานิยมที่ขายดีที่สุด ใครมาเที่ยวแล้วไม่ได้ซื้อกลับบ้าน เหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง ที่นี่นอกจากจะมีแบบสำเร็จรูปแล้ว ยังมี Nama Beni Imo Tart ทาร์ตแบบทำกันสดๆ โชว์ให้ดูด้วย ใครสนใจแบบสดใหม่ก็หาซื้อกันได้ที่นี่ แต่อายุการเก็บรักษาต่ำกว่าแบบสำเร็จรูป จะเลือกแบบไหนตัดสินใจกันเองนะครับ