posttoday

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ วัดค่ายบางกุ้ง

19 สิงหาคม 2561

การเดินทางไปท่องเที่ยว จ.สมุทรสงคราม นอกจากตลาดน้ำอัมพวา

โดย สืบสิน ภาพ : คลังภาพโพสต์ทูเดย์
 
การเดินทางไปท่องเที่ยว จ.สมุทรสงคราม นอกจากตลาดน้ำอัมพวา ที่หลายคนพูดถึง ยังมีอีกสถานที่หนึ่งที่เมื่อคนเดินทางไปแล้วต้องไม่พลาด นั่นคือ วัดค่ายบางกุ้ง
 
วัดค่ายบางกุ้ง หรือวัดบางกุ้งที่ชาวบ้านเรียกขาน เป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ในเขต ต.บางกุ้ง อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี มีจุดเด่นที่พระอุโบสถ ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ถูกปกคลุมทั้งอาคารด้วยรากของต้นโพธิ์ ต้นกร่าง และต้นไกร จนได้รับยกให้เป็นอันซีนแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสงคราม
 

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ วัดค่ายบางกุ้ง

 
พระอุโบสถเป็นอุโบสถหลังเดิมที่สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เป็นอาคารเครื่องก่ออิฐถือปูน ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา ตามแบบวัดไทยทั่วๆ ไป ถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ทั้งโพธิ์ ไทร และกร่าง มองจากภายนอก คิดว่าเป็นกลุ่มต้นไม้ใหญ่มากกว่ามีโบสถ์อยู่ข้างใน รากไม้เหล่านี้ช่วยยึดให้โบสถ์คงรูปอยู่ได้ ทั้งยังให้ความขรึมขลัง อีกด้วย ในส่วนของหน้าบันของพระอุโบสถ มีปูนปั้นลวดลายพันธุ์พฤกษาประดับด้วยเครื่องถ้วย ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย 
 
ภายในอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อนิลมณี หรือหลวงพ่อดำ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ปางมารวิชัยขนาดใหญ่สมัยอยุธยาตอนปลาย สลักจากหินทรายแดง ชาวบ้านจึงเรียกว่า “หลวงพ่อโบสถ์น้อย” เป็นที่เคารพบูชาของคนในท้องถิ่น ความศักดิ์สิทธิ์ของท่านเลื่องลือไกลไปทั่วสารทิศ ทำให้ผู้คนต่างหลั่งไหลกันมากราบไหว้ขอพรท่านมากมาย นอกจากนี้ ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสมัยปลายกรุงศรีอยุธยาเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าอีกด้วย 
 

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ วัดค่ายบางกุ้ง

 
ตามประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่า วัดนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายปี 2308 กองทัพพม่ายกเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าเอกทัศ รับสั่งให้หัวเมืองปากใต้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่ายสร้างกำแพงล้อมวัดบางกุ้ง เรียกว่า “ค่ายบางกุ้ง” โดยกองทัพพม่ายกทัพเข้ามาตามลำน้ำแม่กลองและบุกลงมาจนถึงค่ายบางกุ้ง โดยที่กองทัพของกรุงศรีอยุธยาไม่สามารถต้านทานไว้ได้ ค่ายบางกุ้งจึงแตก
 
หลังจากพม่าตีกรุงศรีอยุธยาแตกในปี 2310 ค่ายบางกุ้งก็ตกอยู่ในสภาพค่ายร้าง เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชสถาปนากรุงธนบุรีแล้ว โปรดให้ชาวจีนรวบรวมสมัครพรรคพวกมาตั้งเป็นกองทหารรักษาค่ายเก่าที่บางกุ้ง จึงเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “ค่ายจีนบางกุ้ง”
 

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ วัดค่ายบางกุ้ง

 
ในปี 2311 หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาไปประมาณ 8 เดือน กองทัพพม่านำโดยเจ้าเมืองทวายยกทัพบกและทัพเรือลงมาล้อมค่ายจีนบางกุ้งไว้ ทหารจีนที่รักษาค่ายบางกุ้งสู้รบอย่างเต็มที่แต่มีกำลังน้อยกว่าเกือบจะเสียค่ายแก่พม่า กรมการเมืองสมุทรสงครามจึงมีหนังสือกราบทูลไปยังกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงทราบจึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้พระมหามนตรี (บุญมา) เป็นแม่ทัพยกไปช่วยเหลือทหารจีน ขับไล่กองทัพพม่าทำให้ข้าศึกแตกพ่าย
 
หลังจากนั้น ค่ายบางกุ้งแห่งนี้ก็ถูกปล่อยให้รกร้างเกือบ 200 ปี จนมาถึงปี 2510 กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้ตั้งเป็นค่ายลูกเสือขึ้น (ปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้ว) และได้สร้างศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชไว้เป็นอนุสรณ์
 

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ วัดค่ายบางกุ้ง

 
วัดแห่งนี้ยังมีจุดเด่นที่มีรูปปั้นนักมวยไทยเป็นจำนวนมาก รวมถึงการตั้งค่ายจำลองเมื่อครั้งที่ทหารไทย และชาวจีนสู้รบกับทหารของพม่าอย่างกล้าหาญ และยังมีสวนสัตว์ขนาดเล็กๆ ที่มีทั้งกรงอูฐ กวาง ม้า ตั้งอยู่ในวัดบางกุ้งอีกด้วย
 
นอกจากนี้ ยังมีสระน้ำโบราณรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดความกว้างประมาณ 5 เมตร ความยาว 7 เมตร ที่ขอบสระมีกำแพงเตี้ยกั้น และกรุด้วยอิฐถือปูนลักษณะสอบลงไป ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของพระอุโบสถ กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนวัดบางกุ้งเป็นโบราณสถานของชาติในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 113 ตอนพิเศษ 50 เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2539