posttoday

ขับรถเที่ยว ฮอกไกโด (11)

09 กันยายน 2561

ออกมาจากร้าน Rokkatei ขับรถต่อไปอีกหน่อย คุณมินาโกะขอแวะซื้อขนมที่ร้าน Cranberry

ออกมาจากร้าน Rokkatei ขับรถต่อไปอีกหน่อย คุณมินาโกะขอแวะซื้อขนมที่ร้าน Cranberry ที่ไม่คุ้นหู แต่คุณมินาโกะบอกว่าเป็นอีกหนึ่งในร้านขึ้นชื่อของ Obihiro ของเด่นของดัง คือ Sweet Potato Cake เค้กที่ทำจากมันหวาน ทางร้านรับผลผลิตโดยตรงจากฟาร์มแล้วนำมาทำเป็นเค้กแบบไม่เสียดายวัตถุดิบ เป็นขนมขายดีของร้านนี้ ซื้อเสร็จก็ขับรถต่อไปหาข้าวเที่ยงรับประทาน

การขับรถเที่ยวมันมีข้อดีตรงที่นึกอยากจะไปกินข้าวร้านไหนก็ตัดสินใจได้ทันที เมนูเด็ดของเมืองต่างๆ ในญี่ปุ่นมีเยอะแยะเหมือนบ้านเราครับ ดังนั้นถ้าอยากเข้าถึงความเป็นท้องถิ่นอย่างง่ายๆ คือ การหาจานเด็ดของเมืองให้เจอ แล้วก็จัดการมันซะ แต่มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับบางเมืองที่หาจานเด็ดแบบบอกชื่อปุ๊บรู้ปั๊บไม่ได้ เพราะบางเมนูก็ไปทับซ้อนกับเมืองข้างเคียงหรือเมืองอื่น

ขับรถเที่ยว ฮอกไกโด (11)

แต่สำหรับโทกาจิโอบิฮิโระนี่เป็นเอกฉันท์ที่แทบทุกคนในญี่ปุ่นออกปากเป็นเสียงเดียวกัน คือ Butadon หรือข้าวหน้าหมูย่าง และเมื่อพูดถึงข้าวหน้าหมูย่าง ร้านหนึ่งที่ต้องนึกถึง ก็คือร้าน Tokachi Butadon Ippin ร้านนี้เป็นผลผลิตในช่วงหลังของบริษัท Sorachi ที่มีประวัติน่าสนใจ แรกเริ่มเดิมทีบริษัทนี้ผลิตพวกน้ำหวานน้ำอัดลมที่เรียกว่า Lemonade ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1951 บ้านเราก็ พ.ศ. 2494 ก่อนผู้ใหญ่ลีตีกลอง 10 ปี

เป็นยุคที่น้ำอัดลมเริ่มเฟื่องฟูเช่นกัน Sorachi ผลิตอะไรที่เกี่ยวกับน้ำบรรจุขวดมาเรื่อย จากน้ำหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้ จนมาถึงน้ำมะเขือเทศ แล้วก็มาบิดเป็นซอสมะเขือเทศ จากนั้นก็พัฒนาไปสู่การผลิตสารพัดซอสปรุงรสในที่สุด ปี ค.ศ. 1996 ได้ออกผลิตภัณฑ์ซอสหมูย่างขึ้น และจากจุดนี้เองที่ทำให้ผันตัวไปเปิดร้านขายข้าวหน้าหมูย่าง Ippin ในปี ค.ศ. 2000 และเป็นที่นิยมของคนในท้องถิ่นจนมีการขยับขยายไปยังซัปโปโร

เคล็ดลับความอร่อยของข้าวหน้าหมูย่างอิปปินมาจาก 5 องค์ประกอบ อย่างแรกแน่นอนที่สุดต้องเป็นซอส ที่มาจากการสั่งสมความชำนาญในการผลิตสารพัดซอส จึงได้ซอสรสชาติที่ถูกอกถูกใจคนท้องถิ่นมากที่สุด และหลังจากเปิดร้าน Ippin ได้ปีเดียว ทาง Sorachi ก็ออกซอสหมูย่างอิปปินขึ้นมา และขายถล่มทลาย เลยยิ่งช่วยให้ชื่อเสียงของข้าวหน้าหมูย่างอิปปินดังขึ้น จนใครที่เวลามาโทกาจิก็ต้องหาโอกาสมาชิม อย่างที่สอง คือ เนื้อหมู ทางร้านใช้เนื้อสันนอกติดมันจากหมูท้องถิ่นที่คัดสรรเป็นอย่างดี ขอย้ำว่า หมูท้องถิ่น ไม่ใช่ Kurobuta อย่างที่หลายคนไปรีวิวไว้นะครับ

ขับรถเที่ยว ฮอกไกโด (11)

แปลกใจว่าทำไมพอเป็นหมูที่ญี่ปุ่นก็ต้องอนุมานว่าเป็นคุโรบูตะ ยังมีหมูอีกหลายสายพันธุ์ที่อร่อยไม่แพ้กันครับ อย่างที่สาม คือ ถ่าน ร้านนี้ใช้ถ่าน Binchotan ถ่านคุณภาพดีที่สุดของญี่ปุ่นทำจากไม้โอ๊กของจังหวัดวาคะยามะ ที่เผาด้วยอุณหภูมิสูงถึง 1,000 องศาเซลเซียส ได้ถ่านออกมาเป็นสีดำเปื้อนขาว จึงมีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า White Charcoal การที่ทางร้านเลือกใช้ถ่านแบบนี้ทั้งๆ ที่ราคาสูงกว่าถ่านทั่วไปก็เพราะให้ความร้อนต่ำแต่เผาไหม้ได้ยาวนาน เวลาย่างจึงค่อยๆ สุกเหมือนกรอบ

เนื้อหมูจึงนุ่มและชุ่มฉ่ำ ไม่แข็งกระด้าง มีกลิ่นหอมและกลิ่นไหม้แบบย่างไฟ อย่างที่สี่ คือ ข้าว เป็นข้าวที่ปลูกในฮอกไกโดและคัดพันธุ์ที่ให้ความเหนียวนุ่มกว่าปกติ เพราะต้องราดซอสลงไปในข้าว ถ้าข้าวร่วนเกินไปจะไม่เกาะตัว เวลากินก็ไม่ได้อรรถรส เพราะคีบทีข้าวร่วงหมด อย่างสุดท้าย คือ เทคนิคการย่าง ถึงแม้วัตถุดิบจะดีแค่ไหน แต่ถ้าขาดเทคนิคการควบคุมอุณหภูมิระหว่างย่าง จังหวะการเติมซอส ไม่ให้แห้งไป ไม่ให้เยอะไป และไม่ให้ไหม้ เพราะฉะนั้นขั้นตอนนี้จึงสำคัญที่สุดที่จะทำให้เนื้อหมูย่างออกมาได้คุณภาพตามมาตรฐานของทางร้าน และทั้งหมดนี้ คือ เส้นทางความอร่อยของข้าวหน้าหมูย่าง Ippin

ขับรถเที่ยว ฮอกไกโด (11)

เรามาจอดรถที่ข้างร้านก่อนเที่ยงเล็กน้อย เพราะปกติร้านจะแน่นจนต้องต่อคิว แต่วันนี้โชคดีที่ไปถึงยังมีโต๊ะว่าง เมนูมีให้เลือกหลายอย่าง ลำพังข้าวหน้าหมูย่างก็มี 3 ขนาดให้แล้ว คือ ไซส์มาตรฐาน 780 เยน พิเศษเพิ่มหมู 1,080 เยน หรือถ้ากินไม่จุก็สั่งแบบครึ่งถ้วย 550 เยน จะเอาแบบเป็นชุดที่มีซุปมิโสะและสลัดผักให้ด้วยก็เพิ่มเงิน 200 เยน หรือไม่ชอบราดมาบนข้าวจะสั่งแบบแยกข้าวแยกหมูก็เพิ่มค่าแยกอีก 100 เยน เกิดกินแล้วติดใจอยากสั่งหมูเพิ่มก็จานละ 680 เยน หมูเหลือสั่งข้าวเพิ่มก็ 130 เยน

ทุกอย่างมีราคาแยกราคารวมไว้ให้หมด คนไทยจะชอบมากเพราะเราชอบสั่งแยกๆ แบบนี้ ที่ประทับใจมาก คือ ในเมนูมีตารางบอกวัตถุดิบไว้ด้วย กรณีที่ใครแพ้อะไรจะได้ส่องดูก่อนว่าเมนูนั้นไม่มีของที่กินแล้วแสลง รวมทั้งตารางแคลอรีสำหรับคนควบคุมน้ำหนัก หรือการเผาผลาญในแต่ละมื้อก็มีให้ด้วยเช่นกัน ผมสั่งชุดมาตรฐานราคา 980 เยน ระหว่างรอก็ถ่ายรูปเก็บภาพไป คุณป้าที่นั่งกินอยู่โต๊ะติดกันเอ่ยปากถามว่ามาจากไหน ไม่ค่อยเห็นคนต่างชาติแถวนี้ เลยได้โอกาสวิสาสะกับคนท้องถิ่น

คุณป้าบอกเป็นแฟนพันธุ์แท้ของร้านนี้ เพราะทั้งอร่อยและราคาถูก คุณป้าไม่ได้นั่งรับประทานคนเดียวแต่มีสามีคุณป้านั่งอยู่ด้วย สามีคุณป้าทำงานอยู่ไม่ไกล ตอนกลางวันก็นัดกันมารับประทานข้าว อย่างมื้อนี้คุณป้ากินถ้วยเล็ก แฟนคุณป้ากินถ้วยมาตรฐาน ราคารวมกันแค่ 1,330 เยน คุยกับคุณป้าอย่างออกรส เลยขอคุณป้าถ่ายรูป แต่ไม่ยอม บอกว่าอาย เพราะอายุมากแล้ว อบอุ่นดีครับเวลามาต่างจังหวัด ผู้คนใจดีมีมากอยู่

ขับรถเที่ยว ฮอกไกโด (11)

พักเดียวชุดอาหารของผมก็มา ถ้วยข้าวมีฝาปิด เป็นเทคนิคอย่างหนึ่งหรือเปล่าก็ไม่ทราบ เพราะในร้านมีกลิ่นบางๆ ของหมูย่างชวนให้อยากอาหารอยู่แล้ว การเสิร์ฟข้าวมีฝาปิดเหมือนไปกระตุ้นความอยากให้มากขึ้น พอเปิดฝามาเจอหมูชิ้นโตหอมฉุยนี่คีบใส่ปากแทบจะทันใด เนื้อหมูนุ่มสมคำร่ำลือ เม็ดข้าวเหนียวหนึบเหมือนที่โฆษณา ซอสออกรสเค็มหวานทำให้รับประทานข้าวได้มากขึ้น

ซุปมิโสะก็รสชาติเบาไม่ไปกลบรสเข้มข้นของซอส พูดอย่างไม่อาย ผมกินหมดจนกวาดข้าวทุกเม็ดแทบจะหมดเกลี้ยง แม้แต่ซุปก็ซดจนหมดถ้วย เป็นอาหารจานเดียวที่อร่อยและราคาถูก ผมว่าราคาอาจจะถูกกว่า ซูชิมีดาวคำเล็กๆ คำหนึ่งเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อเทียบความอร่อยแล้ว ซูชิมีดาวเอาข้าวหน้าหมูย่างถ่านถ้วยนี้ไม่ลงครับ