posttoday

รู้ก็ช่าง ไม่รู้ก็ช่าง เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเรื่อง‘กาแฟ’ (1)

14 กันยายน 2561

เรื่อง คาเอรุ ภาพ อีพีเอ, เอเอฟพี

เรื่อง คาเอรุ ภาพ อีพีเอ, เอเอฟพี

บางคนรู้แล้ว หลายคนยังไม่รู้ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับ “กาแฟ” เหล่านี้ อย่างเช่น คนเลี้ยงแกะ เป็นผู้ค้นพบกาแฟตั้งแต่ปี ค.ศ. 800 หรือในศตวรรษที่ 9 เพราะแกะที่เขาเลี้ยงไปกินผลเบอร์รี่อย่างหนึ่งเข้า แล้วพวกมันก็ “เริงร่า” ผิดปกติ พอเขานำมาให้พระในท้องถิ่น ซึ่งนำมาต้มดื่ม ก็ปรากฏว่า นอนไม่หลับไปทั้งคืน

แล้วเรื่องที่ว่า กาแฟ เป็นสินค้าที่มีการซื้อขายกันเป็นอันดับ 2 ของโลกล่ะ รู้กันหรือยัง? ในโลกนี้มีเกษตรกรผู้ผลิตกาแฟอยู่กว่า 250 ล้านราย ใน 50 ประเทศทั่วโลก การซื้อขายกาแฟนั้นเป็นที่ 2 รองจากการซื้อขายน้ำมันเท่านั้น อีกหน่อยต้องขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแน่ เพราะคนเราเลิกใช้น้ำมัน!

เอสเปรสโซ่ในภาษาอิตาเลียน หมายความว่า “สิ่งที่ถูกบังคับให้ออกมา” เป็นการบรรยายถึงวิธีการบริวเอสเปรสโซ่ได้เป็นอย่างดี ก็คือการบังคับให้น้ำเดือดๆ ให้ผ่านออกมาจากผงกาแฟที่อัดตัวแน่นให้ได้นั่นเอง

กาแฟเป็นอาหารชนิดแรกที่ผ่านกระบวนการฟรีซดราย ซึ่งเป็นการถนอมอาหารให้สดใหม่ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ โดยผ่านเครื่องที่ทำให้อุณหภูมิลดฮวบลงไปที่ -40 องศาฟาเรนไฮต์ โดยทำมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

รู้ก็ช่าง ไม่รู้ก็ช่าง เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเรื่อง‘กาแฟ’ (1)

สำหรับเรื่องนี้ คนส่วนใหญ่ต้องรู้ว่า กาแฟมี 2 สายพันธุ์ในโลก คือ อราบิกา กับ โรบัสต้า โดย 70% ในท้องตลาดเป็นอราบิกา ขณะที่ประเทศที่ผลิตกาแฟเป็นอันดับ 1 คือ บราซิล ซึ่งผลิตมากกว่าประเทศที่ผลิตอันดับ 2 และ 3 (อย่างโคลอมเบียและเวียดนาม) กว่าเท่าตัว โดยสหรัฐอเมริกาที่มีการเสพและซื้อขายกาแฟมากที่สุดในโลกนั้น มีแหล่งผลิตกาแฟขายได้อยู่ที่เดียว คือ ฮาวาย เป็นกาแฟแสนอร่อยเสียด้วย ชื่อว่า โคน่า คอฟฟี่ มีกลิ่นรสของช็อกโกแลตแบบเน้นๆ

กาแฟ จริงๆ แล้วจัดเป็นผลไม้ (ตระกูลเบอร์รี่) โดยตัวของมันเองสามารถนำไปปรุงเป็นอาหารเพิ่มพลังงานได้ ขณะที่ส่วนเมล็ดเท่านั้นที่นำมาคั่ว เพื่อชงเป็นเครื่องดื่มยอดนิยม อย่างกาแฟ

กาแฟที่แพงที่สุดในโลกคือ กาแฟชะมด ราคาปอนด์ละ 600 ดอลลาร์สหรัฐ ว่ากันว่า เจ้าชะมด หรือภาษาท้องถิ่นสุมาตราเรียกว่า ลูวัค ชอบกินผลเบอร์รี่กาแฟเข้าไป แต่กระเพาะของมันไม่มีความสามารถในการย่อยเมล็ดกาแฟ จึงขับถ่ายออกมาหลังจากที่มีการหมักบ่มอยู่ในกระเพาะอาหาร ทำให้ได้รสชาติที่แสนนุ่มนวล

ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะแบนการขายและเสพกาแฟอยู่เนืองๆ อย่างเช่นที่เมกกะ ในปี 1511 ที่ผู้นำขณะนั้นเชื่อว่ามันกระตุ้นความคิดเห็นที่รุนแรง ส่วนในศตวรรษที่ 16 ที่อิตาลีก็พยายามแบนกาแฟ เพราะเชื่อว่าเป็นเครื่องดื่มของซาตาน อย่างไรก็ตาม
พระสันตะปาปาคลีเมนต์ ที่ 7 ทรงรักการดื่มกาแฟมาก ทำให้กาแฟรอดพ้นจากข้อครหามาได้

ยังมีที่จักรวรรดิออตโตมัน พระเจ้ามูรัดที่ 6 หลังจากขึ้นครองราชย์ในปี 1623 พระองค์ได้ร่างกฎการลงโทษสำหรับผู้ริอาจดื่มกาแฟขึ้นมาเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งมีข้อหนึ่งคือ ให้โยนลงไปในทะเล

ขณะที่รัฐบาลสวีเดน ปี 1746 ประกาศว่า กาแฟเป็นสิ่งผิดกฎหมาย รวมทั้งสิ่งละอันพันละน้อยทุกอย่างที่เกี่ยวกับกาแฟด้วย ตั้งแต่ ถ้วยกาแฟ จานรองแก้ว ช้อนคนกาแฟ ฯลฯ ก่อนที่พระเจ้าเฟรเดอริค เดอะ เกรท แห่งอาณาจักรปรัสเซีย จะมาล้มล้างในปี 1777 โดยบอกว่า กฎหมายนั้นควรมาควบคุมเครื่องดื่มเบียร์มากกว่ากาแฟ

สัปดาห์หน้ามา รู้ก็ช่าง ไม่รู้ก็ช่างกันต่อ.