posttoday

กินดี อยู่ดี ตามวิถีชาวไซ่ง่อน

22 กรกฎาคม 2560

ว่ากันว่า หากไปเยือนท้องถิ่นเมืองใดแล้วยังไม่พบเห็นวิถีชีวิต ไม่ได้กินอาหารท้องถิ่น

โดย...ทีมงาน 306 องศา

ว่ากันว่า หากไปเยือนท้องถิ่นเมืองใดแล้วยังไม่พบเห็นวิถีชีวิต ไม่ได้กินอาหารท้องถิ่น นั่นหมายถึงว่า คุณยังไม่ได้เข้าถึงวิถีชีวิตและจิตวิญญาณของเมืองนั้นอย่างแท้จริง เพราะแต่ละเมืองย่อมมีความแตกต่างสร้างสีสันความประทับใจแก่ผู้มาเยือนไม่เหมือนกัน ที่ "โฮจิมินห์ซิตี้" หรือ "ไซ่ง่อน" นี้ ก็เช่นกัน ถือเป็นเมืองที่มีอาหารการกินหลากหลายสุดในเวียดนามก็ว่าได้ "โฮจิมินห์ซิตี้" ชื่อนี้ถูกตั้งขึ้น ภายหลังการรวมประเทศ กลายเป็นชื่อสากลของเมือง แต่ผู้คนส่วนใหญ่ยังคุ้นชินกับชื่อ "ไซ่ง่อน" และรู้สึกยินดีมาก ถ้าเราเรียกเขาว่า "ชาวไซ่ง่อน" หรือ "Saigonese"

ชาวไซ่ง่อน เป็นคนยิ้มแย้ม เปิดเผย ใช้ชีวิตแบบสบายๆ เห็นได้จากการใช้ชีวิตและการแต่งกาย มีนิสัยใจคอสนุกสนานเฮฮา ชอบพูดคุย ชอบกินข้าวนอกบ้าน จนกลายเป็นเอกลักษณ์แตกต่างไปจากผู้คนเวียดนามในเมืองอื่นๆ อีกทั้งชาวไซ่ง่อนเป็นคนเปิดรับทุกวัฒนธรรม จึงทำให้ร้านอาหารเมืองนี้มีอยู่มากหลากหลายประเทศ เช่น อาหารฝรั่ง อาหารจีน อาหารอินเดีย อาหารกัมพูชา อาหารเกาหลี หรือแม้แต่อาหารไทยก็สามารถพบเห็นได้ทั่วไป

กินดี อยู่ดี ตามวิถีชาวไซ่ง่อน ร้านอาหาร เกิ่ม ต๋ำ แปลว่า Broken Rice หรือข้าวหัก

 

มาถึงไซ่ง่อนทั้งทีแล้ว เพื่อให้เข้าถึงวิถีชีวิตและจิตวิญญาณของไซ่ง่อนอย่างแท้จริง ก็ต้องตามหาของกินชาวไซ่ง่อนแท้ๆ เป็นอาหารตั้งแต่สมัยโบราณ เรียกกันว่า เกิ่ม ต๋ำ แปลว่า Broken Rice หรือข้าวหัก สมัยก่อนนั้นเมื่อชาวนาสีข้าว เมื่อมีเศษข้าวหรือเม็ดข้าวไม่สมบูรณ์หากขายจะได้ราคาถูกจึงเก็บไว้กินเอง เกิ่มต๋ำ หรือข้าวหักโป๊ะหน้าด้วยกับข้าวต่างๆ ก็คือ อาหารสำหรับคนจน หรือคนใช้แรงนั่นเอง ด้วยความที่เป็นอาหารง่ายๆ และรสชาติอร่อย ปัจจุบันใครๆ ต่างก็ชอบเมนูนี้ จึงหารับประทานได้ตามร้านอาหาร หรือภัตตาคารหรูๆ จนบางครั้งข้าวหัก ไม่พอ บางร้านต้องนำเมล็ดข้าวที่สมบูรณ์มาทำเป็นข้าวหัก ให้ลูกค้าได้ลิ้มลอง แต่ที่เป็นเอกลักษณ์ต้องเป็น เกิ่มต๋ำไซ่ง่อน ข้าวโปะหน้าด้วยหมูย่างง่ายๆ รสชาติอร่อย ยิ่งเมื่อรับประทานคู่กับซอส และผักดองรสชาติเค็มๆ หวานๆ แล้วเข้ากันได้เป็นอย่างดี จนหมดจานเมื่อไหร่ไม่รู้ตัว

อาหารเช้าที่ชาวไซ่ง่อนชอบรับประทานนั้น นอกจากเฝอ บั๋นหมี่ เกิ่มต๋ำ แล้วยังมี แบ๋งก๋วน ลักษณะคล้ายกับข้าวเกรียบ ปากหม้อในบ้านเรา ไส้ในเป็นหมูสับ เห็ดหูหนู หอมหัวใหญ่ผัดรวมกับเครื่องปรุงรสต่างๆ รับประทานคู่กับถั่วงอกลวก มีหอมเจียวและผักชีโรยหน้าแล้วราดน้ำจิ้ม บางร้านจะใส่ไข่เข้าไปด้วยช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารแล้วทำให้รสชาติอร่อยแตกต่างไปอีกแบบหนึ่ง

กินดี อยู่ดี ตามวิถีชาวไซ่ง่อน อีกหนึ่งเมนูที่ชาวไซ่ง่อนนิยมรับประทาน เจ๋า หล่ง หรือข้าวต้มเครื่องในหมู

 

หลังรับประทานมื้อเช้าอิ่มหนำสำราญแยกย้ายกันไปทำมาหากินตามวิถีทาง เมื่อได้เวลาอาหารมื้อกลางวัน ชาวไซ่ง่อนนิยมรับประทาน เจ๋า หล่ง หรือข้าวต้มเครื่องในหมู เป็นข้าวที่ต้มจนนิ่ม โรยด้วยถั่วงอกและต้นหอมซอย ปรุงรสด้วย ขิง มะนาว แล้วก็พริก เจ๋า หล่ง มีส่วนประกอบเป็นพวกเนื้อหมู เครื่องในหมูต่างๆ มากมาย ให้คุณค่าทางอาหารและพลังงาน ชาวไซ่ง่อนจึงเชื่อกันว่า "เวลาคนไม่สบาย ถ้าได้ เจ๋าหล่ง ร้อนๆ เข้าไปสักชามหนึ่ง จะหายป่วยเร็วขึ้น" นอกจากมีคุณค่าทางอาหารสูงแล้ว เจ๋าหล่ง ยังถือว่า เป็นอาหารราคาย่อมเยา สามารถรับประทานเป็นอาหารมื้อไหนของวันก็ได้

หากกลางวันมื้อไหนมีนัดต้องพบปะสังสรรค์กัน ชาวไซ่ง่อนนิยมแบบร้านก๋วนอ๊อก เป็นร้านขายเมนูหอยเป็นหลัก มีหอยเกือบทุกชนิด ปรุงมาหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่จะมากับน้ำจิ้ม บีบมะนาวใส่ เติมพริกหน่อย เป็นอาหารสำหรับมารับประทานแบบกันเองๆ ไม่ค่อยเหมาะกับการรับประทานอาหารที่ต้องการความเป็นทางการหรือการออกเดทครั้งแรกของหนุ่มสาว เพราะว่าต้องใช้มือจับ บางครั้งอาจต้องใช้ปากจุ๊บเอา ทำให้บรรยากาศการรับประทานเป็นไปด้วยความสนุกสนานเพลิดเพลินเป็นกันเอง

กินดี อยู่ดี ตามวิถีชาวไซ่ง่อน พิซซ่าเวียดนาม หรือบั๋น แจง หนึง หาทานได้ริมทางทั่วไป

 

ส่วนมื้อเย็นนั้นชาวไซ่ง่อนรับประทานกันแบบสบายๆ เพราะสามารถใช้เวลาพูดคุยกับเพื่อนฝูงได้อย่างเต็มที่ไม่รีบเร่ง เมนูยอดนิยม คือ เหลย หวิด ซา โบ ว่า หรือลิ้นเป็ดในซอสซาโบ ซอส ซาโบนี้ มีรสชาติเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ สร้างความ แตกต่างและอร่อยจนติดใจไม่แพ้จานอื่น รับประทานคู่กับขนมปังบั๋นหมี่ หรือข้าวเหนียวแผ่นบางๆ เรียกว่า "โซย" แล้วโรยด้วยผักที่บ้านเราเรียกผักแพว หรือว่าผักไผ่ ทำให้มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ของอาหารเวียดนาม ตอนนี้กำลังนิยมกันมาก เป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากจีน จึงมีขายบางร้านที่พิเศษๆ เท่านั้น และถ้าจะให้อร่อยเข้าถึงและได้บรรยากาศจริงๆ นั้น ต้องใช้มือรับประทาน!!!

ชาวไซ่ง่อนบอกว่า "ถึงไซ่ง่อน ก็ต้องไปกินอาหารไซ่ง่อน แต่ถ้าอยากกินอาหารไซ่ง่อน ในบรรยากาศแบบไซ่ง่อนแท้ๆ ต้องไปนั่งกินร้านริมถนน" ร้านริมถนน หรือสตรีทฟู้ด มีอาหารและของทานเล่นมากมาย ของทานเล่นที่ขึ้นชื่อ ได้แก่ ฝาเหลา เป็นเครื่องในของวัว รวมกันในน้ำแกงมีรสชาติเหมือนน้ำพะโล้ผสมกะทิ โรยหน้าด้วยผักหอม เพิ่มรสชาติด้วยพริก ฝาเหลามีขายเฉพาะทางเวียดนามตอนใต้เท่านั้น ถ้าไปทางเวียดนามตอนเหนือก็อาจจะไม่มีโอกาสได้ลิ้มรสกัน

กินดี อยู่ดี ตามวิถีชาวไซ่ง่อน เกิ่มต่ำไซ่ง่อน ข้าวโปะหน้าด้วยหมูย่างรสอร่อย

 

ขณะเดินเล่นแถวสตรีทฟู้ดนั้น จะได้กลิ่นหอมของบั๊บซาว ลอยมายั่วยวนชวนให้อยากชิม บั๊บซาว หรือข้าวโพดผัด เป็นของทานเล่นที่ทำจากข้าวโพดดิบฝานแล้วนำมาผัดกับเนย ต้นหอมหั่นเป็นแว่น ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และกุ้งแห้ง ส่วนผสมเพียงเท่านี้ก็ทำให้กลิ่นหอมๆ ของบั๊บซาวฟุ้งไปทั่วทั้งถนน หากอยากลองรับประทานบั๊บซาว ต้องรอให้ถึงตอนเย็น เพราะร้านเปิดขายกันเฉพาะตอนเย็นๆ เท่านั้น

ภาษาเวียดนาม "งอน" แปลว่า อร่อย ถ้าอร่อยมาก ก็ "งอนหลาม" ความที่คนไซ่ง่อน ชอบออกมานั่งเล่น พูดคุยกันนอกบ้าน ตามสถานที่ยอดนิยมจุดนัดพบพูดคุย จึงเต็มไปด้วยร้านขายเครื่องดื่ม และของรับประทานเล่น ทั้งของคาวและของหวาน ของหวานขึ้นชื่อของที่นี่เรียกว่า บ่อ เบี๋ย หง่อด หน้าตาคล้ายขนมถังแตกบ้านเรา เป็นแป้งแผ่นบางๆ แล้วใส่น้ำตาล โรยด้วยมะพร้าวอ่อนขูด ตามด้วยนมข้นหวาน และงาดำ เมื่อกัดเข้าไปจะได้กลิ่นความหอมของมะพร้าวอ่อน ความหวานจากน้ำตาล แล้วก็เหนียวๆ หนึบๆ ของแป้ง เวลากัดโดนงา ก็จะกรุบๆ รู้สึกได้ถึงความ "งอน"

กินดี อยู่ดี ตามวิถีชาวไซ่ง่อน หาบเร่ขายของกิน อีกหนึ่งความนิยมของชาวไซง่อน

 

ถ้ามาไซ่ง่อน อีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดคือ พิซซ่าเวียดนาม หรือว่า บั๋น แจง หนึง หาทานได้ตามถนนทั่วไป ร้านไหนคนเยอะสุด ช่วยการันตีระดับหนึ่งว่า มีฝีมืออร่อยใช้ได้ บั๋น แจง หนึง เป็นแผ่นข้าวเกรียบบางๆ ใส่เครื่องเข้าไปด้านบน มีกุ้งแห้ง หอมเจียว ต้นหอมซอย หมูสับ ไข่นกกระทา ขิง ผักหอม แล้วก็เนย ต้องรับประทานตอนสุกใหม่ๆ เท่านั้น เพราะแป้งจะกรอบ กลิ่นเครื่องปรุงยังหอมคลุ้งอยู่ มีความเผ็ดของซอส ได้ความหอมของผัก แถมด้วยรสชาติหวานๆ ของเนยกับไข่ เอ้า "งอนหลาม" กันอีกแล้ว

ใครที่ชอบกิน เมื่อมาเวียดนาม ทีมงานโลก 360 องศา เชื่อว่าไม่มีทางเบื่อแน่นอน ที่นี่ยังมีอาหารแปลกๆ อร่อยๆ รอคอยให้ทุกท่านลองชิมลิ้มรสอยู่มากมาย ติดตามชมเรื่องราวของ อาหารการกิน วิถีชีวิต ชาวไซ่ง่อน ได้ในรายการโลก 360 องศา คืนวันเสาร์นี้ เวลา 21.20 น. ทาง ททบ.5